Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
สำนักงบฯเสนอทบทวน "ราคากลาง" หลังน้ำมันลด บี้รับเหมาลดค่างานรัฐประหยัด6พันล้าน |
|
สำนักงบฯเสนอทบทวน "ราคากลาง" หลังน้ำมันลด ประเมินรัฐประหยัดงบฯ 6 พันล้านบาท โยกลงทุนโครงการใหม่ "กรมทางหลวง-ทางหลวงชนบท" สบช่องต่อรองราคารับเหมา บิ๊ก ช.การช่าง หนุนเทกระจาดประมูล 7 แสนล้าน ฟันธงค่าก่อสร้างถูกลง 1-2%
นาย สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำนักงบประมาณ กำลังจะเสนอมาตรการให้ส่วนราชการปรับราคากลางใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ราคาน้ำมันที่ลดลงค่อนข้างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา จากการประเมินเบื้องต้นราคาน้ำมันที่ลดลง นอกจากส่งผลดีทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้าง ค่าขนส่ง และค่างานสิ่งก่อสร้างลดลงแล้ว จะส่งผลให้การปรับราคาค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ลดลงอีกส่วนหนึ่งด้วย ถือเป็นแง่บวกในการใช้จ่ายงบประมาณ ทำให้ภาครัฐมีเม็ดเงินเหลือมาทำโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ได้มากขึ้น
โดยเฉพาะโครงการที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทเอกชน หรือผู้รับเหมาจะได้รับอานิสงส์อย่างมาก เบื้องต้นได้รับรายงานว่าราคาค่าก่อสร้างหลายรายการลดลงตั้งแต่ 1.5-9% ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขอยู่ ประเมินเบื้องต้นในส่วนของงบฯลงทุนปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 4.5 แสนล้านบาท หากปรับลดราคากลางลงได้ 5% จะมีวงเงินเหลือไปใช้ลงทุนโครงการอื่น ๆ เพิ่มกว่า 2 หมื่นล้านบาท หรือหากต้นทุนลดลงต่ำสุดที่ 1.5% ก็จะประหยัดงบฯได้กว่า 6 พันล้านบาท
"ค่า K ซึ่งจะลดลงส่วนหนึ่งด้วย คืองบประมาณที่จะต้องไปจ่ายตรงนี้ ก็อาจจะไม่ต้องจ่าย ประหยัดไป แต่คงไม่ถึงกับต้องเรียกคืน คือปกติถ้าค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นเกิน 4% เขาจะมาขอค่า K หรือถ้าลดลงต่ำกว่า 4% ก็สามารถเรียกคืนได้ อย่างเช่น ผิวถนนแอสฟัลต์ติดคอนกรีต เป็นต้น" นายสมศักดิ์กล่าว
ส.รับเหมาวืดชดเชยค่าแรง 300
ขณะ ที่นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จะมีการปรับราคากลางใหม่หรือไม่นั้น จะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ซึ่งมีสำนักงบประมาณเป็นกรรมการอยู่ด้วยพิจารณาก่อน โดยคณะกรรมการต้องพิจารณาร่วมกันว่าราคาน้ำมันที่ลดลงนั้นจะยืนราคาได้นาน แค่ไหน เพราะหากน้ำมันปรับขึ้น ๆ ลง ๆ อาจไม่เหมาะที่จะปรับราคากลาง
อย่าง ไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ลดลงถือเป็นผลดี ทำให้อย่างน้อยไม่ต้องปรับขึ้นราคากลางตามที่สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีข้อเสนอมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องมาตั้งแต่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน
"ตอนนี้อาจไม่ต้องปรับ เพราะเดิมเขาอ้างว่าค่าแรง 300 บาทเขากระทบเยอะ แต่ที่ผ่านมาปรับให้เขาไปนิดเดียว เลยจะขอปรับขึ้นอีก แต่การที่ราคาน้ำมันลดลง อาจทำให้ไม่ต้องปรับราคากลางก็ได้ เรื่องนี้ต้องให้คณะกรรมการกำหนดราคากลางตัดสินใจจะต้องหารือกันก่อน" นายมนัสกล่าว
คมนาคมแอ็กชั่นต่อราคาประมูล
ขณะที่นาย ชูศักดิ์ เกวี อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปี 2558 กรมเหลือโครงการใหม่รอลงนามสัญญาและประมูลก่อสร้าง วงเงิน 40,447 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ถนน 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ก่อสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างประเทศ งานบูรณะทางสายหลักระหว่างภาค ฯลฯ รวม 32 โครงการ จะเร่งเปิดประมูลให้แล้วเสร็จเดือนมกราคมนี้
"ราคาน้ำมันถูกลง มีผลให้ราคากลางถูกลงด้วย ซึ่งจะมีค่าเค (ค่าชดเชย) ที่ผู้รับเหมาต้องคืนให้อยู่แล้ว ในวันจ่ายเงินงวดค่าก่อสร้าง หากวัสดุก่อสร้างหรือน้ำมันถูกลง บวก-ลบ 4% ส่วนการต่อรองราคาหลังประมูลก็เป็นไปตามปกติ ยิ่งน้ำมันลดลง ผู้รับเหมาน่าจะลดราคาลงอีก"
