| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 99 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 25-03-2558    อ่าน 1355
 ก้าวใหม่ "สัมมากร" ปรับทัพรับพันธมิตร เหยียบคันเร่งลงทุนอสังหาฯ

ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บมจ.สัมมากรบริษัทพัฒนาที่ดินรายกลางในตลาดหลักทรัพย์ฯกลายเป็นที่จับตามอง หลังจากมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดย บมจ.อาร์พีซีจี (เดิมชื่อระยองเพียวริฟายเออร์) ทำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งถือหุ้นในสัมมากร 25.25% ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มจากผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 อีก 23% รวมเป็น 48.25% ส่งผลให้อาร์พีซีจีกลายเป็นผู้ถือใหญ่

ล่าสุด "กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์พิเศษที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ หรือโฟร์ซีซั่นส์เดิม ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และมุมมองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น

เราเพิ่งแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เดิมระยองเพียวฯร่วมทุนกับสัมมากร ทำธุรกิจคอมมิวนิตี้มอลล์มา 7 ปี และเมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมาเข้ามาถือหุ้นในสัมมากร 25% เหตุผลมาจากระยองเพียวฯอยู่ในธุรกิจโรงกลั่นมา 15-16 ปี ก็อยากกระจายความเสี่ยง


มีหลายคนถามว่าแล้วนโยบายจะเปลี่ยนมั้ย ! ขอตอบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน เรายังเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยและคอมมิวนิตี้มอลล์ ปีนี้จะเปิดบ้านแนวราบ 2 โครงการ

ส่วนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัมมากร เป็นเรื่องระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม (ส่วนพระองค์) และผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ (ระยองเพียวฯ) ตกลงกัน โดยติดต่อมาทางคุณพ่อ (ม.ล.อัศนี ปราโมช) ที่เป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ เท่าที่ทราบคือพระองค์ท่านไม่ได้จะขยายธุรกิจ แต่การป่าวประกาศคงไม่เหมาะสม สรุปว่าหลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น บมจ.อาร์พีซีจี จะถือหุ้น 48.25% ทรัพย์สินส่วนพระองค์ซึ่งถือในนามท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ยังมีหุ้นอีกกว่า 10%

- คุณวิชัย ทองแตง มีหุ้นในอาร์พีซีจี

เคยถือหุ้นอยู่พักหนึ่ง ปัจจุบันถอนหุ้นแล้ว แต่ข้อมูลในเว็บไซต์ยังมีชื่อขึ้นอยู่

- อาร์พีซีจีไม่เคยทำอสังหาฯมาก่อน

หนึ่งคือเขายังมีผมอยู่ (หัวเราะ) สองคือผมว่าทีมบริหารของอาร์พีซีจี เป็นวิศวกรระดับหัวกะทิ เขาทำธุรกิจโรงกลั่น สามารถแปลงขยะ (กากวัตถุดิบ) เป็นเงินได้ ถ้าเป็นวิศวกรที่ใช้หัวคิดทำธุรกิจแบบนี้ได้ ผมว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ได้


หลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ได้ปรับโครงสร้างองค์กรเป็น 3 ส่วน คือ สายก่อสร้าง การเงิน การขายและการตลาด เรื่องการตลาดและการขายผมยังดูแล แต่เขาส่งคนมาช่วยเรื่องก่อสร้างและการเงิน กำลังศึกษาระบบพรีแฟบมาใช้อีกครั้ง

- จากนี้รายได้จะโตก้าวกระโดด

ปีนี้จะโตก้าวกระโดดจาก 1,150 ล้าน เป็น 1,700-1,800 ล้าน ไม่ได้สวนทางคนอื่น แต่จะมียอดรับรู้รายได้จาก โครงการคอนโดมิเนียม S 9 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเข้ามา จากเดิมทำแนวราบมาตลอด ขณะที่สัดส่วนยอดรับรู้รายได้ปีที่ผ่านมา 90% มาจากการขาย และ 10% มาจากค่าเช่า

