Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
วิวาทะ ดีเวลอปเปอร์ลุย "สปช." "พื้นที่ส่วนกลาง" โจทย์ใหญ่เก็บภาษีที่ดินฯ |
|
จังหวะนี้คนไทยกำลังติดตาม "พร็อพเพอร์ตี้แท็กซ์" หรือ "ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" ที่รัฐบาลจะผลักดันขึ้นมาทดแทนภาษีบำรุงท้องที่-ภาษีโรงเรือนและที่ดินที่บังคับใช้มานานไม่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน
ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมพุ่งเป้าความสนใจไปที่ "อัตราภาษี" และ "ข้อยกเว้น-ลดหย่อน" อย่างไรก็ตามหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ยื่นข้อเสนอถึงกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้คือ การขอให้ยกเว้นไม่นำ "พื้นที่ส่วนกลาง" ในหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมมาคำนวณภาษี
ล่าสุด "ดร.สมชัย ฤชุพันธุ์" ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระบุว่า การนำพื้นที่ส่วนกลางมาคำนวณพร็อพเพอร์ตี้แท็กซ์ ไม่ซ้ำซ้อนกับค่าส่วนกลาง เพราะค่าส่วนกลางในหมู่บ้านหรือคอนโดฯถือเป็นค่าบริการที่เรียกเก็บจากสมาชิกในโครงการ เพื่อเป็นค่าบริการเก็บขยะ รักษาความปลอดภัย ไฟในพื้นที่ส่วนกลาง แต่ภาษีที่ดินฯคือภาษีที่จัดเก็บจากทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เป็น Tax on Property ที่เก็บเฉพาะคนที่มีทรัพย์สิน ถ้าไม่มีทรัพย์สินก็ไม่ต้องจ่ายภาษีตัวนี้ ค่าส่วนกลางในโครงการจัดสรรจึงเป็นคนละเรื่องกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
โวยคิดภาษีพื้นที่ส่วนกลาง
จากประเด็นดังกล่าว ล่าสุด "อธิป พีชานนท์" นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรออกโต้แย้งว่า ขอยืนยันความเห็นเดิมว่าควรยกเว้นไม่นำพื้นที่และทรัพย์สินส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมมาคิดภาษีที่ดินฯ ถึงแม้จะเก็บอัตราต่ำกว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทอื่นก็ไม่เห็นด้วย
เหตุผลเพราะพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ถนน สวนหย่อม เสาไฟฟ้า คลับเฮ้าส์ ทางเดินในตึก บันไดหนีไฟ ฯลฯ เป็น "ทรัพย์สินส่วนกลาง" ที่ทำให้บ้านหรือคอนโดฯมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหรือมีราคาสูงขึ้น ดังนั้นการจัดเก็บภาษีจากราคาประเมินที่ดินและทรัพย์สิน (ที่ดิน+สิ่งปลูกสร้าง) เท่ากับเป็นการเสียภาษีที่รวมมูลค่าพื้นที่และทรัพย์สินส่วนกลางไว้แล้ว
ดังนั้น ถ้าจัดเก็บจริงเชื่อว่าประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านและคอนโดฯจำนวนมากจะไม่เห็นด้วย และหลังจากนี้สมาคมจะสอบถามไปยัง "วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่กำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรงว่าเรื่องนี้มีความชัดเจนอย่างไร หลังจาก 3 สมาคมอสังหาฯเคยยื่นข้อเสนอและชี้แจงเหตุผลให้ทราบแล้ว เมื่อ 1-2 เดือนก่อน หากยืนยันจะจัดเก็บต่อไปสมาคมก็จะแอ็กชั่นเรื่องนี้ต่อไป
"ผมเห็นด้วยในหลักการว่าต้องจัดเก็บภาษีที่ดินฯ แต่ในรายละเอียดไม่ควรเก็บภาษีที่พื้นที่ส่วนกลางหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดฯ เพราะมีการสลักหลังโฉนดว่าเป็นสาธารณูปโภค ไม่สามารถขายต่อได้ ไม่ใช่พื้นที่ส่วนที่สร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัย ยกเว้นเป็นสโมสรที่เก็บค่าบริการบุคคลภายนอก หรือมีพื้นที่ส่วนกลางที่ปล่อยเช่าเปิดร้านกาแฟสร้างรายได้ อันนี้สมควรเสียภาษี" อธิปสะท้อนความเห็น
อาคารชุด-อสังหาฯประสานเสียง
สอดคล้องกับ "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" นายกสมาคมอาคารชุดไทยที่ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่จะคิดภาษีพื้นที่ส่วนกลางในคอนโดฯและหมู่บ้านจัดสรร เพราะเท่ากับว่าถนนหรือที่จอดรถในโครงการก็ต้องเสียภาษี ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 30% ของที่ดินในโครงการ
ส่วนผลที่จะตามมาในทางปฏิบัติ อาจจะเกิดแรงต้านจากประชาชน เนื่องจากลูกบ้านจะมีภาระจ่ายค่าส่วนกลางเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเพื่อให้นิติบุคคลบ้านจัดสรรหรืออาคารชุดนำไปเสียภาษีที่ดินฯ ณ สิ้นปี และเมื่อลูกบ้านไม่ยอมจ่ายก็จะกลายเป็นหนี้สูญ
เช่นเดียวกับ "พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า การมีความเห็นว่าพื้นที่ส่วนกลางจะต้องเสียภาษีที่ดินฯ เป็นการที่เป็นการคิดแบบนักกฎหมาย เพราะถ้าสาธารณูปโภคในพื้นที่ส่วนกลางต่างกัน เช่น ถนนใหญ่กว่าอีกโครงการ สโมสรใหญ่ ฯลฯ เท่ากับว่าราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้จ่ายภาษี จะต้องสูงกว่าอีกหมู่บ้านส่วนกลางน้อยกว่า แสดงว่าได้คำนวณพื้นที่ส่วนกลางเข้าไปในการจ่ายภาษีแล้ว
ดังนั้นถ้ารัฐบาลยืนยันที่จะจัดเก็บ เชื่อว่านิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดฯจะรวมตัวเพื่อให้ทบทวน และ 3 สมาคมต้องมาหารือกันเพื่อจะแอ็กชั่นเรื่องนี้ด้วย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 12-03-2558
|
|
|
|
|