Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กรอบลงทุนยุค คสช. 3 ล้านล้าน เมกะโปรเจ็กต์เป็นไปได้แค่เฟสแรก |
|
ฝ่าด่านแรกเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ "แผนงาน" โครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคม หลัง "บิ๊กจิน-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดไฟเขียวให้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อใหม่ "ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย" โดยตั้งกรอบเวลาดำเนินการ 9 ปี ตั้งแต่ปี 2558-2566
ส่วน "แผนเงิน" ให้ "คมนาคม" หารือกับกระทรวงการคลัง จัดสรรแหล่งเงินอีกครั้ง ทั้งหมด "บิ๊กจิน" ตั้งเป้าจะสรุป "แผนงาน-แผนเงิน" ให้ชัดเจนวันที่ 19 มิ.ย.นี้ เพราะต้องรีบนำเสนอให้ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" หัวหน้าคณะคสช.พิจารณา เนื่องจากใกล้งวดจะถึงเวลาแถลงโรดแมปเต็มที
เปิดกรอบ 5 แผนงาน 3 ล้านล้าน
ในรายละเอียดยุทธศาสตร์มี 5 แผนงาน ลงทุนครบถ้วนทั้งบก ราง น้ำ และอากาศ จากการรวบรวมของ "สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร" โดยยังไม่ตัดโครงการรถไฟความเร็วสูงคาดว่าจะใช้เงินลงทุนจบโครงการทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท
แผนงานแรก "การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง" มีปรับปรุงระบบรถไฟ 21,712 ล้านบาท รถไฟทางคู่ 17 สาย 475,002 ล้านบาท รถไฟความเร็วสูง 2 สาย 598,443 ล้านบาท
แผนงานที่ 2 "การพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล" มีรถไฟฟ้า 10 สาย 530,635 ล้านบาท ซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน 13,416 ล้านบาท โครงข่ายถนนและสะพาน 652,391 ล้านบาท ถนนแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯและปริมณฑล ถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา
แผนงานที่ 3 "การเพิ่มขีดความสามารถทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงพื้นที่สำคัญภายในประเทศและสู่ประชาคมอาเซียน" จะมีถนนเข้าถึงพื้นที่เกษตรและท่องเที่ยว (ถนนลาดยาง) 50,209 ล้านบาท การเชื่อมโยงระหว่างเมืองหลักและระหว่างฐานการผลิตหลักของประเทศ 502,669 ล้านบาท การเชื่อมโยงประตูการขนส่งระหว่างประเทศ 43,924 ล้านบาท การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทางถนนและองค์ประกอบต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ 45,626 ล้านบาท
แผนงานที่ 4 "การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ" มีพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่ 61,898 ล้านบาท เสริมประสิทธิภาพการขนส่งทางน้ำ และบำรุงรักษาร่องน้ำเพื่อการเดินเรือ 38,102 ล้านบาท
และแผนงานที่ 5 "การเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการด้านขนส่งทางอากาศ" มีเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยาน 97,670 ล้านบาท การจัดการจราจรทางอากาศให้ได้มาตรฐานสากล 2,378 ล้านบาท เพิ่มฝูงบิน 35,969 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารเพื่อรองรับการพัฒนาบุคลากรการบินพลเรือน วงเงิน 969 ล้านบาท
แบ่ง 3 เฟสตามความพร้อม
จาก 5 แผนงาน แบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ ตามความพร้อมของโครงการ ระยะที่ 1 เริ่มปี 2558 ทั้งงานศึกษา ออกแบบ เวนคืนและก่อสร้าง โครงการจะผูกพันถึงปี 2560-2564 มีติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม อาณัติสัญญาณและเครื่องกั้นถนนรถไฟ ซื้อหัวรถจักร 70 คัน รถโบกี้บรรทุกสินค้า 308 คัน รถโดยสาร 115 คัน และรถไฟทางคู่ 6 สาย คือ สายลพบุรี-ปากน้ำโพ, มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น, นครปฐม-หัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ส่วนรถไฟฟ้ามี 8 สาย ก่อสร้างสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต), ประมูลและเวนคืนสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี), สีชมพู (แคราย-มีนบุรี), สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง), สีเขียว (สมุทรปราการ-บางปู), สีแดง (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก) ส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท-ดอนเมือง) ศึกษาสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4)
