|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ปัญหายังไม่จบ! ไซต์ก่อสร้างกระทบชุมชน ยุคบูม"คอนโด" |
|
น้ำผึ้งหยดเดียวของวงการอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้ เป็นกรณีข้อพิพาทระหว่างชุมชนกับคอนโดมิเนียม "แอสปาย งามวงศ์วาน" 3 อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างของเดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ในเครือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ที่ยังเคลียร์ปัญหากับผู้อยู่อาศัยรอบพื้นที่ก่อสร้างไม่ลงตัว
โดยชาวบ้าน 39 รายที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการ รวมตัวยื่นฟ้องหลายหน่วยงานต่อศาลปกครอง อาทิ กทม.-กรุงเทพมหานคร, สผ.-สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ตามหมายเลขคดี ส.3-2554
ล่าสุด ตัวแทนผู้ฟ้องร้องศาลปกครองออกมาจุดประเด็นเรื่องนี้อีกครั้ง โดยอ้างถ้อยแถลง "เสถียร ทิวทอง" ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลางในฐานะตุลาการผู้แถลงคดี
สาระสำคัญบางส่วนระบุว่า รายงานอีไอเอหรือรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ คชก.ให้ความเห็นชอบนั้น กระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ห่างไกลจากโครงการเกินกว่า 1,000 เมตร ทั้งที่ต้องรับฟังชาวบ้านรอบโครงการที่ใกล้เคียงที่สุด
นำไปสู่การระบุว่าข้อมูลในรายงานอีไอเอที่ คชก.ไม่เป็นไปตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ซอยชินเขตสอบถามผู้อยู่อาศัยด้านหลังพื้นที่ก่อสร้างคอนโดฯแอสปาย งามวงศ์วานรายหนึ่งกล่าวว่า อยู่อาศัยที่นี่ 40 กว่าปี กระทั่งคอนโดฯแอสปายมาก่อสร้างก็ถูกรบกวนและได้รับความเดือดร้อน ช่วงแรกที่ก่อสร้างมีฝุ่นละอองตกลงแทบตลอดเวลา บางครั้งมีเศษวัสดุร่วงลงมา บ้านสั่นระหว่างตอกเสาเข็ม และเชื่อว่าเป็นสาเหตุเกิดรอยร้าวที่ตัวบ้าน
ก่อนหน้านี้จึงร่วมกับชาวบ้าน 39 รายยื่นฟ้องศาลปกครอง โดยศาลจะมีคำตัดสิน 13 กุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคำตัดสินออกมาเป็นอย่างไร คงต้องต่อสู้กันในชั้นศาลปกครองสูงสุดต่อไป
ขณะที่ "วิทการ จันทวิมล" รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ยืนยันว่า บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อีไอเออย่างถูกต้อง และได้พยายามเจรจากับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
"สิ่งที่ชาวบ้านไม่พอใจคือเกิดเสียงเครื่องจักร เศษวัสดุ-ฝุ่นละอองตกหล่น รบกวนการอยู่อาศัย และอาคารไปบดบังแสงแดด เราประสานผู้รับเหมาก่อสร้างจัดทำมาตรการป้องกันโดยคลุมผ้าทั้งตึกเพื่อป้องกันฝุ่นและเศษวัสดุตกหล่น แต่มีชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจตกลงกันไม่ได้"
แน่นอนว่าเคสนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของวงการ ยิ่งในยุคที่คอนโดฯใจกลางเมืองผุดเป็นดอกเห็ด ปมขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน-ผู้พัฒนาโครงการก็ยิ่งเกิดถี่ตามไปด้วย
สถิติจากสำนักการโยธา กทม.-กรุงเทพมหานครพบว่า ปี 2556 รับเรื่องร้องเรียน 218 ราย ปี 2557 จำนวน 174 ราย และปี 2558 ถึงปัจจุบันมี 9 ราย
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ คอนโดฯดิเมมโมเรีย ซอยพหลโยธิน 8 หรือซอยสายลมของ บจ.ดีเวล แกรนด์ แอสเสทที่ถูกชาวบ้านละแวกโครงการรวมตัวยื่นฟ้องศาลปกครองกลางให้ระงับการก่อสร้าง และมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว
ส่วนในเมืองพัทยาปีที่ผ่านมามีกรณีชาวบ้านรวมตัวขอให้ตรวจสอบการพิจารณารายงานอีไอเอ โครงการวอเตอร์ ฟรอนท์สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ สูง 53 ชั้น ท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา ที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ เนื่องจากตัวตึกบดบังทัศนียภาพเมืองพัทยา ทำให้การก่อสร้างก่อนหน้านี้ต้องชะงักไปเช่นกัน
ส่วนโครงการยูดีไลท์ พหลโยธินสเตชั่นและยู พหลโยธินของ บจ.แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวล็อปเมนท์ ก็เคยถูกชาวบ้านละแวกโครงการต่อต้าน สุดท้ายไม่ได้รับความเห็นชอบรายงานอีไอเอจาก คชก.จนต้องยกเลิกโครงการพร้อมกับคืนเงินลูกค้า
รวมถึงคอนโดฯในจังหวัดเชียงใหม่แห่งหนึ่งที่ออกแบบเป็นตึกสูง เริ่มมีชาวบ้านออกมาคัดค้านกลัวว่าจะกระทบทัศนียภาพเมืองเชียงใหม่ ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานกว่ารายงานอีไอจะได้รับความเห็นชอบก็ตาม
ปมพิพาทระหว่างผู้อยู่อาศัย-ผู้พัฒนาจึงกลายเป็นคลาสสิกเคสด้วยประการฉะนี้ ในยุคที่มีคอนโดฯเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้าและฝังตัวท่ามกลางชุมชนเช่นนี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-01-2558
|
|
|
|
|
