Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"หนี้ครัวเรือน" ทุบ-ไม่ทุบอสังหาฯ (4) "กานดาฯ-ซื่อตรง" ชี้การเมือง-ศก. เสี่ยงกว่า |
|
รอบปีที่ผ่านมา "หนี้ครัวเรือน" เป็นประเด็นที่ดีเวลอปเปอร์ยกขึ้นมาพูดถึงมาก เพราะตัวเลขหนี้พุ่งขึ้นถึง 83% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คำถามคือผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนจะยังเป็นด่านหินของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้หรือไม่
"รุ่งรัตน์ ลิ่มทองแท่ง" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซื่อตรง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ให้ความเห็นว่า หนี้ครัวเรือนเป็นเรื่องน่าห่วงเพราะทำให้แบงก์ปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้น สัดส่วนลูกค้ากู้ไม่ผ่านจึงเพิ่มขึ้น
กลุ่มลูกค้าของซื่อตรงฯ ปี"56 มีสัดส่วนกู้ไม่ผ่าน 10% ปี"57 บางช่วงขยับขึ้นเป็น 15% ส่วนใหญ่ที่กู้ไม่ผ่านเป็นพนักงานออฟฟิศที่ซื้อบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1-2 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากมีหนี้รถคันแรก
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองปัจจัยลบหนี้ครัวเรือนไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลที่สุดในปีนี้ เพราะบริษัทสามารถลดความเสี่ยงลูกค้ากู้ไม่ผ่าน ด้วยการขอพรีแอปพรูฟหรือตรวจสอบสถานะการเงินเบื้องต้นของลูกค้าก่อนว่ามีโอกาสกู้ผ่านหรือไม่
ต่างจากปัจจัยเรื่องการเมืองคิดว่าเสี่ยงที่สุดในปีนี้ เพราะกระทบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยตรง มีผลให้ชะลอตัดสินใจซื้ออสังหาฯเพราะเป็นของชิ้นใหญ่ราคาสูง และเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อรวมกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทำให้กำลังซื้อลดลง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จึงไม่น่าเติบโตอย่างที่คิด อย่างไรก็ตาม หากเลือกตั้งเร็ว การเมืองไม่สุ่มเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้ง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะฟื้นตัวเต็มที่ ตลาดอสังหาฯก็จะเติบโตได้
สอดคล้องกับความเห็น "อิสระ บุญยัง" กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ระบุว่าผลกระทบหนี้ครัวเรือนกับอสังหาฯเห็นผลมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วจากนโยบายรถคันแรก ถามว่าแล้วปีนี้หนี้ครัวเรือนยังน่าเป็นห่วงหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าน่าห่วง แต่ผลกระทบอาจไม่มากอย่างที่คิด
เหตุผลคือ 1) การกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเป็นการออมรูปแบบหนึ่ง ที่ผ่านมาแม้แบงก์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ แต่ยอดสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ก็ยังเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2) ถึงแม้ผู้ประกอบการต้องเจอปัญหาขายได้ แต่ลูกค้ากู้ไม่ผ่าน แต่สามารถคัดกรองลูกค้าโดยทำพรีแอปพรูฟได้ ยกตัวอย่างกานดาฯมีสัดส่วนลูกค้ากู้ไม่ผ่าน 5-7%
ดังนั้นหนี้ครัวเรือนจึงไม่น่าห่วงเท่าภาพรวมเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยชี้นำและขับเคลื่อนธุรกิจ ถ้าภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตก็จะส่งผลบวกต่อธุรกิจอสังหาฯ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจมีปัจจัยเอื้อต่อการเติบโตไม่มาก ถึงแม้รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และภาคบริการ ยังต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกหรือคู่ค้าต่างชาติทั้งจีน รัสเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่มีปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งสิ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-01-2558
|
|
|
|
|