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวในทำนองเดียวกันว่า งบฯก่อสร้างโครงการใหม่ของกรม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่กระบวนการต่อรองราคาและเปิดประมูล วงเงิน 5,000 ล้านบาท จากทั้งหมด 25,000 ล้านบาท จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้การเสนอราคาประมูลปรับลดลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้รับเหมาจะต้องคำนวณราคาที่เสนอจากราคาวัสดุก่อสร้างและน้ำมัน ณ วันที่ประมูล อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้รับเหมาก่อสร้างแข่งขันกันเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางอยู่แล้ว
รถไฟฟ้าแสนล้านได้อานิสงส์
นอกจากนี้ ยังเป็นนโยบายของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้ต่อรองราคาก่อสร้างกับผู้รับเหมาที่ชนะประมูลให้มากที่สุด เพื่อนำเงินส่วนต่างไปพัฒนาโครงการใหม่และโครงการจำเป็นเร่งด่วน โดยไม่ต้องรองบประมาณปี 2559 เช่น โครงการซ่อมถนนที่ถูกน้ำท่วม ซ่อมแซมถนน ฯลฯ
ส่วนนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการด้านบริหารและรักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ ไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยที่จะปรับลดราคาลง เพราะจะช่วยรัฐบาลประหยัดงบฯลงทุนของประเทศ ซึ่ง รฟม.มีรถไฟฟ้าสายใหม่ 3 เส้นทางที่จะเปิดประมูลในปี 2558 คิดเป็นเฉพาะค่าก่อสร้างรวมประมาณ 112,736 ล้านบาท แยกเป็นสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) วงเงิน 71,886 ล้านบาท สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วงเงิน 19,877 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) วงเงิน 20,973 ล้านบาท
รับเหมาเซ็งหั่นราคากลางเร็วไป
ขณะ ที่นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า เร็วเกินไปหากสำนักงบประมาณจะปรับลดราคากลางลงอีกตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลด ลง เนื่องจากยังไม่สะท้อนถึงราคาวัสดุก่อสร้างที่แท้จริง รวมถึงปัจจัยอื่น เช่น ค่าแรง ฯลฯ น่าจะรอสักระยะให้สถานการณ์นิ่งกว่านี้ก่อน เนื่องจากราคาที่ผู้รับเหมาเสนอประมูลแต่ละโครงการจะคำนวณตามราคาตลาดก่อน วันยื่นซองประมูล 28 วัน ไม่อ้างอิงราคากลางเป็นหลัก หากเวลานั้นราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันถูก การเสนอราคาจะต่ำกว่าราคากลางอยู่แล้ว อีกทั้งมีค่าเคชดเชยให้ ถ้าต่ำกว่า 4% ผู้รับเหมาก็ต้องคืนเงินให้รัฐอยู่แล้ว
"ผมว่าเป็นเรื่องกลไก ตลาด ถ้าผู้รับเหมามองว่าราคาของถูกลง ก็เสนอราคาถูก ส่วนการต่อราคาก็เป็นปกติ ตอนนี้สถานการณ์ประมูลงานไม่ดี งานไม่ค่อยมี ผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางอยู่แล้ว อย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ก็เสนอต่ำกว่าราคากลาง 5%"
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ถือเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลควรจะเร่งประมูลงานโครงการต่าง ๆ ในขณะนี้ เพราะค่าก่อสร้างโดยรวมจะถูกลง 1-2% ตามแผนคาดว่าปี 2558 รัฐบาลจะมีงานประมูลใหม่ ๆ วงเงิน 6-7 แสนล้านบาท เช่น รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ สนามบิน ฯลฯ
"ที่สำนักงบประมาณจะปรับลดราคากลางลงอีก นั้น มองว่าราคาเดิมดีอยู่แล้ว เนื่องจากสัญญาก่อสร้างจะมีค่าเคชดเชยให้ผูรับเหมา ถ้าของถูกผู้รับเหมาก็คืนเงินให้รัฐ และปีหน้ายังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องค่าเงินผันผวน"
ผู้สื่อข่าวรายงาน เพิ่มเติมว่า สำหรับวงเงินลงทุนใหม่ของกระทรวงคมนาคมปี 2558 อยู่ที่ 83,111 ล้านบาท แยกเป็นส่วนราชการ 77,339 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 7,642 ล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-12-2557
|
|
|
|
|