Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ตรวจสุขภาพ 15 บิ๊กอสังหาฯ หลังปฏิบัติการ "แสนสิริ" เพิ่มทุน |
|
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อสังหาริมทรัพย์มหาชน "พรอพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" เพิ่งจะเล่นมันนี่เกมด้วยการสวอปหุ้นกับกลุ่มไทย พรอพเพอร์ตี้ ธุรกิจในเครือเจริญ สิริวัฒนภักดี รู้แต่ว่าถ้าจบดีลภายในต้นปี 2558 จะทำให้สินทรัพย์ของค่ายเพอร์เฟคเพิ่มเป็น 4.4 หมื่นล้าน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ในตารางตลาดหุ้น จากปัจจุบันรั้งอันดับ 8 มีสินทรัพย์ 3.06 หมื่นล้าน
ถัดมาปลายกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นคิวของขาใหญ่ค่าย "แสนสิริ" ลุกขึ้นมาประกาศเพิ่มทุน ตัวเลขกลม ๆ ทุนจดทะเบียน 1.1 หมื่นล้าน เพิ่มอีก 7-8 พันล้าน ให้เป็น 1.9 หมื่นล้านบาท
น่าสนใจว่า มันนี่เกมครั้งนี้จะส่งแรงกระเพื่อมภาพรวมวงการได้หรือไม่ "ประชาชาติธุรกิจ" ต่อสายคุยกับโหรหุ้นอสังหาฯ "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมอง เนื่องจากเป็นผู้เกาะติดความเคลื่อนไหวหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายสูงสุด 15 รายแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ คำตอบแรกคือไม่มีอะไรต้องกังวล ทั้ง 15 บริษัทในตลาดหุ้น (ดูตาราง) แข็งแรงดีทุกราย
หนึ่งในตัวชี้วัดดูจาก "หนี้สินต่อทุน" พบว่าสถิติปี 2556 สูง 1-3 เท่า โดยมีค่าเฉลี่ย 1.2 เท่า เทียบหนี้สินต่อทุน Q1/57 เฉลี่ย 1.12 เท่า แนวโน้มค่าเฉลี่ยของ Q2/57 คาดว่าจะแตะแถว ๆ 1.21 เท่า
เปรียบเทียบกับหนี้สินต่อทุนในยุควิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ส่วนใหญ่จะมีประมาณ 4-5 เท่า ในยุคนี้จึงถือว่าสอบผ่านทุกราย โดยก่อนหน้านี้ 2-3 ปีที่ผ่านมา ดีเวลอปเปอร์แข่งขันกันลงทุนคอนโดมิเนียม ทำให้หนี้สินต่อทุนเพิ่มจากเฉลี่ย 0.4 เท่า เป็นเฉลี่ย 1.2 เท่าดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขสอบผ่านในด้านวินัยการเงิน
"แบ็กล็อกหรือห้องชุดรอโอนปีนี้รวมกัน 8.8-9 หมื่นล้าน Q1 เพิ่งจะโอนประมาณ 1 หมื่นล้าน Q2 โอนประมาณ 2.2 หมื่นล้าน ฉะนั้นครึ่งปีหลังรอโอนอีกมากกว่า 5.5 หมื่นล้าน ถือเป็นปัจจัยบวก"
โหรหุ้นเอเซีย พลัสตอบคำถามแบบแวะเข้าประเด็นการเพิ่มทุนของ "บมจ.แสนสิริ" ว่า เป็นเพราะแสนสิริชกข้ามรุ่น เนื่องจากทำผลงานยอดรับรู้รายได้ติดท็อป 3 ของตลาด แต่ฐานทุนมีเพียง 50% เทียบกับ "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" และมีเพียง 70% ของ "พฤกษา เรียลเอสเตท"
อย่างไรก็ตาม เขายังมองไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเพิ่มทุนจำนวนสูงมากขนาดนั้น ในขณะที่ระยะยาวจะเป็นผลดีกับแสนสิริแน่นอน แต่ภาพขยายการลงทุนขนานใหญ่คงไม่มีให้เห็นภายใน 1-2 ปีนี้ ขณะที่กำไรไม่ได้มาจากการขยายลงทุน แต่มาจากนโยบาย Engineering of Growth เป็นหลัก อธิบายให้เข้าใจง่าย คือเพิ่มกำไรจากการลดค่าใช้จ่ายนั่นเอง
อีกฟากหนึ่ง "อิสระ บุญยัง" นายกกิติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ให้ข้อคิดเห็นว่า การเพิ่มทุนของแสนสิริถือว่าเป็นแผนธุรกิจเฉพาะตัว มองในภาพรวมของผู้ประกอบการรายเล็ก-กลาง-ใหญ่ ทุกคนยังแข็งแรง เพราะมีบทเรียนมาเยอะจากวิกฤตเศรษฐกิจหลายรอบ
ประเมินจากความระวังในการลงทุนจะเห็นจากตัวเลขเปิดตัวโครงการใหม่ชะลอตัว 26% เทียบกับปีที่แล้ว นั่นคือทุกบริษัทเน้นลงทุนอย่างใช้ความรอบคอบสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติปี 2556 ที่อัตราเติบโตในภาพรวมโตสูงสุดในรอบ 16 ปี ดังนั้นจึงมองว่าตอนนี้น่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว
ส่วนบริษัทแต่ละรายจะมีลีลาการเคลื่อนไหวแบบน้ำขึ้น-น้ำลงยังไง มองว่าขึ้นอยู่กับว่าจะ "ติดกับดัก" การเติบโตของตลาดอสังหาฯในปี"56 มากหรือน้อยเพียงใด |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-08-2557
|
|
|
|
|