Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
นักการเมืองสู่ซีอีโอ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" "ธุรกิจอสังหาฯปีนี้น่าตื่นเต้น" |
|
เป็น ครั้งแรกในรอบหลายเดือนของ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปรากฏตัวกับสื่อมวลชนหลังจาก "คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" เข้ายึดอำนาจ แต่ครั้งนี้เขาพลิกบทบาทใหม่จากมิสเตอร์ระบบรางมาเป็นดีเวลอปเปอร์ ในฐานะซีอีโอและกรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ "คิวเฮ้าส์" ในวัย 49 ปี ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนบริษัทพัฒนาที่ดินระดับท็อปไฟฟ์
- ใช้เวลาตัดสินใจรับตำแหน่งนานมั้ย
ใช้เวลาตัดสินใจ 1-2 เดือน จริง ๆ ผมเป็นบอร์ด (กรรมการ) ในคิวเฮ้าส์มาก่อน แล้วไปเล่นการเมือง พอไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็กลับมาเป็นบอร์ดอยู่พักหนึ่ง พอดีกำลังสรรหาซีอีโอคนใหม่ ก็เสนอชื่อและคัดเลือกผม
- ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
คุณอนันต์ อัศวโภคิน (ผู้ถือหุ้นใหญ่คิวเฮ้าส์ผ่าน บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) ให้ดูเรื่องหนี้สินต่อทุน เรื่องควบคุมค่าใช้จ่าย ไม่เน้นเรื่องมียอดขายหรือรับรู้รายได้เป็นอันดับหนึ่ง แต่เน้นเรื่องคุณภาพ
หลังจากมารับตำแหน่ง 2 เดือน ผมออกตรวจไซต์โครงการ 67 ไซต์ครบแล้ว เวลาไปไม่บอกลูกน้องล่วงหน้าเหมือนสมัยเป็นรัฐมนตรีเพื่อให้เขาตื่นตัวในการทำงาน เรื่องปรับโครงสร้างภายในยังไม่มี แต่มีการแบ่งงานใหม่บ้าง ยกตัวอย่างเรื่องงานไอที ผมเข้ามาดูเอง รวมทีมออกแบบเป็นทีมเดียวกันเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย ส่วนระยะยาวอาจจะดูเรื่องการรวมทีมงานบริษัทในเครือ ปัจจุบันมีทั้งบริษัท เดอะคอนฟิเด้นซ์ และกัสโต้
- เป้าหมายแผนธุรกิจปีแรก
ได้มาทำงานภาคเอกชนก็สนุกดี คล่องตัวกว่า สิ่งที่จะทำปีนี้มี 2 อย่าง คือ การวางกลยุทธ์และการรักษาคุณภาพ ซึ่งคิวเฮ้าส์ทำได้ดีอยู่แล้ว การวางกลยุทธ์คงต้องมาปรับเรื่องแบรนด์ จุดแข็งคือแบรนด์คิวเฮ้าส์ในความเห็นผู้บริโภคดูน่าเชื่อถือ แต่ก็อาจถูกมองว่าแก่ จะขยายฐานลงมาจับกลุ่มคนอายุ 30-40 ปีให้มากขึ้น
ส่วนเรื่องแบรนด์มีผลสำรวจว่า ถ้านึกถึงอสังหาฯแบรนด์แรก มีคนตอบว่าคิวเฮ้าส์ 9% ถ้าเทียบกับแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีสัดส่วนเกิน 50% นี่เป็นการบ้านที่ต้องทำ เป้าหมายคือเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในทุกเซ็กเมนต์ ปีนี้จะใช้งบฯสร้างแบรนด์ใกล้เคียงปีก่อน 20 ล้านบาท แต่จะปรับใช้ผ่านออนไลน์และโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น
- แผนลงทุนปีนี้
จะเปิดตัวโครงการใหม่ 30 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.3 หมื่นล้านบาท อยู่ในกรุงเทพฯ 82% ต่างจังหวัด 18% ทิศทางจะเน้นโครงการระดับไฮเอนด์มากขึ้น จากสัดส่วน 18% ปีนี้เพิ่มเป็น 38% ของมูลค่าโครงการเปิดใหม่ ล่าสุดเปิดตัวคอนโดฯ คิวสุขุมวิท (ติดบีทีเอสนานา) 273 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 26 ล้านบาท หรือเริ่มตารางเมตรละ 2.8 แสนบาท ฟีดแบ็กน่าพอใจ และไม่คิดว่าคอนโดฯหรูจะล้นตลาด เพราะทยอยเปิดตัวและกระจายทำเล
- มีเซฟตี้แฟกเตอร์ยังไง
ต้องมอนิเตอร์ประเมินผลตลอดทุกสัปดาห์ จุดแข็งของคิวเฮ้าส์ คือ มีพอร์ตโครงการตลาดบน 25% กลางและล่าง 75% กระจายความเสี่ยงได้ดี สัดส่วนโครงการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 80% ต่างจังหวัด 20% มองว่าธุรกิจอสังหาฯปีนี้เป็นปีที่น่าตื่นเต้น ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น การเมืองดูนิ่งขึ้น เป็นจังหวะดีที่จะลงทุนอสังหาฯ ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันปรับลดลง สามารถต่อรองราคาวัสดุปรับลดลงได้อีก 2-3%
ส่วนดอกเบี้ยคงต่ำอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะ ปัจจัยเสี่ยงมองเรื่องหนี้ครัวเรือนที่จะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคระดับล่าง อัตราปฏิเสธสินเชื่อบางทำเลทราบว่าถึง 40%
- รัฐบาล คสช.จะทำมินิไฮสปีดเทรน
การลงทุนต่างจังหวัดก็ต้องไปตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ตัวไฮสปีดเทรนน่าสนใจ เพราะวิ่งด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นโครงการตามแนวรถไฟทางคู่ หรือมินิไฮสปีดเทรน ความคิดเห็นส่วนตัวไม่ตอบโจทย์เรื่องอีโคโนมี ออฟ สปีด เพราะทำความเร็วได้แค่ 160 กิโลเมตร ถ้าเดินทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ไม่สามารถเปลี่ยนโหมดการเดินทางได้ คนยังเลือกบินโลว์คอสต์
- จะกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่
ไม่แล้วครับ ผมไม่ได้มาเป็นซีอีโอชั่วคราว ขออยู่ถาวรครับ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-03-2558
|
|
|
|
|