Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ตามไปดู "สาทรโมเดล" ต้นแบบกู้วิกฤตจราจร |
|
ในที่สุด "สาทรโมเดล" โครงการต้นแบบแก้รถติดเมืองกรุง โปรเจ็กต์นำร่องได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้สโลแกน...สาทรนำร่อง จราจรคล่องตัว หลังซุ่มทดลองร่วมเดือน
โปรเจ็กต์นี้มี "บจ.โตโยต้ามอเตอร์" ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้สนับสนุนเม็ดเงิน 40 ล้านบาท ให้ประเทศไทยศึกษาโครงการ มี 4 องค์กรเป็นผู้ขับเคลื่อน คือ สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กระทรวงคมนาคม ตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.)
โดยเลือก "ถนนสาทร" ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่รถติดมากที่สุด เป็น "โมเดลโรด" ในรัศมี 3 กม. ก่อนจะขยายผลไปยังถนนสายอื่น เพราะถนนสาทรเป็นศูนย์กลางการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีโรงเรียนและสถานประกอบการธุรกิจเป็นจำนวนมาก จากสถิติชั่วโมงเร่งด่วน รถยนต์สามารถใช้ความเร็วเฉลี่ยเพียง 7.25 กม./ชม.
สำหรับแผนงานและมาตรการต่าง ๆ จะเริ่มรันตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้ถึง ก.ย.ปีหน้า เริ่มจากปรับพฤติกรรมคนใช้รถส่วนตัว หันไปใช้รถขนส่งสาธารณะมากขึ้น ด้วยการควบคุมปริมาณการจราจร ประกอบด้วย 1.จัดจุดจอดและจร (Park & Ride) ให้คนขับรถจอดรถห่างจากที่ทำงานแล้วเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง รถตู้ หรือรถบัส รับส่งเชื่อมระหว่างจุดจอดภายนอกกับที่ทำงาน เพื่อลดการนำรถเข้าถนนที่หนาแน่น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ล่าสุดศูนย์การค้าซีคอน บางแค จัดที่จอดให้ 1,200 ช่อง ตั้งแต่เวลา 06.00-21.30 น. กำลังเจรจาเพิ่ม 600 ช่องและขยายพื้นที่จอดไปยังคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า
2.การส่งและไป (Kiss & Go) เป็นการจอดรถเพื่อส่งผู้โดยสารแล้วไม่ต้องจอดรอ ทำให้ช่องทางการเดินรถไหลต่อเนื่อง และ 3.รถบัสรับส่ง (Shuttle Bus) ร่วมกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทำโครงการรถโรงเรียนลักษณะ Station to Station จะไปรับส่งนักเรียนสถานีห่างจากโรงเรียน 5-15 กม. ลดปริมาณรถเข้า-ออกได้รับความร่วมมือจาก บจ.มนตรีทรานสปอร์ต ที่จัดรถให้บริการ คิดค่าบริการ 90-100 บาท/เที่ยว อีกทั้งยังมีศูนย์การค้าที่สนับสนุนสถานที่จอดรถ ทำให้ผู้ปกครองประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายและสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลใจว่าลูกหลานจะไม่ถึงโรงเรียน เพราะจะติดระบบความปลอดภัยไว้ครบ ไม่ว่าระบบจีพีเอส กล้องวิดีโอที่สามารถติดตามรถ ผ่านทางแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
นอกจากนี้ ยังได้นำมาตรการอื่น ๆ มาใช้ร่วมด้วย ทั้งทำงานเหลื่อมเวลา ใช้รถยนต์ร่วมกัน (Pool Car) และการบริหารจัดการจราจรโดยควบคุมช่องทางการจราจรและควบคุมสัญญาณไฟจราจรให้เหมาะสมที่เป็นแยกใหญ่ เช่น สี่แยกสุรศักดิ์ ไม่ให้เปลี่ยนเลนในระยะ 200 เมตรจากแยก ทำให้รถเพิ่มความเร็วได้เพิ่ม 11%
เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่รัฐบาลน่าจะหยิบไปสานต่อกับการแก้ปัญหารถติดที่ปัจจุบันไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ ยังขยายไปถึงหัวเมืองในภูมิภาคและกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-11-2557
|
|
|
|
|