| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 34 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 13-01-2558    อ่าน 1321
 "กานต์ ตระกูลฮุน" บิ๊ก SCG ถอดรหัสภารกิจปีสุดท้ายก่อนส่งไม้ต่อ

สัมภาษณ์พิเศษ

เป็นปรากฏการณ์ที่นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เคยยืนในระดับกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กลับหล่นฮวบลงมาเหลือกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ภายใน 1 เดือน ภายใต้ภาวะราคาน้ำมันขาลงถูกจับจ้องว่าจะกดดันราคาปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างให้ลดลงได้หรือไม่

ล่าสุด "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "กานต์ ตระกูลฮุน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี ในโอกาสมาเยี่ยมเยีียน บมจ.มติชน ช่วงปีใหม่ ขณะเดียวกันวาระปี 2558 จะเป็นปีสุดท้ายที่เขานั่งเก้าอี้ซีอีโอ เอสซีจี ในฐานะผู้นำธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง ทิศทางตลาดวัสดุปีนี้จะเป็นอย่างไร และเตรียมความพร้อมผ่องถ่ายตำแหน่งผู้นำองค์กรไว้อย่างไรบ้างบรรทัดต่อจากนี้ไปคือคำตอบ

- น้ำมันลง ราคาซีเมนต์-วัสดุจะลดลง

ก็มีโอกาสครับ เป็นไปตามกลไกตลาด ปลายไตรมาส 4/57 ราคาเริ่มอ่อนตัวลงมา ผู้ผลิตทุกรายมีต้นทุนลดลงเป็นอย่างนั้น ตลาดซีเมนต์ วัสดุของเราค่อนข้างเป็นเปอร์เฟ็กต์คอมพีติชั่น หรือแข่งขันกันสมบูรณ์ ปัจจุบันราคาปูนซีเมนต์ถ้าเป็นราคาต่อดอลลาร์ถือว่าอ่อนตัวลง เพราะค่าเงินบาทอ่อนลงมาที่ 33 บาท

โดยรวมการส่งออกซีเมนต์ของบริษัทปีนี้คงจะลดลงบ้างจากปีก่อน เพื่อมาขายในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับปี"58 ประมาณการว่า การขายทั้งปี (รวมส่งออก) น่าจะราว 17 ล้านตัน แต่ตัวเลขชัดเจนขอดูไตรมาส 4/57 ที่ผ่านมาอีกครั้ง

- ปีนี้ห่วงปัจจัยอะไรมากสุด

(นิ่งคิด) หลัก ๆ ยังเป็นเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ปีนี้คงยังไม่มีการเลือกตั้ง คงมีเรื่องการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ มองว่าจะเป็นประโยชน์ ทำให้ประเทศแข็งแรงขึ้น ปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันสมัย กระบวนการทำงานรวดเร็วขึ้น


เช่น กระบวนการด้านภาษีศุลกากร ฯลฯ ส่งเสริมเพิ่มโอกาสต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยเฉพาะนักลงทุนที่จะเข้ามาตั้งออฟฟิศในไทย เป็นอินเตอร์เนชั่นแนลเทรดดิ้งฮับ จะเป็นประโยชน์กับประเทศมาก ควรจะรีบส่งเสริมเลย

นอกจากนี้ กฎหมายลูกที่จำเป็นต้องแก้ก็ควรจะต้องรีบทำ เพราะจากที่พูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติ พร้อมจะเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ถ้าเร่งได้จะดี ทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) ที่ได้ผู้รับเหมาแล้ว สายใหม่ ๆ ที่อยู่ในแผนงาน โครงการรถไฟทางคู่ ถ้าทำได้เป็นผลบวกกับเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอยู่แล้ว

- วันนี้มองเศรษฐกิจอย่างไร

ปีนี้ทิศทางคงดีขึ้นแน่อยู่แล้ว เพราะปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดี ตัวเลขอัตราจีดีพีที่หลายค่ายพูดกันเยอะคือ จีดีพีจะเติบโตต่ำกว่า 4% แต่ผมมองว่าโอกาสจะเติบโตถึง 4% เดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็เช็กยอดขายเป็นรายวัน ก็สบายใจว่ายอดขายดีขึ้นอย่างที่หวัง


แต่ต้องยอมรับว่าพอราคาน้ำมันลงแรง ๆ เซ็กเตอร์ธุรกิจพลังงานหรือที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงาน กลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบกระเทือน คนที่อยู่ในธุรกิจเหล่านี้จะเริ่มได้รับผลกระทบ ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นก็ปรับลดลงจากผลของราคาน้ำมันในตลาดโลก นักลงทุนที่อยู่ในตลาดหุ้นที่อาจจะขาดทุนในธุรกิจพลังงาน กำลังซื้อในประเทศอาจจะลดลงบ้าง

ขณะเดียวกันเมื่อราคาน้ำมันลดลงแรง ก็จะกระทบกับประเทศที่มีรายได้จากการส่งออกน้ำมัน เช่น รัสเซีย ตะวันออกกลาง กับอีกหลาย ๆ ประเทศที่ผลิตพลังงาน แต่น่าจะมีผลกระทบกับการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมากกว่า

