Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"เอสซีจี"ส่งซิกเชื่อมั่นเร่งลงทุนเพิ่มหมื่นล้านรับเออีซี |
|
เอสซีจีมั่นใจปีทองธุรกิจอาเซียน จ่อเพิ่มงบฯลงทุนปี"58 อีก 1 หมื่นล้าน เป็น 6 หมื่นล้าน เร่งเครื่องงานก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ 4 แห่ง ในลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และอินโดฯ แย้มมีดีลควบรวมกิจการกำลังเจรจาอีกหลายดีล ชี้ลงทุนภาครัฐช่วยดันตลาดปูนในประเทศโต 6% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 19 ปี
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทเดินหน้าลงทุนตามแผน 5 ปี (2557-2561) เฉลี่ยปีละ 5 หมื่นล้านบาทอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มงบฯลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท เป็น 6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีโครงการลงทุนต่อเนื่องโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในอาเซียนรวม 4 โรง ได้แก่ กัมพูชา สหภาพเมียนมาร์สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ที่จะเร่งให้เสร็จเร็วขึ้น และอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าควบรวมกิจการอีกหลายดีล
โดยแผนลงทุนจะเน้นอาเซียนเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าจะเป็นขุมทอง หลายประเทศมีอัตราจีดีพีเติบโตดี เช่น กัมพูชาเติบโต 7% เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ส่วน สปป.ลาว สหภาพเมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซียอยู่ในช่วงพัฒนาประเทศ จึงมีดีมานด์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างสูง ขณะเดียวกันกลุ่มชนชั้นกลางแต่ละประเทศเริ่มมีรายได้และอัตราบริโภคสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสของสินค้าเอสซีจี
"ปีที่ผ่านมาเอสซีจีมีรายได้ในอาเซียนทะลุ 1 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก เติบโต 19% ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในอาเซียนเพิ่มเป็น 21% เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบริษัทมีนโยบายส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนตลาดในประเทศที่ชะลอตัวลง"
นายกานต์กล่าวต่อว่า ภาพรวมความต้องการปูนซีเมนต์ปีนี้ คาดการณ์จะขยายตัว 6% หรือมีดีมานด์ 42 ล้านตัน จากปีก่อนติดลบเกือบ 1% ปัจจัยบวกหลักมาจากรัฐบาลมีนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าไปชานเมือง
ปีนี้เอสซีจีจึงเตรียมลดปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์เหลือ 4 ล้านตัน จากปีก่อน 4.4 ล้านตัน เพื่อรองรับความต้องการใช้ซีเมนต์ในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยกรณีที่ภาพรวมปูนซีเมนต์เติบโตตามที่คาดการณ์จะมีปริมาณความต้องการใช้ซีเมนต์สูงสุดในรอบ 19 ปี นับตั้งแต่ปี 2539
ทั้งนี้ สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/2557 บริษัทมียอดขายรวม 116,710 ล้านบาท เติบโต 12% มีกำไรสุทธิ 8,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากผลการดำเนินงานธุรกิจเคมีภัณฑ์ออกมาดี ขณะที่ปี 2557 มียอดขายรวมที่ 487,545 ล้านบาท เติบโต 12% และมีกำไรสุทธิ 33,615 ล้านบาท ลดลง 8% ปัจจัยมาจากไตรมาส 3/2556 บริษัทมีกำไรพิเศษธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 1,701 ล้านบาท เนื่องจากขายหุ้นบางส่วนให้กับโตโต้จากประเทศญี่ปุ่น ธุรกิจพีวีซีมีผลประกอบการลดลง และขาดทุนสต๊อกลอส หรือการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ 2,960 ล้านบาท จากผลกระทบราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 04-02-2558
|
|
|
|
|