|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| คนรุ่นใหม่"ชาญอิสสระ+จุนฟา"บุกวิลล่าหรู |
|
นายวรสิทธิ์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด ในเครือ บมจ.ชาญอิสสระ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปีนี้บริษัทร่วมลงทุนกับกลุ่มจุนฟา เรียลเอสเตท ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ติดอันดับท็อป 100 ของประเทศจีน จัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ "บริษัท ชาญอิสสระ จุนฟา" จำกัด ทุนจดทะเบียน 420 ล้านบาท สำหรับลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ "บาบา บีช คลับ" จ.พังงา มีมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนถือหุ้นระหว่างกลุ่มชาญอิสสระ/จุนฟา 70/30
แผนร่วมทุนครั้งนี้มีการขยายผลทางธุรกิจโดยกลุ่มชาญอิสสระและจุนฟาจะเป็นพันธมิตรในการเข้าไปลงทุนและบริหารจัดการโรงแรมระดับลักเซอรี่ไฮเอนด์ในรูปแบบเดียวกับศรีพันวาในประเทศจีนรวมทั้งมองหาโอกาสลงทุนในอาเซียนด้วย
สำหรับรายละเอียดโครงการบาบา บีช คลับ จ.พังงา มีเนื้อที่รวม 45 ไร่ หน้าหาดมีความยาว 180 เมตร ออกแบบเป็นบีชคลับและบีชวิลล่า 6 หลัง ที่เหลือเป็นพูลวิลล่าอีกไม่น้อยกว่า 60 หลัง เฟสแรกจะพัฒนาเป็นบีชคลับและบีชวิลล่า คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ บาบา บีช คลับจะเป็นตัวเปิดตลาดลักเซอรี่ไฮเอนด์รองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกและมีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะชาวจีนที่ออกมาท่องเที่ยวนอกประเทศปีละ 100 ล้านคน ในขณะที่ภาพรวมภูเก็ต แนวโน้มลูกค้าชาวรัสเซียหายไปเพราะมีวิกฤตเศรษฐกิจในบ้านเขา ตลาดหลักที่เคยเป็นเกาหลีก็เริ่มมาน้อยลง โดยมีลูกค้าชาวจีนมาทดแทน
"ตอนนี้ลูกค้าหลักของศรีพันวา อันดับ 1 คือคนไทย รองลงมาคือจีน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคนจีนที่มาจากประเทศจีน แต่เป็นคนจีนจากทุกมุมโลกที่มาเที่ยวเมืองไทย เพราะฉะนั้นภายในปีหน้าจีนจะเป็นตลาดไฮเอนด์ของศรีพันวา ดังนั้นโครงการบาบา บีช คลับ ที่พังงาจะเข้ามารองรับโดยตรง ก่อนจะลงทุนผมสำรวจตลาดพบว่าตลอดแนวชายหาดพังงา 5 กม. มีแต่วิลล่าหรู การเดินทางก็สะดวกเพราะห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 15 นาที"
ไฮไลต์การลงทุนยังรวมถึงจะมีการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อลงทุนและรับจ้างบริหารโรงแรมระดับไฮเอนด์เพราะบริษัทประสบความสำเร็จจากศรีพันวาจนเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาแล้ว จากนี้ไปจะเป็นการต่อยอดแบรนด์ศรีพันวา และยกระดับ "บาบา บีช" เป็นแบรนด์รอง ล่าสุดคือจะมีการลงทุนโครงการบาบา บีช ชะอำ มูลค่าโครงการประมาณ 1,029 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการภายในต้นปี 2560
ด้านนายลี จุน ประธานกลุ่มบริษัท จุนฟา เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า จุนฟาเข้ามาร่วมทุนกับสิงคโปร์ได้ 5-6 ปีแล้ว ตอนนี้มองหาโอกาสลงทุนในประเทศไทยและเมียนมาร์ ปัจจุบันบริษัทเป็นเจ้าของโครงการไห่หนาน ไอส์แลนด์ ในยูนนาน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้ดึงกลุ่มบริษัทชาญอิสสระเข้าไปลงทุนและบริหารในเฟสโรงแรมและเรสซิเดนซ์ระดับไฮเอนด์ ในระยะยาวจุนฟาสนใจลงทุนในอาเซียนอีกด้วย
"ตอนนี้จีนเป็นตลาดใหญ่ของไทย ในระยะยาวถ้ามีช่องทางที่จะลงทุนเราก็สนใจทั้งนั้น ซึ่งนอกจากที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์และโรงแรมแล้ว บริษัทยังสนใจลงทุนธุรกิจการเกษตรในไทยอีกด้วย" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-02-2558
|
|
|
|
|
