Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
แสนสิริรีโมเดลแผนธุรกิจ "ขายบ้านพร้อมโอน" คุมต้นทุน |
|
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ไม่ง่ายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง "แสนสิริ"ที่เบ่งพอร์ตลงทุนคอนโดฯต่างจังหวัดในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ จนทำให้บริษัทมีภาระหนี้สินต่อทุนเพิ่ม กระทั่งเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมาประกาศนโยบาย EFG-Engineering For Growth ปรับโมเดลธุรกิจเน้นคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งยังต้องพิสูจน์กันต่อไป
มาปีนี้ค่ายแสนสิริ "เศรษฐา ทวีสิน"กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่ได้เปิดเวทีให้ข้อมูลแผนธุรกิจเอง แต่แยกการแถลงเป็น 2 ส่วน ประเดิมที่แผนพัฒนาโครงการแนวราบให้ "เมธา อังวัฒนพานิช" รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานโครงการแนวราบ ชี้แจงรายละเอียดไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
แผนแนวราบปีนี้จะเปิดตัว 9 โครงการ มูลค่าขายรวม 1.55 หมื่นล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และทาวน์เฮาส์ที่พิษณุโลก 1 โครงการ ในจำนวนนี้เลื่อนมาจากปีก่อน 2 โปรเจ็กต์
จังหวะเปิดโครงการแบ่งเป็นไตรมาสแรกเปิด 3 โครงการ มูลค่าขายรวมกว่า 5.3 พันล้านบาท จากนั้นข้ามไปไตรมาส 3และ 4 จะเปิดบ้านเดี่ยวไตรมาสละ 3 โครงการ มูลค่าขายรวม 6 พันล้านบาท และ 4 พันล้านบาทตามลำดับ
ขายบ้านพร้อมโอนคุมต้นทุน
ลงรายละเอียดแผนธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน คือ การรีโมเดลธุรกิจมาขายบ้านสร้างก่อนขายและสร้างเสร็จพร้อมโอน 100% ในทุกโครงการ
การขายบ้านเสร็จพร้อมโอนอาจไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่ แต่แสนสิริมองเห็นข้อดี 2 ส่วน คือ 1) ช่วยเซฟงบฯการตลาดที่ใช้ในช่วงพรีเซล และ 2) ลดจำนวนลูกค้ากู้ไม่ผ่านจากเดิม 10% เหลือ 5% เนื่องจากซื้อแล้วโอนเลย ลูกค้าต้องพร้อมเรื่องการเงิน
"พอปรับมาขายบ้านพร้อมโอน เราน่าจะเพิ่มมาร์จิ้นได้อีก 1% เนื่องจากค่าใช้จ่ายลดลง เดิมต้องยอมรับว่าเราใจไม่แข็งพอ ที่่ผ่านมาทำบ้านตัวอย่างเสร็จก็เปิดขายเลย เสียงบฯการตลาดช่วงพรีเซลเยอะมาก"คำอธิบายจาก "เมธา" ผู้บริหารแสนสิริ
คุมสต๊อกเท่ายอดขาย 6 เดือน
สูตรการวางแผนสต๊อกบ้านของแสนสิริ ปัจจุบันจะมีสต๊อกบ้านสร้างล่วงหน้าแต่ละโครงการเทียบเท่าประมาณการยอดขาย 6 เดือนบวกลบ เช่น กรณีมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 10 ยูนิต ก็จะสร้างบ้านล่วงหน้าไว้ 60 ยูนิต และในจำนวนนี้จะเป็นบ้านเสร็จ 20 ยูนิต เทียบเท่ายอดขาย 2 เดือน แต่คีย์ของการขายพร้อมโอนทุกโครงการ จำเป็นต้องมีระบบพรีแฟบหรือระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเป็นจิ๊กซอว์ สร้างบ้านเร็วขึ้น
ชูแบรนด์เศรษฐสิริ 8-20 ล.ตัวบุก
ในแง่เซ็กเมนต์แบรนด์ "เศรษฐสิริ" ราคาตั้งแต่ยูนิตละ 8-20 ล้านบาท ยังคงเป็นตัวบุกหลักในปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 40% ของมูลค่าโครงการเปิดใหม่ ขณะเดียวกัน กำลังหาซื้อที่ดินเพื่อรองรับการเพิ่มพอร์ตแบรนด์ "คณาสิริ" ราคา 3-5 ล้านบาท เนื่องจากฐานลูกค้าใหญ่ แต่ปัญหาคือหาที่ดินดี ๆ ค่อนข้างยาก
เป็นสูตรสำเร็จโมเดลแนวราบแสนสิริ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-02-2558
|
|
|
|
|