|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ปีมะแม 3 กูรูมองโลกสวย ภาวนาการเมืองนิ่ง ซีเมนต์-อสังหาโตได้อีก |
|
ปี"57 เป็นอีกปีที่เศรษฐกิจไทยเจอกับปัญหาการเมืองกดดันให้จีดีพีเติบโตแบบถดถอย ขณะที่ปีหน้าภาคธุรกิจคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว
ล่าสุดสมาคมนิสิตเก่าวิศวะ จุฬาฯ จัดดินเนอร์ทอล์กหัวข้อ "ทิศทางไทยในปีแห่งการคืนความสุข" โดยแวดวงวัสดุและอสังหาริมทรัพย์ มีกูรูขึ้นเวที 2 คนคือ "กานต์ ตระกูลฮุน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด หรือ "เอสซีจี" และ "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตทศิษย์เก่าคณะวิศวะ จุฬาฯ นอกจากนี้มีมุมมอง "สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC ได้ฉายภาพสถิติอสังหาฯที่มอนิเตอร์ข้อมูล
SCG ชี้สัญญาณซีเมนต์เริ่มฟื้น
"กานต์" ซีอีโอเอสซีจีแชร์มุมมองเศรษฐกิจว่า ปี"57 เป็นปีที่ทุกคนเห็นภาพว่าเศรษฐกิจโดยรวมถดถอย สำหรับภาพรวมตลาดซีเมนต์ล่าสุดเดือนธันวาคม 2557 ช่วง 7 วันแรกยอดขายไม่ค่อยดี แต่สัปดาห์ที่ 2 ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มดีขึ้น โตจากปีก่อน 20% หลังรัฐบาลพยายามเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเร็ว เมื่อ 18 ธันวาคมก็เพิ่งทำแผนเสนอคณะกรรมการ ประเมินภาพรวมซีเมนต์ปี"58 จะเติบโต 6% จากปีนี้น่าจะติดลบ 1%
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจปี"58 มองในเชิงบวก การบริโภคน่าจะดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง จากที่ผ่านมาถูกโครงการรถคันแรกดูดกำลังซื้อไปพอสมควร มองว่าการลงทุนโครงข่ายคมนาคมภาครัฐจะเป็นตัวนำ เห็นชัดภาครัฐเร่งเบิกจ่ายเงินเร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลา 150 วัน พยายามลดเหลือ 90 วัน ก่อนหน้านี้พบกับผู้รับเหมารายใหญ่ เช่น ช.การช่าง อิตาเลียนไทยฯ ฯลฯ มีงานในมือค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามสำคัญคือการเมืองต้องนิ่ง
ส่วนในอาเซียนเอสซีจีลงทุนหลายประเทศ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย สหภาพเมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา ฯลฯ ปีนี้ดีมากทุกประเทศ ยกเว้นอินโดฯแผ่วไปช่วงที่เลือกตั้งประธานาธิบดีไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา แต่เลือกตั้งเสร็จก็เริ่มปกติ อย่างไรก็ตามเงินรูเปียห์ยังอ่อนค่า จากปี"54-55 อยู่ที่ 8,900 รูเปียห์ ต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบัน 12,300 รูเปียห์ ต่อดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามปัจจุบันดีมาก บริษัทคืนเงินกู้ที่ลงทุนเกือบหมด ตลาดซีเมนต์ที่นั่นเติบโต 10% สหภาพเมียนมาร์ปีนี้ส่งซีเมนต์เข้าไปเพิ่มขึ้น 10% สินค้าในสต๊อกเหลือน้อยมาก ส่วนกัมพูชาเดินกำลังผลิต โรงงานที่ 2 จะเสร็จปี"58 มีกำลังผลิต 900,000 ตัน
พฤกษาฯคาดอสังหาฯโต 5-7%
ส่วนภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ "ทองมา" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พฤกษาฯ คาดการณ์มูลค่ายอดขายรวมปี"57 คงติดลบ 10% ส่วนแนวโน้มปี"58 น่าจะดีขึ้น คาดการณ์ภาพรวมจะเติบโต 5-7% ขณะที่จีดีพีปีหน้ามั่นใจเติบโตมากกว่าปีนี้แน่นอน มีโอกาสเห็นจีดีพีเติบโตถึง 4%
ปัจจัยบวกคือเรื่องการเปิดเออีซี-ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะส่งเสริมอสังหาฯในระยะยาว 5-7 ปีนับจากนี้ จะเกิดการเคลื่อนย้ายประชากร คอนโดฯจะเติบโตทุกระดับ จะมีดีมานด์จากชาวต่างชาติ ปัจจุบันคอนโดฯมีส่วนแบ่ง 50-55% ของตลาดรวม
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจรัสเซีย คาดว่าจะกินเวลาไม่นาน เพราะรัฐบาลรัสเซียต้องมีมาตรการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามการที่น้ำมันปรับลดลงเหลือ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะเป็นผลบวกต่อต้นทุนค่าขนส่ง
สำหรับปีหน้า "พฤกษาฯ" ไม่ได้วางแผนตั้งรับเศรษฐกิจเป็นพิเศษ เพราะคงไม่แย่เหมือนช่วงน้ำท่วมหรือมีปัญหาการเมือง แต่จะมุ่งพัฒนาเรื่องคุณภาพงานก่อสร้างระบบพรีแคสต์และบริการ ส่วนเรื่องความเร็วพอใจแล้ว จะให้พนักงานทั้งหมด 3,400 คน มีส่วนร่วมพัฒนาด้วย ไม่ได้บริการแบบท็อปดาวน์หรือผู้บริหารสั่งลูกน้องอย่างเดียว
REIC ชี้หัวเมืองรองน่าลงทุน
ขณะที่ "สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ REIC ฉายภาพอสังหาฯปี"58 จะเติบโตกว่าปีนี้ 5-10% กรณีปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ส่งผลกระทบถึงไทยมาก คาดว่ามีโอกาสเติบโต 10% แต่หากส่งผลกระทบมากคาดว่าจะเติบโต 5%
สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล สินค้ามาแรงคงไม่พ้นคอนโดฯจะขยายตัวตามเส้นทางส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าและเมืองที่ขยายตัว คาดการณ์มีซัพพลายใหม่ทั้งปี 7 หมื่นยูนิต ทำเลที่มีศักยภาพได้แก่ เพชรเกษม บางหว้า สมุทรปราการ และ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงและศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสท์เกตเป็นแม็กเนต
ขณะที่ตลาดบ้านแนวราบจะมีซัพพลายเกิดใหม่ประมาณ 4.5 หมื่นยูนิต น้อยกว่าปี 2557 ที่มีซัพพลายเกิดใหม่กว่า 4.5-4.8 หมื่นยูนิต ทำเลมาแรงคือสมุทรปราการ
ถามถึงทำเลน่าห่วงคือหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต ฯลฯ
ส่วนจังหวัดที่มีโอกาสลงทุนคือหัวเมืองรอง เช่น นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เชียงราย หนองคาย มุกดาหาร พิษณุโลก เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัว บางจังหวัดเป็นเมืองการค้าชายแดน เมืองท่องเที่ยว เมืองราชการ และเมืองการศึกษา ประเมินว่ายังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยรองรับ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-12-2557
|
|
|
|
|