เร่ง ถ.เลียบเจ้าพระยา-ผุดด่วนพระราม 3
โครงการอื่นมีจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน พร้อมอู่จอดรถ 5 แห่ง ถนนเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์-วงแหวนรอบนอกตะวันออกแนวเหนือ-ใต้ ศึกษาถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ถนนลาดยาง ถนน 4 ช่องจราจร และเวนคืนมอเตอร์เวย์ 3 สาย คือ สายบางปะอิน-โคราช จะสร้างช่วง "บางปะอิน-ปากช่อง" ก่อน ที่เหลือมีสายพัทยา-มาบตาพุด และบางใหญ่-กาญจนบุรี สร้างทางแยกต่างระดับ ถนนรอยัลโคสต์ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าเชียงราย สถานีขนส่งสินค้า 15 แห่ง เป็นต้น
เพิ่มงบฯทางอากาศกว่า 1.36 แสนล้าน
มีสร้างท่าเรืออ่างทอง ทบทวนอีไอเอท่าเรือปากบารา ท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ท่าเทียบเรือชายฝั่ง ศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่แหลมฉบัง ระบบป้องกันตลิ่งเพื่อพัฒนาร่องน้ำ อีกทั้งยังเพิ่มโครงการทางอากาศเข้ามาอีกกว่า 1.36 แสนล้านบาท เช่น สุวรรณภูมิ เฟส 2 ขยายดอนเมือง สนามบินเบตง ปรับปรุงสนามบินแม่สอด ศึกษาและออกแบบขยายรันเวย์ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ และจัดหาเครื่องบินของการบินไทย
แยกไฮสปีดออก-ตั้งคณะทำงานเพิ่ม
โครงการระยะที่ 2 เริ่มปี 2559-2560 มีทั้งโครงการใน 2 ล้านล้านเดิม และเพิ่มเข้ามาใหม่ คือ รถไฟทางคู่ 8 สาย มีสายปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมทางจิระ-อุบลราชธานี, ขอนแก่น-หนองคาย, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์,บ้านไผ่-นครพนม และบ้านภาชี-อ.นครหลวง ส่วน "รถไฟความเร็วสูง" เดิม "สนข." ใส่ไว้เฟส 2 และเฟส 3 เริ่มก่อสร้างปี 2559 มี 2 สาย คือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก และกรุงเทพฯ-หนองคาย เงินลงทุนกว่า 5 .98 แสนล้านบาท ล่าสุด "บิ๊กจิน" ให้แยกโปรเจ็กต์ออกจากบัญชี และตั้งคณะทำงานมาศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบใน 3 เดือน และให้เสนอในครั้งต่อไป หากตัดเงินลงทุนไฮสปีดเทรนออกกรอบวงเงินจะเหลือ 2.55 ล้านล้านบาทส่วน "รถไฟฟ้า" มีสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม), สีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ), สีเขียว (คูคต-ลำลูกกา)
ปัดฝุ่นวงแหวนรอบ 3
โครงการเสนอใหม่ มี "ถนนวงแหวนรอบที่ 3 ด้านตะวันออก" 5.3 หมื่นล้านบาท ขยายโทลล์เวย์ (รังสิต-บางปะอิน) 2.3 หมื่นล้านบาท, ขยายถนนบรมราชชนนี-เพชรเกษม, ทางยกระดับธนบุรี-ปากท่อ และมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ และหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย ส่วนทางด่วนมีเพิ่ม 4 สาย คือ สายกะทู้-ป่าตอง 9,415 ล้านบาท, บูรพาวิถี-พัทยา กว่า 8 พันล้านบาท, อุดรรัถยา-อยุธยา และฉลองรัช-สระบุรี ส่วนท่าเรือมีปากบารา ชุมพร สงขลาแห่งที่ 2 และท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ รวมถึงก่อสร้างเขื่อนยกระดับในแม่น้ำเจ้าพระยา
โครงการระยะที่ 3 เริ่มปี 2561-2562 เช่น รถไฟทางคู่ 2 สาย 72,241 ล้านบาท ได้แก่ สายขอนแก่น-เพชรบูรณ์-พิษณุโลก-ตาก และอุบลราชธานี-มุกดาหาร ศูนย์ขนส่งชายแดน จ.นครพนม
นี่คือโครงการที่จัดสรรโดยคมนาคม เป็นหนังม้วนเดียวกับ 2 ล้านล้าน แค่เปลี่ยนผู้กำกับจากเพื่อไทยมาเป็นคสช. ว่ากันว่าโครงการในเฟสแรกเป็นไปได้สูงที่จะได้เดินหน้า
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 16-06-2557
|
|
|
|
|