Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ทองมา"แนะฟื้นเกณฑ์บ้านคนจน ขอบีโอไอส่งเสริมห้ามเกิน1.5ล้าน |
|
"ทองมา" บิ๊กพฤกษาฯ เจ้าพ่อทาวน์เฮาส์ราคาถูก แนะรัฐบาลฟื้นเกณฑ์บ้านบีโอไอช่วยผู้มีรายได้น้อย ชี้ช่วยส่งเสริมให้คนมีบ้านหลังแรก เสนอขยับเพดานราคาบ้านเป็น 1.5 ล้าน คอนโดฯพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 25 ตารางเมตร ราคาไม่เกิน 1.2 ล้าน จี้ขอความชัดเจนภาษีที่ดินฯ
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ภายหลังจากร่วมเป็น 1 ใน 20 ตัวแทนนักธุรกิจเข้าพบปะหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ณ บ้านเกษะโกมล เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ได้นำเสนอข้อคิดเห็นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับ ภาคอสังหาริมทรัพย์ 3 ประเด็นหลัก คือ การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่เป็นมาตรการถาวร กระจายอำนาจการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ให้ระดับจังหวัดเป็นผู้อนุมัติ และขอความชัดเจนเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
เสนอฟื้น บ้าน-คอนโดฯบีโอไอ
ขณะเดียวกันมีอีกข้อที่อยากให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการลง ทุนบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพิ่งจะยกเลิกสิทธิประโยชน์เมื่อสิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำการพัฒนาทาวน์เฮาส์ระดับกลาง-ล่าง หากรัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีบ้านหลังแรกเป็นของตนเอง มีความเห็นว่าควรจะนำเรื่องการฟื้นเกณฑ์บีโอไอสำหรับบ้านและคอนโดมิเนียม กลับมาใช้ใหม่
"ที่ผ่านมาพฤกษาฯทำทาวน์เฮาส์บีโอไอโดยโอนไปแล้ว ประมาณ 1 แสนยูนิต บริษัทยืนราคาขายไม่เกิน 6 แสนบาท ติดต่อกันเป็นเวลานาน 15 ปี เหตุผลส่วนหนึ่งที่สามารถทำได้เป็นเพราะพัฒนานวัตกรรมก่อสร้างสำเร็จรูปมา ใช้ตั้งแต่ปี 2545 ในขณะที่บ้านและคอนโดฯบีโอไอจะมีจุดเด่น คือ ราคาถูกกว่าตลาดประมาณ 10-15% เพราะเมื่อได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ เราก็ส่งต่อให้กับผู้บริโภค โดยทำราคาขายได้ถูกลง"
นายทองมากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ต้นทุนพัฒนาโครงการสูงขึ้นมาก จากราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นทุกปี ยกเว้นปีนี้ที่ราคาวัสดุทรงตัวหรือปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากน้ำมันโลกลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเกณฑ์บีโอไอสำหรับบ้านผู้มีรายได้น้อยก็จำเป็นต้องปรับปรุงใหม่ด้วย เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
ขยายเพดานราคาขาย
ข้อเสนอคือ จากเดิมบ้านบีโอไอกำหนดราคาขายไม่เกิน 1.2 ล้านบาท เสนอให้ปรับใหม่เป็นไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯจากเดิมพื้นที่ใช้สอยขั้นต่ำ 28 ตารางเมตร ราคาขายไม่เกิน 1 ล้านบาท เสนอให้ปรับเป็นพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 25 ตารางเมตร ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท
"รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนบ้านผู้มีรายได้น้อย ถึงแม้จะยกเว้นภาษีนิติบุคคลให้ผู้ประกอบการ แต่รัฐบาลจะได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีทางอ้อม เพราะราคาบ้านบีโอไอจะถูกกว่าบ้านทั่วไปในตลาด 10% เมื่อคนมีบ้านหลังแรกแล้วก็จะปรับวิถีการใช้ชีวิตกลายเป็นแฟมิลี่แมน ทำงานเก็บเงินเพื่อครอบครัว ทำให้คนเกิดแรงจูงใจทำงานเก็บเงินมาซื้อบ้าน อยากผ่อนบ้านให้หมดเร็ว นอกจากนี้ในระหว่างก่อสร้างก็จะเกิดการจ้างงาน ซื้อวัสดุ เกิดเงินหมุนเวียนในระบบต่อเนื่องเป็นห่วงโซ่"
นายทองมา กล่าวด้วยว่า บริษัทมีความพร้อมจะก่อสร้างบ้านบีโอไอได้ปีละหมื่นยูนิต โดยสถิติปี 2557 ที่ผ่านมาส่งมอบบ้านและคอนโดฯรวม 1.7 หมื่นยูนิต แยกเป็นทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว 1.3 หมื่นยูนิต คอนโดฯ 3.8 พันยูนิต
สำหรับ กรณีที่รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนบ้านและคอนโดฯบีโอไอเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ ประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่นสงขลาตราด ฯลฯ มองว่ายังไม่จูงใจ เพราะสถิตินิคมอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ เช่น มาบตาพุด อมตะ เป็นต้น ต้องใช้เวลา 10 ปี จึงจะมีดีมานด์ซื้อบ้านตามมา ระยะแรกส่วนใหญ่เป็นหอพักและอพาร์ตเมนต์ให้เช่าเป็นหลัก
นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน รักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า โครงการบ้านบีโอไอได้ยกเลิกไปแล้วหลายปี แต่มีข้อแนะนำว่าหากเป็นการขอลงทุนพัฒนาโครงการบ้านบีโอไอในพื้นที่เศรษฐกิจ พิเศษตามนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบัน จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี ลดหย่อนภาษี 50% เป็นเวลา 5 ปี
"โครงการ บ้านบีโอไอเราเคยส่งเสริมให้มานานแล้ว ตอนนี้หยุดโครงการเราก็ไม่ส่งเสริมต่อ เอกชนควรช่วยเหลือตนเองด้วย อย่ารอเพียงให้รัฐช่วยทุกอย่าง รายไหนอยากได้ก็ขอเข้ามา บีโอไอยินดีพิจารณาเป็นราย ๆ ไป แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นอุตสาหกรรมที่เราส่งเสริมตามนโยบายใหม่ด้วยหรือไม่" นางหิรัญญากล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 31-03-2558
|
|
|
|
|