- โพซิชันนิ่งสัมมากรในตลาด

เราคือรถ "เลกซัส" (ตอบทันที)มาตรฐาน คุณภาพ คุ้มค่า แต่ไม่ได้หวือหวาหรูหรา เหมือนรถเบนซ์ หรือขับปรู๊ดปร๊าดเหมือนเฟอร์รารี่ ผู้ถือหุ้นบอกว่าเราเหมือนมีเครื่องยนต์อยู่ 300 แรงม้า แต่ใช้จริงแค่ 150 แรงม้า ยังเร่งหรือขยายได้อีก และหนี้สินต่อทุนเราต่ำแค่ 0.3 เท่าของทุนจดทะเบียน

- สไตล์บริหารเดิมเป็นกึ่ง ๆ ราชการ

เรียกว่าเรากำลังเปลี่ยนจากการบริหารแบบสถาบัน เป็นระบบเอกชนมากขึ้น ส่วนปรัชญาการทำธุรกิจยังเหมือนเดิม 45 ปี ไม่เพียงแต่สร้างบ้าน แต่สร้างสังคม ตอนนี้ลูกบ้านโครงการสัมมากรมีหมื่นหลัง เฉพาะสัมมากรที่บางกะปิมี 3.5 พันครัวเรือน ขอเคลมว่าก่อนหน้านี้เราเก็บค่าส่วนกลาง 7 บาท ขยับขึ้นเป็น 9 บาท แต่เชื่อว่าคุณภาพที่ให้ลูกบ้านเทียบเท่าเราเก็บ 15 บาท

- การเมืองปีนี้มองบวกหรือลบ

...(นิ่งคิด) ผมยังมองเป็นบวกนะ คือมีความชัดเจน รัฐบาลทำตามโรดแมปได้ ส่วนที่วิพากษ์กันอยู่ ผมว่าคนไทยพูดเก่ง วิจารณ์เก่ง แต่คุณไม่ลงมาเทกแอ็กชั่น ทั้งที่ประเทศเป็นเรื่องส่วนรวม

- เศรษฐกิจปี′58

ยังเปราะบาง ! ขอใช้คำพูด สศค.-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ว่าตั้งแต่รัฐประหาร เรามองดีเกินไป ทุกอย่างจะชัดเจน มีเงินเข้าในระบบ แต่การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะงบประมาณโครงสร้างพื้นฐาน ต้องใช้เวลา เราอาจจะคาดหวังเยอะเกินไป เห็นใจรัฐบาลนี้เขาตั้งใจ

- ถ้ามีโอกาสเขียนโรดแมปอสังหาฯ

เรื่องอินฟราสตรักเจอร์สำคัญ จริง ๆต้องบอกว่าอสังหาฯจะโตได้ เมื่อเศรษฐกิจดี คนมีรายได้เพิ่มขึ้น ต่างชาติเข้ามาเพิ่ม ธุรกิจก็เพิ่มจำนวน ที่ผ่านมาเราเสียโอกาสไปเยอะครับ

- ความเห็นภาษีที่ดินฯ

เป็นสิ่งที่ดีนะ ควรจะต้องมี ไม่งั้นต้นทุนถือครองที่ดินต่ำมาก วันก่อนผมเพิ่งเซ็นจ่ายภาษีบำรุงท้องที่ 25 ไร่ เสีย 2,000 บาท ส่วนลูกน้องมีที่ดินต่างจังหวัด 11 ไร่ เสียภาษี 11 บาท และค่าปรับอีก 4 บาท แต่ต้องเสียค่าขึ้นเครื่องบินไปเสียภาษีอีก ต่อไปคนอาจจะมองว่าการอยู่กรุงเทพฯ มีต้นทุนภาษีที่ดินฯ หลังเกษียณอาจจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแทน ช่วยลดความแออัด

- ปัจจัยที่เป็นห่วง

เรื่องหนี้ครัวเรือน อัตรากู้ไม่ผ่านของสัมมากรอยู่ที่ 25% ห่วงจะเป็นตัวดึงอสังหาฯ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยราคาต่ำ 1-2 ล้านบาท คนซื้อแต่กู้ผ่านไม่มาก
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 25-03-2558 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.