ทั้งนี้ทั้งนั้น น้ำมันลงรอบนี้น่าจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโลกโดยรวมด้วย โดยเฉพาะประเทศที่นำเข้าน้ำมันจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากนำเข้าน้ำมันราคาถูกลง ยกตัวอย่าง "อาเซียน" หลัก ๆ เป็นประเทศเน็ตอิมพอร์ต นำเข้าพลังงานเป็นหลัก ถึงแม้ประเทศอินโดนีเซียจะเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ แต่ราคาถ่านหินปัจจุบันไม่ได้ปรับลดลงมาก ถ้าให้เวลาอีกสัก 1 ไตรมาส โดยรวมทั้งโลกน่าจะมีกำลังซื้อมากขึ้น

ยิ่งมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ รัฐบาลมีนโยบายที่ออกมาสนับสนุนการลงทุน เช่น การเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 จังหวัด

- อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนอะไร

อย่างที่เคยบอกเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ถ้าลุยได้ เอกชนจะเชื่อมั่นและกล้าลงทุนตาม เชื่อว่าทุก ๆ เซ็กเตอร์พร้อมจะลงทุนปีนี้เหมือนกัน

- ในอาเซียนเอสซีจียังลงทุนต่อ

ใช่ครับ ตอนนี้ถือว่าเราเป็นผู้นำในอาเซียน เช่น วัสดุก่อสร้าง ซีเมนต์ แต่ก็ยังต้องเติบโตต่อ สิ่งที่เน้นคือเรื่องอาร์แอนด์ดี หรือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จะต้องเพิ่มขึ้นอีก เป็นตัวช่วยให้เอสซีจีแข็งแกร่งขึ้น ก็อยากให้ทุก ๆ บริษัทในประเทศไทยเพิ่มน้ำหนักการทำอาร์แอนด์ดีมากขึ้น ผมมองว่าการแข่งขันในอนาคตจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนาสินค้า คิดค้นนวัตกรรม จะเป็นคีย์ที่ทำให้แข่งขันได้ และจะได้ประโยชน์จากการเปิดเออีซี

- งบฯลงทุนอาเซียนปีนี้

ปี"58 เอสซีจีจะใช้เงินลงทุนมากกว่าปีที่ผ่านมาพอสมควร หลายโครงการกำลังรันต่อเนื่อง อย่างโรงงานซีเมนต์ใน สปป.ลาว กัมพูชา กำลังขยาย ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น คงไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท

- อีก 1 ปีจะเกษียณเตรียมอะไรบ้าง

เรียนว่าเราเตรียมความพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว (หัวเราะ) การทำซักเซสชั่นแพลนจบแล้ว วางไว้หมด น้อง ๆ ที่จะเติบโตขึ้นมาทดแทน การวางแผนเรื่องคนที่จะเข้าไปอาเซียนรองรับขยายการลงทุนอนาคตรันไว้หมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วงเลย เพียงแต่จะให้บริษัทขยายตัวมากกว่านี้ได้อีกแค่ไหน เพราะแนวโน้มมองว่าภูมิภาคอาเซียนยังมีโอกาสอีกเยอะ

ปีนี้ผมก็จะเดินทางต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอาเซียนเพื่อพบปะพันธมิตรธุรกิจและดูโอกาสการลงทุนอย่างใกล้ชิด ล่าสุดการซื้อกิจการเกี่ยวกับบริษัทด้านการวิจัยในยุโรปก็จบแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อคือทำอย่างไรให้คนบริษัทรักเอสซีจี ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่

- 9 ปีที่เป็นซีอีโอ มาถึงเป้าหมายแล้ว

ก็มาได้อย่างที่ตั้งใจ น้อง ๆ ให้ความร่วมมือ ทุกคนทุ่มเท สำคัญที่สุดคือองค์กรเริ่มเปลี่ยนคัลเจอร์ หรือวัฒนธรรมองค์กรได้ชัดเจน เป็น "อินโนเวทีฟคัลเจอร์" เป็นองค์กรนวัตกรรม กลายเป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ เดิมอาจจะมีคำถามอยู่บ้างว่าทำไปเพื่ออะไร เรื่องความร่วมแรงร่วมมือก็เป็นจุดแข็งของเอสซีจี ไม่ใช่เฉพาะในบริษัทกลุ่มธุรกิจเดียวกัน แต่ข้ามกล่มธุรกิจก็ให้ความร่วมมือดี


แน่นอนว่าเป้าหมายต้องแชลเลนจ์ไปเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้อยู่แล้ว จริง ๆ ก็วางแผนระยะยาวมาตลอดไ ม่ได้มองช่วงนี้ แต่มองไปถึง 10 ปีข้างหน้า ทิศทางองค์กรจะไปอย่างไร ภูมิภาคอาเซียนยังคงเป็นหลักแน่นอน สิ่งที่ทำมาเริ่มสัมฤทธิผลค่อนข้างดี เห็นชัดเจนเวลาเศรษฐกิจไทยอ่อนตัวลง ธุรกิจที่เราออกไปลงทุนในอาเซียนเป็นตัวช่วยได้มาก

อย่างธุรกิจเซรามิกในอาเซียน รอบหลายเดือนที่ผ่านมาถือว่าดีมาก ๆ เป็นตัวช่วยพยุงดีมานด์ในประเทศที่อ่อนตัวลงบ้าง อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่า ปีหน้าจะดีขึ้นแน่นอน ผมค่อนข้างมั่นใจ

- ใกล้เกษียณแล้วใจหาย

ไม่เลย (หัวเราะ) มีความสุขกับการทำงานครับ
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 13-01-2558 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.