Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เผยญี่ปุ่นฉิวเซ็นเอ็มโอยูทางคู่กับจีน ไทยเร่งปลอบใจแบ่งเค้กให้ 3 เส้นทาง-ยันคุยทุกประเทศ |
|
ไทยหวั่นญี่ปุ่นฉิวที่เซ็นเอ็มโอยูยกไฮสปีดเทรนสายหลักให้จีน เตรียมแบ่งเค้ก 3 เส้นทางให้เพื่อ ปลอบใจ อ้างที่เซ็นได้เร็วเพราะเจรจามาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว โดยตอนนี้รอญี่ปุ่นมีรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อนคุยกันอีกรอบ
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลังจากลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกันพัฒนารถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน 1.435 เมตร ระหว่างไทยกับจีน ปรากฏว่าประเทศญี่ปุ่นสนใจที่จะดำเนินการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง คือเส้นทางพุน้ำร้อน กาญจนบุรี-ระยอง เส้นทางแม่สอด ตาก-มุกดาหาร และเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนหลังจากญี่ปุ่นตั้งรัฐบาลใหม่
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนแม่บทของรัฐบาล เพราะเป็นแนวคิดในการพัฒนาระบบขนส่งทางราง เชื่อมต่อระหว่างนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไปยังท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า
แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก จากพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 160 ก.ม. ช่วงที่สอง กรุงเทพฯ-มาบตาพุด จ.ระยอง ระยะทางประมาณ 179 ก.ม. เป็นการพัฒนาทั้งระบบรางขนาด 1 เมตร และระบบรางขนาด 1.435 เมตร และจะมีการพัฒนารถไฟ คู่ขนานไปกับการก่อสร้างถนน ซึ่งมีความสะดวกและ คุ้มค่า สิ่งสำคัญจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งโดยรวมของประเทศอีกด้วย
"ส่วนเส้นทางแม่สอด ตาก-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น-มุกดาหาร ปัจจุบันได้เสนอให้ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาศึกษาออกแบบความเป็นไปได้แล้ว และรอการตั้งคณะทำงานไปติดต่ออย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนการลงทุนก่อสร้างจริงจะรอผลสรุปการศึกษาก่อน"
สำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-เชียงของ นั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐบาลอยู่ เนื่องจากรัฐบาลมีขีดจำกัดในเรื่องการลงทุน แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นก็สนใจการร่วมลงทุนพัฒนาเส้นทางนี้ เช่นกัน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้แสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลไทยบันทึกข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนภายในระยะเวลาไม่นาน แม้ว่าพล.อ.อ.ประจินจะระบุว่าเป็นการสานต่อจากที่เคยมีข้อตกลงจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ดังนั้น จึงมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะจัดสรรโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้กับประเทศต่างๆ ที่สนใจและมีความพร้อม โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟทางคู่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งจีนก็มีความสนใจเช่นเดียวกับญี่ปุ่นด้วย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-12-2557
|
|
|
|
|