Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"บิ๊กป้อม" สั่งรื้อ 268 ครัวเรือน ลุยทางเลียบเจ้าพระยา ผุดเฟสแรก "สะพานพระราม 7-ปิ่นเกล้า" |
|
"บิ๊กป้อม" เร่งเครื่องถนน-ไบท์เลนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา กทม.ลุยรื้อ 268 ครัวเรือน ผุดเฟสแรก "สะพานพระราม7-ปิ่นเกล้า" แลนด์มาร์กใหม่คนกรุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1/2558 เพื่อหารือถึงการดำเนินงาน รูปแบบโครงการ รวมถึงปัญหาอุปสรรค ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขเบื้องต้นในการดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมการประชุม อาทิ สำนักพระราชวัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด เพื่อขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่จะให้ลงนามสัญญาก่อสร้างปลายปี 2558 นี้
ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการฯ ด้านการบริหารโครงการ ซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาความเหมาะสม กำกับ ติดตาม และให้ข้อเสนอการปฏิบัติงานแก่อนุกรรมการต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและวัตถุประสงค์โครงการรวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการอำนวยการและคณะรัฐมนตรีทราบ
2.คณะอนุกรรมการฯด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำองค์ประกอบของการก่อสร้าง กำกับการออกแบบ กำหนดเวลา แผนปฏิบัติการ และงบประมาณในการก่อสร้างให้เหมาะสม คุ้มค่า 3.คณะอนุกรรมการฯ ด้านกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และ 4.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ มีอำนาจหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการต่อสาธารณะ เพื่อดำเนินการด้านต่างๆ และคณะอนุกรรมการแต่ละชุดสามารถแต่งตั้งคณะทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะได้นำเสนอให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงนามต่อไป
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวย้ำว่าสำหรับการดำเนินการตลอดเส้นทาง2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทางรวม 14 กิโลเมตร จะผ่านวัด 8 แห่ง ท่าเรือ 36 แห่ง โรงแรม/ร้านอาหาร 6 แห่ง สถานที่สำคัญขนาดใหญ่ 19 แห่ง โดยมีประชาชนรุกล้ำพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง จำนวน 268 หลังคาเรือน
ซึ่งการรุกล้ำพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายจำเป็นจะต้องมีการรื้อ ย้าย บ้านเรือนและประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อจัดระเบียบตามดำริของนายกรัฐมนตรีในการคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากขึ้นอย่างไรก็ตามจะมีการหารือแนวทางดำเนินการตลอดจนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไปทั้งนี้ การดำเนินการโครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งก่อนจะดำเนินการจะมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ สำหรับรูปแบบการก่อสร้าง ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการศึกษารายละเอียด พร้อมทั้งจัดทำแนวคิดและออกแบบพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเบื้องต้น ช่วงตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ทั้งสองฝั่ง รวมระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ให้เป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า มีความปลอดภัย และรองรับการสัญจรด้วยจักรยาน (bike lane) เพื่อให้ประชาชนสามารถชมทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และการท่องเที่ยว
"ซึ่งแบบที่เราออกมานั้น จะก่อสร้างเป็นโครงสร้างคอนกรีตยื่นเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาข้างละ 20 เมตร รวม 2 ฝั่งแม่น้ำ กว้างประมาณ 40 เมตร จะออกแบบมีทางเดิน ทางจักรยานและพื้นที่สันทนาการ ขอบอกว่าสวยงามมาก และใช้ประโยชน์จากริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่งได้อย่างเต็มที่ และมีทัศนียภาพสวยงามเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ ซึ่งกทม.จะพยายามดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวย้ำ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-02-2558
|
|
|
|
|