| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 116 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 20-10-2557    อ่าน 1373
 สองยักษ์ร่วมทุน แสนสิริ-BTS "ธุรกิจอสังหาฯ ถ้าไม่ใหญ่จริง จะอยู่ยาก"

เป็นดีลร่วมทุนระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เมื่อบิ๊กธุรกิจต่างขั้ว "บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์" และ "แสนสิริ" ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท โคจรมาพบร่วมทุนกันรุกตลาดคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า

มองเกมการร่วมทุนครั้งนี้ ในฝั่งบีทีเอสกรุ๊ปฯ ต้องย้อนไป 4 ปีก่อนได้หวนคืนวงการพัฒนาที่ดินอีกครั้ง ผ่านบริษัทลูก "บีทีเอส แอสเสทส์" เปิดตัวคอนโดฯโครงการแรก...แอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค เฟส 1 เมื่อปี"53 ชูจุดขายรับบัตรโดยสารรถไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งในอดีตโครงการนี้เคยเป็นของ บมจ.แนเชอรัล พาร์คมาก่อน แต่งานนี้ไม่ถึงกับแจ้งเกิดได้เปรี้ยงปร้างแบบที่ "คีรี กาญจนพาสน์" นายใหญ่บีทีเอสคาดหวัง กระทั่งล่าสุด "เสี่ยคีรี" เดินเกมแลกหุ้นในบีทีเอส แอสเสทส์ 100% ให้กับ เอ็นพาร์ค-บมจ.แนเชอรัล พาร์ค

ส่วนฝั่งแสนสิริ ช่วงปี"54-55 เร่งลงทุนแบบติดสปริงโดยเฉพาะคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าและต่างจังหวัด จนทำให้หนี้สินต่อทุนพุ่งขึ้นเกินกว่า 2 เท่า จนมีบางคนวิเคราะห์ว่า นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ "เศรษฐา ทวีสิน" เอ็มดีใหญ่แสนสิริ ประกาศแผนเพิ่มทุนบริษัทรวดเดียวกว่า 8 พันล้าน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา



ที่น่าสนใจคือในวันประกาศแผนร่วมทุน 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมอีสตินย่านสาทร หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวบนเวที "เศรษฐา" ระบุว่า การทำธุรกิจอสังหาฯถ้าไม่ใช่รายใหญ่ต่อไปก็อยู่ลำบาก !

"ถ้าแสนสิริเข้าหุ้นกับใครยืนยันว่าไม่ได้มองแค่เรื่องเงินทุน เพราะเชื่อว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯทุกรายสามารถระดมทุนเองได้ การที่แสนสิริร่วมทุนกับบีทีเอสกรุ๊ปฯต้องมีอะไรที่ซินเนอร์ยี่ หรือเสริมซึ่งกันและกันได้มากกว่าแค่เงินทุน" คำกล่าวของเศรษฐา เพราะถ้ามองภาพรวมอสังหาฯหลายเดือนที่ผ่านมา วงการอสังหาฯเป็นเกมของรายใหญ่ เช่น กลุ่มเบียร์สิงห์, เจ้าสัวเบียร์ช้าง ฯลฯ ต่อไปถ้าไม่ใหญ่จริงก็อยู่ยาก ถ้าต้องการโตข้ามรุ่นก็ต้องหาพันธมิตรควบรวมกิจการ โฟกัสที่ดีลร่วมทุน "แสนสิริ-บีทีเอส" สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการร่วมมือพัฒนาคอนโดฯรัศมี 500 เมตรจากรถไฟฟ้าปัจจุบันและอนาคต เงื่อนไขต้องเป็นโครงการที่มีมูลค่าขายขั้นต่ำ 3 พันล้านบาท โดยจะพัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุนที่เตรียมจดทะเบียนใหม่เร็ว ๆ นี้ ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมเงินลงทุนฝั่งละ 5 พันล้านบาท รวมเป็น 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะพัฒนาโครงการรวมมูลค่าได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และอนาคตยังมีแผนพัฒนาโครงการร่วมกันอีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ

