Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"สิงห์"เปิดแผน5ปีทุ่มหมื่นล้านยึดอโศกผุดคอมเพล็กซ์ยักษ์ |
|
"สิงห์ เอสเตท" เปิดแผนธุรกิจ 5 ปี ลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท รุกอสังหาฯครบวงจรทั้งขายขาด-ให้เช่าสัดส่วน 50 : 50 ชูโมเดลลงทุนทั้งสร้างใหม่และเทกโอเวอร์กิจการ เน้นเจาะเซ็กเมนต์ระดับกลาง-บน ตั้งเป้าถึงปี"62 มียอดขายทะลุ 2 หมื่นล้าน ปีหน้าลงทุนอย่างน้อย 4-5 โครงการ นำร่องอาคาร "สิงห์ คอมเพล็กซ์" ย่านอโศก เปิดตัวคอนโดฯย่านอโศก บ้านหรูเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซุ่มเทกโอเวอร์บริษัทอสังหาฯ-โรงแรมในเมืองท่องเที่ยว
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากเซตระบบภายในองค์กรเรียบร้อย ได้ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีนับจากปี 2558-2562 จะต้องมียอดขายทะลุ 2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายกลุ่มสิงห์คอร์เปอเรชั่น ประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยวางแผนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทั้งแบบขายขาดและให้เช่า ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน นิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า โรงแรม และช็อปปิ้งมอลล์ ด้วยงบฯลงทุนรวมที่ตั้งไว้กว่า 1 แสนล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนระหว่างอสังหาฯขายขาดและให้เช่า 50 : 50
ทั้งนี้ จุดแข็งของบริษัทคือ 1)มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งของตระกูลภิรมย์ภักดี และ 2)มีเอเย่นต์เบียร์สิงห์กว่า 200 รายทั่วประเทศ หลายรายมีที่ดินสะสมทั่วประเทศ สามารถนำมาต่อยอดร่วมทุนพัฒนาโครงการเพื่อสร้างผลตอบแทนร่วมกันได้
"แนว ทางพัฒนาอสังหาฯของสิงห์ เอสเตท ตามที่คุณสันติ ภิรมย์ภักดี (ประธานกรรมการ) ให้นโยบายไว้คือ ไม่ทำธุรกิจแบบมีทู หรือเหมือนคนอื่น การพัฒนาโครงการจะเข้าเซ็กเมนต์ระดับกลาง-บน แต่เป็นของคุณภาพพรีเมี่ยมในแต่ละเซ็กเมนต์"
นายนริศกล่าวต่อว่า ล่าสุดบริษัทได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจจากธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท รูปแบบลงทุนมีทั้งโครงการก่อสร้างใหม่และเข้าซื้อกิจการ ปัจจุบันมีดีลที่จบการเจรจาขั้นต้นแล้ว 2 ราย ได้แก่ 1)ดีลซื้อโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวมูลค่า 3 พันล้านบาท และ 2)ดีลซื้อกิจการบริษัทอสังหาฯนอกตลาดหลักทรัพย์ฯที่พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ล่าสุดได้ลงนามเอ็มโอยูหรือบันทึกความเข้าใจร่วมกันแล้ว
สำหรับแผน ลงทุนในปี 2558 จะมีอย่างน้อย 4-5 โครงการ ได้แก่ 1)โครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ บนที่ดิน 11-1-24 ไร่ ติดถนนอโศก-เพชรบุรี (สถานทูตญี่ปุ่นเดิม) มูลค่าลงทุนรวมที่ดิน 1 หมื่นล้านบาท จะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส หรือผสมผสานการใช้งานสูง 36 ชั้น มีพื้นที่รวมกว่า 1.4 แสนตารางเมตร ประกอบด้วย อาคารสำนักงานรวม 1 แสนตารางเมตร พื้นที่ค้าปลีกกว่า 3 พันตารางเมตร พื้นที่คอนเสิร์ตฮอลล์ 4 พันที่นั่ง กว่า 3-4 หมื่นตารางเมตร และโรงแรม 22 ห้อง จะเริ่มก่อสร้างปี 2558 แล้วเสร็จปี 2560
2)โครงการ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ บนที่ดินติดถนนอโศกใกล้กับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จะพัฒนาเป็นอาคารสูง 39 ชั้น รวม 200-300 ยูนิต คาดว่าราคาขายไม่ต่ำกว่าตารางเมตรละ 2 แสนบาท มูลค่าโครงการเกือบ 3 พันล้านบาท 3)โครงการบ้านจัดสรรระดับลักเซอรี่บริเวณเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา บนที่ดินกว่า 30 ไร่ จะพัฒนาเป็นบ้านหรูราคาหลังละกว่า 100 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 20 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2-3 พันล้านบาท และ 4)โครงการบ้านจัดสรรและโรงแรมที่ได้ข้อสรุปเข้าซื้อกิจการในเบื้องต้นแล้ว
ส่วนแหล่งเงินทุนในระยะยาวจะมาจากวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และการนำโครงการอสังหาฯให้เช่ามาจัดตั้งเป็นกองทุนรีท (REIT) เพื่อระดมทุนนำมาต่อยอดพัฒนาโครงการต่อไป
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายนำ บริษัทพลิกกลับมามีกำไรภายในปีหน้า จากผลประกอบการ 9 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิประมาณ 70 ล้านบาท โดยประมาณการยอดขายปี 2558 กว่า 2 พันล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 50% ล่าสุดได้เปิดตัวทีมผู้บริหารระดับสูง อาทิ นายล่องลม บุนนาค อดีตซีอีโอโจนส์ แลง ลาซาลล์ บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน, นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ เคยมีประสบการณ์ทำงานกับแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่การพัฒนาธุรกิจพักอาศัย ฯลฯ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 22-11-2557
|
|
|
|
|