|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ดันสุดกำลัง! ประมูล7แสนล้านปั๊มศก.Q3-4 เคาะราคางานแรกพ.ค.นี้ บี้ขรก.เพิ่มเวลาทำงาน |
|
"ประจิน-อาคม" หัวหมู่ทะลวงฟันดันเมกะโปรเจ็กต์ เม็ดเงินลงทุนกว่า 7 แสนล้าน ปั๊มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3-4 หลังติดหล่มการเมือง อีไอเอ เวนคืนที่ดิน สั่งเพิ่มเวลาทำงาน ลุยประมูลทางคู่ รถไฟฟ้าหลากสี มอเตอร์เวย์ สนามบินแม่สอด เบตง เร่งสางปมลงทุนสุวรรณภูมิ ลั่นรถไฟไทย-จีน-ญี่ปุ่น เห็นผลเป็นรูปธรรมทั้งสัญญาและเงินลงทุนปีนี้
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลดำเนินการ 6 เดือนมีความล่าช้าโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคมไม่สามารถผลักดันให้เป็นไปตามกรอบเวลากำหนดไว้เดิม เนื่องจากติดปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง จัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เวนคืนที่ดินและเรื่องผลประโยชน์ นับจากนี้จะเร่งกระบวนการให้เร็วและกระชับขึ้นเพื่อให้โครงการเดินหน้า
Q3-4 งานทะลักกว่า 5 แสนล.
"มั่นใจไตรมาส 3 และ 4 โครงการในแผนงานจะก้าวหน้า ที่ค่อนข้างมั่นใจเพราะจากการประสานส่วนของราชการดูแลกฎระเบียบ ก็พยายามขับเคลื่อนอยู่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับระบบ COST และสัญญาคุณธรรมที่รัฐบาลนำมาตรวจสอบ ในทางกลับกันเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจและความโปร่งใสโครงการมากกว่า แต่ว่าจะทำอย่างไรให้ข้าราชการและผู้รับผิดชอบเข้าใจกฎ กติกา ขั้นตอน ทำตามแผนงานโครงการให้เต็ม 100% ขอให้ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจทำงานอย่างเต็มที่มากกว่า 5 วัน เป็นการทำงานช่วงที่เหลือ ชดเชยก่อนหน้านี้ที่ล่าช้ามานาน"
สำหรับโครงการจะเห็นผลไตรมาสที่ 3 และ 4 คาดว่ามีเม็ดเงินลงทุนรวมมากกว่า 5 แสนล้านบาท ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ 1 เมตร 6 เส้นทาง รวม 903 กม. เงินลงทุน 129,308 ล้านบาท ได้แก่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 106 กม. 11,348 ล้านบาท, จิระ-ขอนแก่น 185 กม. 26,007 ล้านบาท, ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กม. 17,929 ล้านบาท, ลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กม. 24,842 ล้านบาท, มาบกะเบา-จิระ 132 กม. 29,855 ล้านบาท และนครปฐม-หัวหิน 165 กม. 20,038 ล้านบาท
"พร้อมก่อสร้างสายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย จะประมูล มิ.ย. เริ่มสร้าง พ.ย.นี้ อีก 5 เส้นมั่นใจจะเริ่มกระบวนการประมูล ส.ค.นี้ ทั้งหมดจะแล้วเสร็จปี"61-62"
พ.ค.ชง ครม.ประมูลรถไฟฟ้า
ส่วนรถไฟฟ้าสายใหม่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ พ.ค.นี้มี 6 สาย เงินลงทุน 300,700 ล้านบาท เริ่มสร้างปี 2559 เสร็จปี 2561-2563 ได้แก่ ต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์ (ดอนเมือง-พญาไท) 21.8 กม. 31,139 ล้านบาท, สีแดง (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และบางซื่อ-หัวลำโพง) 25.90 กม. วงเงิน 44,157 ล้านบาท, สีส้ม (พระราม 9-มีนบุรี) 21.10 กม. 99,852 ล้านบาท, สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 29.10 กม. 54,644 ล้านบาท, สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 34.50 กม. 56,691 ล้านบาท และสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑลสาย 4) 8 กม. 17,217 ล้านบาท
"การลงทุนของเอกชนมีเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยาย และสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-คูคต ส่วนสีม่วงจะมีรถไฟฟ้าคันแรกมาทดสอบวิ่งปลายปีนี้ เปิดบริการต้นปีหน้า"
นอกจากนี้ยังมีปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณและซื้อหัวรถจักรใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)อาทิ จัดหารถจักรใหม่พร้อมอะไหล่ 50 คัน 6,562 ล้านบาท กำลังร่างทีโออาร์ใหม่และจัดหารถจักรใหม่ 30 คัน 3,360 ล้านบาท มาทดแทนรถจักรอัลสตอมเดิม
รถเมล์ใหม่ 489 คัน ได้ใช้ ก.ค.