โดยแสนสิริ-บีทีเอสจะใส่เงินก้อนแรกฝั่งละ 600 ล้านบาท รวมเป็น 1.2 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาคอนโดฯโครงการบนที่ดิน 5 ไร่ ใกล้บีทีเอสหมอชิต ซึ่งปัจจุบันเป็นลานจอดรถและบางส่วนให้แบงก์อิสลามฯเช่าพื้นที่

โปรเจ็กต์แจ้งเกิดของ 2 ยักษ์ใหญ่ จะพัฒนาเป็นคอนโดฯ 900 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 6 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยยูนิตละกว่า 6 ล้านบาท ส่วนเรื่องราคาขายต่อตารางเมตร "เศรษฐา" บอกมาว่า ขอให้รายละเอียดต้นปีหน้า

ส่วนความร่วมมือในอนาคต ต้องมองไปที่พอร์ตที่ดินของบีทีเอสที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าปัจจุบันและส่วนต่อขยายในอนาคต อาทิ ที่ดินใกล้บีทีเอสหมอชิต 16 ไร่ จะตัดที่ดิน 5 ไร่ ให้บริษัทร่วมทุนแสนสิริพัฒนา, ที่ดินติดบีทีเอสพญาไท 4 ไร่ ซึ่งจะต้องให้ขั้นตอนการควบรวมกิจการกับเอ็นพาร์คแล้วเสร็จ จึงค่อยพิจารณาว่าจะซื้อที่ดินจากเอ็นพาร์คมาพัฒนาหรือไม่ 3)อาคารสร้างค้างอีก 2 ตึก ในโครงการแอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค จำนวน 2 พันยูนิตเศษ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีที่ดินในโครงการธนาซิตี้ บางนา กม.13-14 อีกเกือบ 400 ไร่

"ไม่อยากให้มองแต่เรื่องรายได้ หรือการพัฒนาโครงการที่จะเกิดจากการร่วม แต่อยากให้มองมุมเรื่องลดต้นทุน เพราะบีทีเอสมีบริษัทลูกวีจีไอฯทำธุรกิจสื่อโฆษณา ก็ช่วยลดต้นทุนค่าโฆษณาให้แสนสิริได้ นอกจากนี้ยังมีบัตรโดยสารแรบบิทที่ขายไปแล้ว 3 ล้านใบ เราสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าได้ว่า เขามีไลฟ์สไตล์อย่างไร ซื้อสินค้าอะไร เข้าห้างไหน จะได้ทำโปรโมชั่นได้ตรงเป้า ไม่ต้องวิเคราะห์ต้องเสียเงินทำรีเสิร์ช" คำกล่าวของ "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอสกรุ๊ปฯ

ขณะที่แหล่งข่าวระดับผู้บริหารจากวงการพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์ฯรายหนึ่งวิเคราะห์ว่า ดีลนี้ใครได้ประโยชน์มากกว่าเป็นเรื่องที่ตอบยาก ถ้าให้แต่ละฝ่ายมีจุดแข็งคนละอย่าง ฝั่งหนึ่งมีที่ดินทำเลดีแต่ยังต้องการทีมงานที่มีความพร้อม อีกฝ่ายมีทีมงานที่เชี่ยวชาญ แต่อาจจะไม่มีความพร้อมเรื่องเงินทุนเท่ากับอีกฝั่ง

"ตั้งข้อสังเกตถึงแสนสิริเพิ่มทุนครั้งใหญ่ ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 2.1 เท่า จากช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 2.8 เท่า แต่เทียบกับค่าเฉลี่ยบริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยกันก็ยังค่อนข้างสูง ประกอบกับน่าจะมีสต๊อกคอนโดฯเหลือขายอยู่พอสมควร ถ้ายังขายไม่หมดก็ไม่สามารถขยายการลงทุนได้เร็วเหมือนเดิม" แหล่งข่าววิเคราะห์
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 20-10-2557 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.