|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "อาชิยะ" สมาร์ทซิตี้ อิน เจแปน ต้นแบบจัดสรรไฮเทค-รักษ์โลก |
|
เทรนด์มาแรงที่ยุคนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้มีอยู่ 2 กระแสที่วิ่งนำมาแบบสูสีคู่คี่นั่นคือ เทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดด และกระแส "กรีน" แนวรักษ์โลก
พฤกษาฯชี้ 4 เทรนด์ผู้บริโภค
"พฤกษา เรียลเอสเตท" ยักษ์ใหญ่พัฒนาที่ดินกวาดยอดรับรู้รายได้ปีที่ผ่านมา 4.27 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 6.65 พันล้านบาท เป็นบิ๊กแบรนด์ที่ศึกษาเรื่องนี้อยู่ ทีมวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคของพฤกษาฯเองก็เห็น 4 เทรนด์ของผู้บริโภคที่มีความต้องการบ้านที่ทั้งแข็งแรงมั่นคง เป็นมิตรกับสุขภาพ ประหยัดพลังงาน และทันสมัย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ "เลอศักดิ์ จุลเทศ" รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการค่ายพฤกษา นำทีมสื่อมวลชนบินลัดฟ้าไปที่ญี่ปุ่น ชมโครงการที่อยู่อาศัยต้นแบบ "สมาร์ทซิตี้" โดยให้ข้อมูลว่าขณะนี้พฤกษาฯสามารถตอบโจทย์บ้านที่มั่นคงแข็งแรงด้วยเทคโนโลยีพรีแฟบ ขณะเดียวกัน ก็พัฒนาและออกแบบบ้านให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานเหมาะกับผู้บริโภค เช่น พัฒนาบ้านตอบโจทย์กลุ่มประชากรสูงอายุ
แต่สิ่งที่พฤกษาฯยังขาดอยู่ คือ บ้านที่มีเทคโนโลยีทันสมัยแต่ประหยัดพลังงาน โดยทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พฤกษาฯอยู่ระหว่างพัฒนาบ้านต้นแบบที่ทั้งแข็งแรง ประหยัดพลังงาน สร้างพลังงานหมุนเวียนใช้ในชีวิตประจำวันได้เอง
ขณะนี้ร่วมมือกับทีมวิจัยที่มีนักวิชาการจากทั้งไทยและเยอรมนีพัฒนาบ้านประหยัดพลังงานต้นแบบ "เอ็นเนอร์ยีพลัสเฮาส์" วางแผนจะก่อสร้างบ้านต้นแบบภายในปีนี้ เพื่อทดสอบและปรับปรุงให้เข้ากับพฤติกรรมคนไทย ก่อนนำมาประยุกต์ใช้จริงกับบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป
ส่องหมู่บ้าน "พานาโซนิค"
ล่าสุดพฤกษาฯยังคงเฟ้นหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะนำมาปรับใช้ โดยสนใจระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดไว้บนหลังคาบ้าน และส่งทีมวิจัยเข้าไปศึกษาดูงานระบบการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในบ้านของ "พานาโซนิค กรุ๊ป" "พานาโฮม" เป็นบริษัทลูก ตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาหมู่บ้านไฮเทค-ประหยัดพลังงาน "สมาร์ทซิตี้ชิโอะ อาชิยะ" ย้อนไปก่อนหน้านี้บริษัทพานาโซนิคประกอบธุรกิจอสังหาฯตั้งแต่ปี 2520 เริ่มจากสร้างบ้านโมดูลาร์
แต่ไอเดียของการพัฒนาหมู่บ้านจัดสรรเพิ่งเริ่มต้นเมื่อปี′56 โดยลงมือพัฒนาโครงการ "สมาร์ทโฮม โซลาร์ชิมะ" ที่เมืองอาชิยะ โอซากาเป็นโครงการแรก
โครงการมีเนื้อที่ 80 ไร่ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 400 ยูนิต คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 3 อาคาร 83 ยูนิต พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง
แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส เฟสแรกเป็นบ้านเดี่ยว 200 ยูนิต ปิดการขายและก่อสร้างเสร็จแล้ว ส่วนเฟส 2 อยู่ระหว่างขาย คาดว่าจะปิดการขายและก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งสามเฟสในปี′59
ทุกยูนิตในโครงการออกแบบโดยใช้คอนเซ็ปต์ "ซัสเทนอะบิลิตี้ แอนด์ สมาร์ท" นำเอา "ความยั่งยืน" จับคู่ "ความไฮเทค" เพื่อให้เป็น "สมาร์ทเฮาส์" ตัวบ้านนอกจากออกแบบโดยคำนึงการอยู่อาศัยระยะยาวแล้ว ยังคำนึงถึงสภาพอากาศที่หลากหลายตามฤดูกาล ทิศทางลมและการเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวสูงถึง 8 ริกเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นบ้าน "เน็ตซีโร่ (Net Zero)" บ้านที่ผลิตพลังงานเองได้มากกว่าพลังงานที่ใช้แต่ละวัน
ติดโซลาร์เซลล์ 6 ปีคืนทุน
สิ่งที่พบ คือ บ้านทุกหลังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 12 กิโลวัตต์ อายุใช้งาน 20 ปี ติดระบบจัดการพลังงานของบ้านเทคโนโลยีของพานาโซนิคทั้งหมด เป็นระบบควบคุมอัตโนมัติ แสดงสถานะการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ผ่านจอโทรทัศน์
ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านผ่านจอโทรทัศน์ และควบคุมการเปิด-ปิดแอร์ผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบควบคุมอัตโนมัติของบ้าน
ระบบนี้สามารถคำนวณและเปรียบเทียบจำนวนไฟฟ้าที่เจ้าของบ้านขายให้รัฐบาล เปรียบเทียบกับจำนวนไฟฟ้าในบ้านที่ใช้ได้อีกด้วย โดยราคาที่รัฐบาลญี่ปุ่นรับซื้อไฟฟ้าคือหน่วยละ 37 เยน ขณะที่ราคาขายไฟฟ้าหน่วยละ 24 เยน
สำหรับบ้านตัวอย่างเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร บนที่ดินขนาด 50 ตารางวา ราคา 65 ล้านเยน หรือ 18.2 ล้านบาท ไม่รวมแผงโซลาร์เซลล์และระบบจัดการพลังงานอีก 3 ล้านเยน หรือ 8.4 แสนบาท และระบบสมาร์ทโฮมซึ่งเป็นแผงควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีก 1.5 ล้านเยน หรือ 4.2 แสนบาท ประมาณการว่าเจ้าของบ้านจะคืนทุนสำหรับการลงทุนระบบโซลาร์เซลล์นี้ภายใน 6 ปี แต่หากปรับใช้กับเมืองไทยอาจจะนานกว่านั้น เนื่องจากไทยเป็นเมืองร้อนการปรับอุณหภูมิบ้านต้องใช้ไฟฟ้ามากกว่า
เรียกว่าเป็นแนวคิดหมู่บ้านประหยัดพลังงานไฮเทคและยั่งยืน นอกจากเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้อยู่ ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 24-02-2558
|
|
|
|
|
