Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ประมูล "เมกะโปรเจ็กต์" เดือด ! บิ๊กรับเหมาเปิดศึกชิง "ทางคู่-สายสีเขียว" |
|
พลันที่เงินกู้ 2 ล้านล้านล่ม ส่งผลกระทบกระดานประมูลโครงการรัฐที่ฝืดอยู่แล้ว นับจาก "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ประกาศยุบสภา ยิ่งฝืดเคืองหนักมากขึ้น
เมื่อโปรเจ็กต์ 2 ล้านล้านเป็นความหวังของวงการรับเหมาไม่ว่า "บิ๊กแบรนด์-รายย่อย" ต่างเฝ้ารอคอยเข้าร่วมประมูลโครงการใหญ่ทั้ง "ระบบราง-ถนน-ท่าเรือ" แต่สุดท้ายมาสะดุดกลางคันและไม่รู้ว่าจะเริ่มรันโครงการได้ตอนไหน ทำให้บรรยากาศการประมูลหงอยไปถนัดตาในวินาทีนี้
การเมือง-2 ล้านล้าน ดับฝัน
ยิ่งเกิดสุญญากาศทาง "การเมือง" ทำให้โครงการใหญ่ ๆ ไม่ออกสู่ตลาด ต้องรอรัฐบาลใหม่ที่สุดคาดเดาจะได้เห็นโฉมหน้าได้เมื่อไรมาไฟเขียว ยิ่งฉุดตลาดประมูลของหน่วยงานราชการนิ่งสนิท
ทั้งนี้ ภายใต้ความเงียบเชียบ กำลังมีงานใหญ่ให้ตลาดประมูลพอคึกคักบ้างท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่อึมครึม เป็นโปรเจ็กต์ยักษ์ 2 โครงการของ 2 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัด "กระทรวงคมนาคม" ซึ่งได้รับความสนใจจากรับเหมาขาใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับองค์กร กำลังเปิดศึกแย่งชิงงานประมูลอย่างโจ๋งครึ่ม
8 บริษัทระเบิดศึกรถไฟทางคู่
โครงการแรก "รถไฟทางคู่" สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 10,804 ล้านบาท ของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" จะให้ยื่นประมูลวันที่ 10 เมษายนนี้ มีผู้ซื้อซอง 8 ราย ล้วนเป็นหน้าเก่าขาประจำ ไม่ว่า บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, ช.การช่าง, ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น, ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บจ.ช.ทวีก่อสร้าง, บจ.ทิพากร ร่วมกับ บ.ไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน, บจ.เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) และ บจ.กรุงธนเอนยิเนียริ่งร่วมกับ บ.แดวู จากเกาหลีใต้
สำหรับงานนี้ ว่ากันว่าแต่ละบริษัทเตรียมตัวกันแบบไม่มียั้ง เพื่อหวังชิงชัยโปรเจ็กต์นี้ นอกจากเรื่องคอนเน็กชั่น ยังหาผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพจากต่างประเทศและอดีตคนรถไฟมาช่วยเสริมทัพ
โดยค่าย "ซิโน-ไทยฯ" ลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาจากต่างประเทศมาช่วยเทคนิคก่อสร้าง เพราะโครงการนี้ไม่ได้มีแค่งานโยธา ยังมีงานระบบอาณัติสัญญาณที่รับเหมามหาชนค่ายนี้ไม่ค่อยถนัด
ส่วน "ทิพากร" ที่ถนัดงานก่อสร้างถนนและสะพานเป็นหลัก ไม่ได้ผนึกกำลังกับรับเหมาชั้นแถวหน้าจากประเทศจีนอย่างเดียว ล่าสุดมีข่าวสะพัดว่านำอดีตวิศวกรใหญ่การรถไฟฯเข้าไปช่วยอีกแรง
ด้าน "ช.การช่าง" วงในประเมินกันว่าจะเหนื่อยสุด ถึงจะร้องให้ "ร.ฟ.ท." ปรับแก้เงื่อนไขในทีโออาร์จนนำพาตัวเองเข้ายื่นประมูลได้สำเร็จ แต่ลึก ๆ แล้วคงจะฟันฝ่าไปได้ยาก ในยุคที่หัวเรือใหญ่การ
รถไฟฯยังเป็นชื่อ "ประภัสร์ จงสงวน"
"ตอนนี้งานประมูลแข่งขันกันดุเดือด เพราะงานใหญ่ไม่มี ทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แก่งคอย แม้วงการจะรู้ว่าอิตาเลียนไทยฯมีภาษีมากที่สุด เพราะรับงานการรถไฟฯอยู่และมีความพร้อมทั้งเครื่องมือและ
