|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| การเมืองสงบ ตปท.เริ่มช็อปคอนโดหรูปีมะแมจ่อเปิด2.4พันยูนิต |
|
"ซีบี ริชาร์ดฯ" ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯ ชี้แนวโน้มคอนโดฯหรูปี"58 จ่อเปิดตัวเพิ่ม 40% จาก 1.7 พันยูนิต เป็น 2.4 พันยูนิต คาดราคาเริ่มปรับขึ้นแบบชะลอตัวทั้งปีไม่เกิน 5% จาก 2 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นสูงเฉลี่ยปีละ 10-15% ส่วนต่างชาติเริ่มช็อปห้องชุดกลางเมืองระลอกใหม่หลังการเมืองสงบ
นาง สาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 2558 ประเมินภาพรวมคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่และซูเปอร์ลักเซอรี่ ราคาตั้งแต่ตารางเมตรละ 1.7-2.5 แสนบาทขึ้นไปในย่านใจกลางเมือง ได้แก่ ถนนสุขุมวิทช่วงต้น-ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ลุมพินี สาทร ริมน้ำถนนพระราม 3 และเจริญนคร จะมีผู้ประกอบการเปิดตัวคอนโดฯใหม่เพิ่มขึ้นจากปี 2557 มีจำนวน 1,700 ยูนิต คาดว่าปี 2558 จะเพิ่มเป็น 2,400 ยูนิต สาเหตุ เกิดจากผู้ประกอบการบางรายเลื่อนเปิดโครงการจากปีนี้รวมไม่เกิน 1,000 ยูนิต เนื่องจากปัญหาการเมืองและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อาทิ โครงการในย่านหลังสวน คาดว่าจะพัฒนาเป็นตึกสูง 53 ชั้น ฯลฯ
ขณะที่แนวโน้มราคาคอน โดฯย่านใจกลางเมือง คาดว่าจะปรับขึ้นเฉลี่ย 5% เป็นอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับปี 2556-2557 ปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 10-15% เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาราคาที่ดินขยับขึ้นเร็ว โดยคอนโดฯที่ซีบีฯ ปิดการขายได้ราคาสูงสุดในปีนี้ คือ เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน เรสซิเดนซ์ ในโครงการมหานคร ราคาตารางเมตรละ 3.7 แสนบาท และโครงการ 185 ราชดำริ ที่ตารางเมตรละ 3.4 แสนบาท ขณะที่ราคาเฉลี่ยของคอนโดฯระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ย่านใจกลางเมืองปีนี้ อยู่ที่ตารางเมตรละ 2.5 แสนบาท
นางสาวอลิวัสสากล่าวต่อว่า ปี 2558 บริษัทตั้งเป้าปิดยอดขายคอนโดฯ 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 30% จากปี 2557 คาดว่าปิดยอดขายที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่าเป็นลูกค้าคนไทย 82% และต่างชาติ 18% ขณะที่ปี 2558 คาดว่าสัดส่วนยอดขายลูกค้าชาวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจาก 2 ปัจจัย คือ 1) การเมืองสงบ และ 2) การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานำโครงการคอนโดฯแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ แอท ไอคอนสยาม ไปโรดโชว์เสนอขายที่ฮ่องกง 2 วัน ปิดการขายได้กว่า 400 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างเงียบ
ทั้งนี้ จากสถิติลูกค้าต่างชาติพบว่า ชาวฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ มีสัดส่วนสูงสุดประเทศละ 10% ของลูกค้าต่างชาติทั้งหมด ส่วนชาติที่มาแรงคือ จีน และญี่ปุ่น มีสัดส่วนชาติละ 9% |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-12-2557
|
|
|
|
|