รวมถึงเร่งรัดมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง วงเงิน 160,400 ล้านบาท ได้แก่ บางปะอิน-โคราช 84,600 ล้านบาท, บางใหญ่-กาญจนบุรี 55,620 ล้านบาท และพัทยา-มาบตาพุด 20,200 ล้านบาท จะเริ่มประมูลกลางปีนี้ เริ่มสร้างปี 2559 แล้วเสร็จปี 2562-2563 ส่วนรถเมล์ NGV ลอตแรก 489 คัน จะเซ็นสัญญาเอกชนเดือน เม.ย.นี้ และนำรถใหม่มาวิ่งบริการเดือน ก.ค.เป็นต้นไป
นอกจากนี้จะเห็นความชัดเจนแผนก่อสร้างรถไฟไทย-จีน และรถไฟไทย-ญี่ปุ่น 3 เส้นทาง คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1 ล้านล้านบาท ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, พุน้ำร้อน-กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ-แหลมฉบัง และหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุดและแก่งคอย-กรุงเทพฯ โดยรถไฟไทย-จีนจะสร้างช่วงที่ 1-2 กรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุดเดือน ต.ค.นี้
ลุยรถไฟไทย-จีน-ญี่ปุ่น 1 ล้าน ล.
"ส.ค.จะเห็นรูปร่างสัญญารถไฟไทย-จีน ส่วนไทย-ญี่ปุ่นจะเริ่มเห็นการสำรวจ ดีไซน์ งบฯลงทุน ซึ่งวงเงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท ในแผนงานยุทธศาสตร์ 8 ปี ไม่รวมรถไฟที่ร่วมกับจีนและญี่ปุ่น ปีนี้จะทราบว่าจะใช้เงินจากไหนในประเทศหรือนอกประเทศ" พล.อ.อ.ประจินกล่าวและว่า
สำหรับโครงการพัฒนาทางน้ำ มี 2 โครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ครม. คือ พัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง A ที่ท่าเรือแหลมฉบัง 1,864 ล้านบาท ในเดือน พ.ค.จะเริ่มประมูลและเซ็นสัญญา ก.ย.นี้ และพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง 2,944 ล้านบาท เริ่มประมูล ก.ย. อีกทั้งเร่งพัฒนาท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา 17 แห่ง 70 ล้านบาท ให้เสร็จปี 2558-2559 และเดินหน้าสร้างท่าเรือใหม่ทั้งระนอง ภูเก็ต กระบี่ และเร่งสรุปแผนพัฒนาสร้างท่าเรือปากบารา
เร่งสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา
ขณะที่การพัฒนาสนามบินจะเร่งก่อสร้างสนามบินภูมิภาคที่สำคัญเช่นแม่สอด 1,497 ล้านบาท, เบตง 1,297 ล้านบาท, ภูเก็ตและดอนเมืองเฟส 2 ให้เสร็จเดือน ส.ค.นี้ ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิ มี 3 แผนงานจะเสนอ ครม.อนุมัติ คือสร้างทางวิ่งสำรอง ความยาว 2,900 เมตร 20,243 ล้านบาท, อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านทิศเหนือ 27,684 ล้านบาท และโครงการสุวรรณภูมิ เฟส 2 (เดิม) 61,738 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างปี 2559 เป็นต้นไป
นอกจากนี้มีแผนลงทุนพัฒนาสนามบินดอนเมืองเพิ่ม 15,000-20,000 ล้านบาท และพัฒนาอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 จะมีข้อตกลงออกมาเป็นเอ็มโอยูระหว่างกระทรวงกลาโหมและกระทรวงคมนาคม จะเริ่มแผนงานปี 2559 รองรับผู้โดยสารจาก 8 แสนเที่ยวคนต่อปี เป็น 3 ล้านคนต่อปีในปี 2560
ลั่นทุกโครงการแจ้งเกดรัฐบาลนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาสภาพัฒน์ กล่าวว่า งานคมนาคมที่ล่าช้า เนื่องจากความไม่นิ่งของนโยบายการเมือง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้เพิ่งล่าช้าในรัฐบาลปัจจุบัน สาเหตุมาจากหลายส่วน เช่น มีการดึงโครงการไว้เพื่อผลประโยชน์ ติดอีไอเอ เวนคืนที่ดิน เป็นต้น นับจากจากนี้ต้องขอให้มีการเร่งผลักดันโครงการให้เป็นไปตามขั้นตอน เดินไปตามแผนแม่บทหรือมาสเตอร์แพลนที่กำหนด หากโครงการเปลี่ยนใหม่ ต้องเปลี่ยนสาระสำคัญกันใหม่ จะไม่มีใครกล้าอนุมัติ เพราะรัฐบาลมีการตรวจสอบเข้มข้น ดังนั้นโครงการที่พร้อมจะประมูลและก่อสร้างให้เริ่มต้นให้ได้ภายในรัฐบาลนี้ เพราะมีหลายโครงการที่ล่าช้ามาพอสมควรแล้ว
"ถ้าหากโครงการเป็นความปรารถนา ไม่มีผลประโยชน์เข้ามา ผมว่าก็เดินตามนี้ ไม่ต้องรอว่าใครมาเป็นรัฐมนตรี อย่างโครงการของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ทำไมวันนี้เดินหน้าได้เร็ว เพราะปลอดการเมือง ไม่มีใครมาขอ 30% ก็เดินไปได้ตามนั้น ผู้รับเหมาก็มีความพอใจ แม้จะไม่ได้มีความสุขที่สุด" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-04-2558
|
|
|
|
|
