|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ศก.ซึมทุบตลาดอิฐมวลเบาแผ่ว ราคาดิ่ง18บ./ก้อนตกต่ำรอบ3ปี |
|
อิฐมวลเบาส่อวิกฤตหนัก ราคาร่วงต่ำสุดในรอบ 3 ปี จากก้อนละ 21-22 บาทเหลือ 17-18 บาท เจอสารพัดปัญหารุม ทั้งงานก่อสร้างรัฐ-เอกชนชะลอตัว-โอเวอร์ซัพพลาย จับตาน้องใหม่ "ทีพีไอ" โผล่แข่งขัน หวั่นสงครามราคาปะทุในช่วงครึ่งปีหลัง
ผู้สื่อข่าวสำรวจตลาดอิฐมวลเบาที่ใช้เป็นวัสดุก่อผนังทดแทนอิฐมอญพบว่า ธุรกิจนี้กำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี จากการแข่งขันลงทุนของผู้ผลิตหลัก 5 รายด้วยกัน ได้แก่ 1.คิวคอน ของ บมจ.ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ 2.อินทรีซุปเปอร์บล๊อก ในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง 3.ตราเพชร ของ บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร 4 .สมาร์ทคอนกรีตในเครือ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี 5.ไทคอน ของ บจ.ไทยไล้ท์บล๊อคแอนด์แพเนล ในเครือกลุ่มสี่แสงการโยธา มีกำลังผลิตรวมกันกว่า 42 ล้านตารางเมตร/ปี
โดยอิฐมวลเบาสำหรับก่อผนัง รุ่นความหนา 7.5 เซนติเมตร นับจากปลายปีที่ผ่านมาราคาลดลงแล้วเกือบ 20% จากก้อนละ21-22 บาท เหลือ 17-18 บาท เกิดจากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอ มีกำลังผลิตล้นตลาด จึงเกิดการแข่งขันราคาเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด คาดว่าแนวโน้มครึ่งปีแรก 2558 ยังแข่งขันราคารุนแรง เนื่องจากจะมีผู้ผลิตรายใหม่คือ บมจ.ทีพีไอโพลีน เริ่มผลิตสินค้าออกจำหน่ายภายในกลางปีนี้
SCG ชี้กำลังผลิตล้นตลาด
แหล่งข่าวจากกลุ่มธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือเอสซีจี ผู้ผลิตอิฐมวลเบา "คิวคอน" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ราคาอิฐมวลเบาเริ่มปรับลดลงตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/57 จากเดิม (รุ่นความหนา 7.5 ซม.) ก้อนละ 21 บาทบวกลบ เหลือ 17-18 บาท ถือว่าเป็นราคาต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ปัจจัยเกิดจาก 2 ส่วนคือภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี และงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ทำให้ผู้ผลิตต้องยอมลดราคาเพื่อรักษาฐานลูกค้า
"ตลาดที่ชะลอตัวชัดเจนคืองานภาครัฐ เดิมเคยมีโครงการก่อสร้างอาคารสาธารณสุขในต่างจังหวัด ปี"57 ลดลงไปเยอะ กับตลาดค้าปลีกในภาคใต้ได้รับผลกระทบเนื่องราคาสินค้าเกษตรไม่ดี ชาวบ้านชะลอการต่อเติมซ่อมแซมบ้าน"
สำหรับภาพรวมอิฐมวลเบาคาดว่าปีนี้มีดีมานด์ 36-38 ล้านตารางเมตร ขยายตัว7-8% ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลัก 5 รายคือ ได้แก่ แบรนด์คิวคอน อินทรีซุปเปอร์บล๊อก ตราเพชร สมาร์ทคอนกรีต และไทคอน ในจำนวนนี้คิวคอนมีกำลังผลิตมากที่สุดปีละ 18 ล้านตารางเมตร จากโรงงาน 3 แห่งที่พระนครศรีอยุธยา ระยอง สระบุรี และกำลังก่อสร้างโรงงานใหม่ที่จังหวัดลำพูนอีก 3 ล้านตารางเมตร กำหนดแล้วเสร็จภายในต้นปี 2559
แผนปีนี้ตั้งเป้าขาย 18 ล้านตารางเมตร คิดเป็นยอดขายกว่า 2.2 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 7% การปรับตัวคือเพิ่มสัดส่วนยอดขายหน้าร้านในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจาก 50% เป็น 60% ส่วนการลงทุนโรงงานใหม่ในภาคใต้ต้องรอดูภาวะเศรษฐกิจ
