| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 42 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 27-06-2557    อ่าน 1473
 สัมภาษณ์ : ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ "รัฐไม่ต้องลดภาษี ขอปลดล็อกอีไอเอก็พอ"

ถือเป็นปีที่ยากลำบากอีกช่วงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องเผชิญปัจจัยลบกระหน่ำทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และมู้ดผู้บริโภคไม่เป็นใจ แต่หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจการบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยให้บรรยากาศดูดีขึ้น

ล่าสุด "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่มียอดรับรู้รายได้สูงสุดในปีที่ผ่านมากว่า 3.9 หมื่นล้านบาท ได้ปรากฏตัวเป็นวิทยากรในงานสัมมนาเอสเอ็มอี : จับทิศรอบด้าน...สร้างโอกาสเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและฉายภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์และทางเลือก-ทาง รอดของอสังหาฯเอสเอ็มอี

- ครึ่งปีแรกของพฤกษาฯ

ผลประกอบการ ครึ่งปีแรก ทั้งยอดจอง ยอดขาย ยอดโอนเติบโตกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10% ช่วง 1-2 เดือนนี้ (พ.ค.-มิ.ย.) ยอดขายเพิ่มขึ้นชัด เป็นสัญญาณว่าผู้บริโภคเริ่มมั่นใจขึ้น ช่วงกว่า 5 เดือนแรก เราเปิดโครงการใหม่แล้ว 50 โครงการ จากแผนทั้งปีวางไว้ 60 โครงการ คาดว่าทั้งปีนี้จะเปิดเกินกว่า 60 โครงการแน่ และตั้งเป้ามียอดรับรู้รายได้ 41,000-45,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายคาดว่าทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 45,000 ล้านบาท

- ประเมินแนวโน้มครึ่งปีหลัง

อสัง หาฯไตรมาส 3-4 จะฟื้นตัวจากไตรมาส 1-2 จากปัจจัยบวก 3 เรื่อง คือ 1) ความเชื่อมั่นลูกค้า 2) บรรยากาศทางการเมือง และ 3) ความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีทิศทางดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมั่นใจที่จะใช้จ่ายซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นของชิ้นใหญ่ โดยคาดว่าบรรยากาศจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาส 4 ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมตลอดทั้งปี 2557 ติดลบจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5% น้อยกว่าที่ประมาณการไว้เมื่อช่วงต้นปีว่ามีโอกาสติดลบ 10%

- การปรับแผนธุรกิจ

พฤกษาฯ วางแผนธุรกิจล่วงหน้า 5 ปี ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องปีละ 25% จากนั้นจึงลงรายละเอียดดูความเหมาะสมเป็นรายปี อย่างแผนของเราปีนี้เป็น "แผนเชิงรับ" มาตั้งแต่ปลายปี"56 ล้อไปกับสถานการณ์บ้านเมือง แม้ว่าครึ่งปีแรกสภาพการเมืองและเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ตลาดอสังหาฯหดตัว 10-15% แต่พฤกษาฯก็ยังเติบโตกว่าเป้าหมาย ครึ่งปีหลังก็มั่นใจมากขึ้น จะเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 10 โครงการแน่นอน

- อยากบอกอะไรกับ คสช.

ไม่ รู้จะฝากอะไร เพราะทหารชุดนี้ทำได้ดีเกินคาด (หัวเราะ) เขาแก้ไขปัญหาเร็ว ตัวอย่างเรื่องแรงงานต่างด้าว เมื่อเกิดความเข้าใจผิด คสช.ก็รีบออกมาชี้แจง สิ่งสำคัญคือภาพรวมต้องให้แรงงานลักลอบเข้าเมืองกลายเป็นแรงงานถูกกฎหมาย ต้องยอมรับว่าแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องยังมีอยู่ ประเมินว่าอาจมีสัดส่วน 30-40% การแก้ปัญหาแบบยั่งยืนควรปรับลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าแรงงานต่อหัวลดลงจาก ปัจจุบันคนละ 18,000-20,000 บาท อยากให้เหลือ 5,000 บาท และให้แรงงานทำงานข้ามเขตได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