คอนเน็กชั่น แต่รายอื่น ๆ ก็สู้ไม่ถอย เพราะทุกคนอยากได้งานตุนในมือไว้ในอนาคต" แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าว
ยูนิคฯป่วนสายสีเขียว
ขณะที่อีกสนามประมูลก็ปะฉะเดือดไม่แพ้กัน งานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว "หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต" จำนวน 4 สัญญา วงเงิน 26,462 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากรับเหมาไทยและต่างชาติมากถึง 31 รายที่มาซื้อซองประมูล อาทิ บมจ.ซิโน-ไทยฯ, ยูนิค, อิตาเลียนไทยฯ, ช.การช่าง, เนาวรัตน์พัฒนาการ, ไชน่าเรลเวย์, โพสโก เอ็นจิเนียริ่ง, อัสตรอม, ซิโนไฮโดร, ทิพากร, เอ.เอส.แอสโซซิเอทฯ, กรุงธนเอนยิเนียร์, บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย), บจ.รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย), บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ เป็นต้น
จากดีมานด์มีมากกว่างานในตลาด ทำให้ดัชนีการแข่งขันโครงการนี้เพิ่มระดับดีกรีขึ้น ยิ่งห้วงนี้งานใหญ่ไม่มียิ่งทำให้รับเหมาพลาดหวังจาก "โครงการ 2 ล้านล้าน" ยิ่งจะหากลวิธีทุกทางให้ไปยืนอยู่ที่สนามประมูลจนวินาทีสุดท้าย
รฟม.เลื่อนยื่นซองประมูล
ทำให้รถไฟฟ้าสายนี้แทนที่จะฉลุย ต้องมาเจอเรื่องประเด็นคำถามร่วม 800 ข้อที่ผู้รับเหมา 31 รายส่งตรงถึง "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" อาจจะกระทบต่อระยะเวลายื่นซองประมูลขยับออกไปจากเดิมวันที่ 11 เมษายน เป็นเดือนพฤษภาคม 2557 แทน
เมื่อ "รฟม." ต้องใช้เวลาเคลียร์ข้อสงสัยต่าง ๆ โดยเฉพาะเกณฑ์รายได้ย้อนหลัง 3 ปี ที่ในทีโออาร์กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท กำลังเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายให้รับเหมาบางค่ายถึงจะเป็นบริษัทมหาชน และมีงานใหญ่ตุนในมืออยู่มากมาย แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้บันทึกเป็นการรับรู้รายได้ อาจจะทำให้สอบตกด้านคุณสมบัติได้
"ทุกบริษัทอยากได้งานนี้ ด้วยศักยภาพแล้วไม่ต้องจอยต์กับรายอื่นก็เข้าประมูลได้ แต่ยูนิคฯเพิ่งได้งานใหญ่สายสีน้ำเงินและสายสีแดง แต่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้ ทำให้ผลงานไม่เพียงพอจะยื่น จึงขอให้ รฟม.ทบทวนทีโออาร์ใหม่ ทำให้ รฟม.จะเลื่อนยื่นซอง เพราะต้องเคลียร์ให้จบ" แหล่งข่าวจากรับเหมากล่าว
แต่ว่ากันว่าเบื้องหลังที่ทำให้ "รฟม." ต้องขยับเวลายื่นซองออกไป เป็นเพราะบิ๊กคมนาคมยังไม่ยอมพิจารณาตามที่มีผู้รับเหมาร้องเข้ามา เพราะไม่อยากจะให้ "รฟม." ถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่ ซึ่งจะยิ่งทำให้ "พรรคเพื่อไทย" สร้างผลงานล่าช้าออกไปอีก เพราะกว่าจะลงตัวจะต้องเสียเวลาอย่างน้อย 3 เดือน หาก "รฟม." ทบทวนทีโออาร์และเริ่มต้นประกาศขายแบบกันใหม่ แต่หากเดินหน้าเหมือนเดิม การสร้างผลงานจะออกดอกออกผลเร็วขึ้น ตามกำหนดเดิม "รฟม." จะเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาในเดือนตุลาคมนี้ และเริ่มก่อสร้างในสิ้นปีนี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-03-2557
|
|
|
|
|