ราคาดิ่งได้อีก 1-2 บาท
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและตลาด บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ผู้ผลิตอิฐมวลเบา "ตราเพชร" เปิดเผยว่า เป็นความจริงที่ราคาอิฐมวลเบาขณะนี้ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี นอกจากงานก่อสร้างชะลอตัว ยังมีผลกระทบจาก 2 ปีที่ผ่านมามีผู้ผลิตบางรายขยายโรงงาน ทำให้กำลังผลิตภาพรวมสูงถึง 40-42 ล้านตารางเมตร/ปี แต่มีดีมานด์จริงกว่า 30 ล้านตารางเมตร/ปี ขณะที่แนวโน้มราคา หากงานก่อสร้างยังชะลอตัวมีแนวโน้มราคาจะปรับลดลงอีกก้อนละ 1-2 บาท จากปัจจุบันก้อนละ 17-18 บาท
สำหรับตราเพชร ปัจจุบันมีโรงงาน 2 แห่งที่สระบุรีและเชียงใหม่ ผลิตได้สูงสุดปีละ 6 ล้านตารางเมตร ปีที่ผ่านมาใช้กำลังผลิต 50% ในปีนี้ต้องเน้นประคองตัว หรือหากผลิตขายได้ 60-70% ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ปูนอินทรี-สมาร์ทฯ ปรับตัว
แหล่งข่าวจาก บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง ผู้ผลิตอิฐมวลเบา "อินทรีซุปเปอร์บล๊อก" เปิดเผยว่า การปรับตัวปีนี้คงต้องมาเน้นเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายหรือลดต้นทุนการผลิต และพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ที่ขายได้ราคาดี ส่วนการเพิ่มยอดส่งออกเพื่อชดเชยยอดขายในประเทศชะลอตัวเนื่องจากมีการแข่งขันราคาสูง แนวทางนี้คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากอิฐมวลเบาเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมากไม่ค่อยคุ้มต้นทุน นอกจากนี้ต้องรอดูคู่แข่งรายใหม่ล่าสุดคือกลุ่มทีพีไอ ที่เตรียมผลิตสินค้าวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ด้วย
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต เปิดเผยว่า ภาพรวมอิฐมวลเบามีปัญหาโอเวอร์ซัพพลายจริง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาไม่น่าจะลดลงอีกเนื่องจากเหลือกำไรไม่มาก โดยปีที่ผ่านมาบริษัทเดินกำลังผลิต 70% จากกำลังผลิตทั้งหมด 4.5 ล้านตารางเมตร หรือผลิตอยู่ 3.1 ล้านตารางเมตร ปีนี้ตั้งเป้าผลิตเพิ่มเป็น 80% หากงานก่อสร้างฟื้นตัว ส่วนการขยายกำลังผลิตเพิ่มจะชะลอไว้ก่อน
ทีพีไอ ประกาศไม่แข่งราคา
นายภากร เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีไอโพลีน ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ทีพีไอ เปิดเผยว่า คาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่อิฐมวลเบาได้ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ หลังจากตัดสินใจลงทุนเมื่อ 2 ปีก่อน มีกำลังผลิตสูงสุดปีละ 3 ล้านตารางเมตร ซึ่งขณะนั้นภาพรวมตลาดยังดีอยู่ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มชะลอตัวต่อเนื่อง
กลยุทธ์การทำธุรกิจอิฐมวลเบาของบริษัทจะเน้นคุณภาพสินค้า บริการ การกระจายสินค้าผ่านร้านเอเย่นต์ปูนทีพีไอให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันมีเอเย่นต์ปูนทั่วประเทศประมาณ 400 ราย ส่วนราคาคาดว่าจะใกล้เคียงกับแบรนด์คู่แข่ง
"ราคาอิฐมวลเบาปัจจุบันก้อนละ 18 บาทผมว่าต่ำเกินไป ถ้าจะขายถูกกว่านี้ผมคงไม่ทำ และจะพยายามทำราคาขายให้สูงขึ้น" นายภากรกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-03-2558
|
|
|
|
|