- อยากให้กระตุ้นอสังหาฯอย่างไร

ผม อาจคิดแตกต่างไปบ้าง ทางการไม่ต้องปรับโครงสร้างภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อกระตุ้นอสังหาฯ เพราะรัฐก็ต้องการภาษีมาใช้จ่ายพัฒนาประเทศ แต่ภาคเอกชนอยากได้เรื่องความคล่องตัวในการทำธุรกิจ ลดความยุ่งยากกระบวนการขออนุญาตต่าง ๆ เช่น การขอใบอนุญาตทำงานต่างด้าว, ในการขออนุญาตรายงานการวิเคระห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ให้ลดหลักเกณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมลง

- อสังหาฯเอสเอ็มอีอยู่อย่างไร

พฤกษาฯ เคยเป็นบริษัทขนาดเล็ก ๆ มาก่อน คีย์ซักเซสของเราคือ...การวางแผน ทำธุรกิจอสังหาฯต้องมองภาพกว้างและหาช่องทางตลาด สมัยนั้นผมตั้งบริษัทในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งเริ่มก่อตัว ผมมีทุนไม่มากและธนาคารเริ่มไม่ปล่อยกู้ ทั้ง ๆ ที่มีโครงการ 5-6 โครงการรอสร้างให้ลูกค้ากว่า 3,000 ราย และบริษัทก็ไม่มีเงินเพียงพอจะคืนลูกค้าทั้งหมด สิ่งสำคัญคือบริษัทต้องส่งมอบบ้านให้ได้ แม้ต้องขยายเวลานานขึ้น

ตอน นั้นบริษัทเข้าไปเจรจาประนอมหนี้และทยอยสร้างบ้านทีละส่วนให้เสร็จเป็นราย โครงการ เริ่มจากการสร้างครั้งละ 50 ยูนิต แล้วขยายเป็น 70 ยูนิต 100 ยูนิต พอโอนบ้านได้ก็มีรายรับ ส่วนหนึ่งก็เอาไปใช้สร้างโครงการ อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้พัฒนาโครงการใหม่

- เคล็ดลับลดต้นทุนและหาตลาดใหม่

เรา คิดวิธีประหยัดต้นทุนและมีรายรับเข้ามาเร็วขึ้น เราใช้วิธีการก่อสร้างใหม่ ๆ นำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปแบบ Tunnel Form (ระบบสำเร็จรูปแบบหล่อชิ้นส่วนที่ไซต์งาน) มาใช้ ประหยัดเวลากว่าบ้านที่ก่อผนังด้วยอิฐถึง 3-4 เท่า เมื่อเราสร้างเร็ว โอนเร็ว ก็ช่วยลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยธนาคารพอถึงจุดหนึ่งก็ขยายไลน์ไปทำบ้านเดี่ยวที่ สร้างด้วยระบบพรีแคสต์ (หล่อชิ้นส่วนที่โรงงานมาติดตั้ง) เราลงทุนตั้งโรงงานที่มีกำลังผลิต 300 หลัง ถึงแม้มีออร์เดอร์แค่ 100 หลัง เพราะมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ปรากฏว่าอีก 2 ปี เราผลิตเต็มกำลังผลิต ต่อมาก็ขยายไลน์มาพัฒนาคอนโดฯ แตกไลน์สินค้ามาพัฒนาคอนโดฯ เพื่อให้มีโครงการครบทุกเซ็กเมนต์

- กระแสเทกโอเวอร์กิจการ

ถาม ว่ากระแสการควบรวมกิจการตอนนี้เป็นเพราะการแข่งขันสูงขึ้นหรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่ผมมองว่าการแข่งขันตอนนี้เป็นไปตามปกติ ไม่ได้รุนแรง พฤกษาฯถึงเป็นรายใหญ่ แต่เราไม่ได้ผูกขาดตลาด โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับทุกราย
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 27-06-2557 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.