Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
พลัสฯชี้ตลาดห้องชุด"ตลาดบน-สายสีน้ำเงิน"ฮอตจัด |
|
"พลัส พร็อพเพอร์ตี้" ประเมินภาพรวมคอนโดฯกรุงเทพฯปี"58 ซัพพลายใหม่ลดเหลือ 5 หมื่นยูนิต ส่งสัญญาณผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์ ขยับทำโครงการระดับบนในย่านศูนย์กลางธุรกิจ รับมือลูกค้าลุ่มกลาง-ล่างเจอปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง คาดราคาเฉลี่ยโครงการในกรุงเทพฯปีนี้แตะตารางเมตรละ 1 แสน จับตาแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฮอต
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แสนสิริ ผู้ประกอบธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากผลสำรวจช่วงครึ่งหลังของปี 2557 มีโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯเปิดใหม่ทั้งสิ้น 56 โครงการ รวม 22,491 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 13,592 ยูนิต หรือประมาณ 60% ถือว่าเป็นอัตราดูดซับที่ดีสำหรับระยะเวลาเพียง 6 เดือน ชี้ว่าอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว
ส่วนแนวโน้มปี 2558 คาดว่าผู้ประกอบการจะเปิดคอนโดฯใหม่ลดลงเหลือ 4-5 หมื่นยูนิต จากปีที่ผ่านมากว่า 9 หมื่นยูนิต โดยมีแนวโน้มผู้ประกอบการจะทำสินค้าราคาสูงขึ้น จะเห็นราคาเฉลี่ยคอนโดฯปีนี้แตะตารางเมตรละ 1 แสนบาท จากปีที่ผ่านมา 9.7 หมื่นบาท ทำเลจะอยู่ในย่านซีบีดีหรือศูนย์กลางธุรกิจ เช่น สุขุมวิท 33, สุขุมวิท 39, สุขุมวิท 55, อโศก, นานา ฯลฯ
ขณะเดียวกัน จะเห็นผู้ประกอบการเปิดคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โซนรัชดาฯ-ท่าพระ และปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ เพราะการก่อสร้างคืบหน้าชัดเจน และราคาคอนโดฯยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก จากปัจจุบันราคาเฉลี่ยโซนนี้อยู่ที่ 9.45 หมื่นต่อตารางเมตร ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) มีซัพพลายเกือบ 3 หมื่นยูนิต และราคาที่ดินสูงขึ้นมาก
นายภูมิภักดิ์กล่าวต่อว่า สาเหตุหลักที่ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการในราคาที่สูงขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงลูกค้ากลุ่มกลาง-ล่างที่มีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อคอนโดฯราคา 1-3 ล้านบาท ประเมินว่าปีนี้จะมีคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมโอน 10,845 ยูนิต หรือ 43% ของห้องชุดเหลือขาย 94,712 ยูนิต ในจำนวนนี้คอนโดฯที่ผ่อนดาวน์ต่ำ 5-10% มีความเสี่ยงถูกทิ้งดาวน์หรือกู้ไม่ผ่านค่อนข้างสูง
"เรื่องน่าห่วงของอสังหาฯปีนี้มีเฉพาะหนี้ครัวเรือนผลกระทบจากปัจจัยนี้จะยาวแค่ไหนขึ้นกับเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการมีวิธีรับมือ โดยกำหนดงวดเงินดาวน์ให้เหมาะสม ความเห็นคือโครงการที่วางดาวน์ไม่ต่ำกว่า 15% จะมีความเสี่ยงถูกทิ้งดาวน์หรือกู้ไม่ผ่านน้อยกว่าโครงการที่ดาวน์ 5-10% เชื่อว่าผลกระทบปัญหาหนี้ครัวเรือนจะหมดไปภายใน 1-2 ปีนี้" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-02-2558
|
|
|
|
|