|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| รื้อใหญ่ผังเมืองสมุทรปราการ-จัดโซนใหม่"บ่อขยะ-โรงงาน" |
|
พิษควันไฟขยะ โยธาฯจังหวัดถือโอกาสรื้อผังเมืองรวมใหม่ จัดโซนนิ่งยกแผง "ขยะ-น้ำเสีย-โรงงาน" เล็งนำ FAR และ OSR คุมอาคารสูงแนวรถไฟฟ้าสีเขียว หวั่นเมืองโตไร้ทิศทาง ด้านผู้ประกอบการจัดสรรย่านแพรกษา ชี้กระทบกำลังซื้อบ้านระยะสั้น แนะย้ายจุดที่ตั้งบ่อขยะออกรอบนอกเมือง
แหล่ง ข่าวจากโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากการเกิดควันไฟจากเตาเผาขยะพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวในผังเมืองรวมกำหนดเป็นพื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) และพื้นที่สีม่วง (อุตสาหกรรม) แต่มีการอนุญาตให้ตั้งบ่อขยะเกิดขึ้นได้ ทำให้จะต้องมาทบทวนข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในผังเมืองรวมสมุทรปราการ ใหม่ให้เข้มงวดมากขึ้น ถึงแม้ว่าผังเมืองรวมจะบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
"เพราะผังเมืองรวมได้จัดทำมานาน เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี"49 ไม่สอดคล้องกับปัจจุบันที่สภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปมาก อนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อจากแบริ่ง-สมทุรปราการก่อสร้างเสร็จ ทำให้การพัฒนาเมืองเปลี่ยนไปอีกมาก จึงถึงเวลาที่จังหวัดต้องทบทวนผังเมืองใหม่"
ทบทวนข้อกำหนดผังเมืองใหม่
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เนื้อหาหลักที่จะทบทวนประกอบด้วย 1.จะออกข้อกำหนดเพิ่มในพื้นที่ อ.เมืองที่รถไฟฟ้าผ่าน คุมการพัฒนาไม่ให้เป็นไปแบบไร้ทิศทาง จะนำเรื่องการกำหนดอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน หรือ FAR และอัตราส่วนของพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม หรือ OSR มาบังคับใช้เหมือนกับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร
"เพราะจะเกิดผลกระทบ ขึ้นเมื่อทำเลที่มีถนนแคบเข้า-ออกไม่สะดวก หากมีการก่อสร้างอาคารสูงเกิดขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมเริ่มมาขออนุญาตก่อสร้าง และขอตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินจำนวนมากประมาณ 20-30 โครงการ" แหล่งข่าวกล่าวและว่า
2.จะเปลี่ยนสีผังเมืองพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาล รามาฯแห่งใหม่ จากเดิมกำหนดเป็นพื้นที่สีเขียวให้เกิดการพัฒนาเป็นชุมชนรอบ ๆ มารองรับ และ 3.จะจัดโซนนิ่งการกำหนดพื้นที่กำจัดขยะ น้ำเสีย และโรงงานใหม่ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องยอมรับว่าสภาพพื้นที่โดยรวมของ จ.สมุทรปราการส่วนใหญ่จะพัฒนาด้านโรงงานและบ่อขยะอยู่จำนวนมาก แต่เมื่อเมืองกำลังจะขยายตัวหลังรถไฟฟ้าเปิดบริการ จะต้องกลับมาจัดระเบียบเมืองใหม่เพื่อรองรับ
อสังหาฯเสนอย้ายบ่อขยะ
นาย อธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากเหตุการณ์บ่อขยะ อ.แพรกษา จ.สมุทรปราการ เกิดไฟไหม้ส่งกลิ่นและควันกระจายไปในพื้นที่ข้างเคียง บริษัทมีโครงการในละแวกนี้แต่ปิดการขายไปแล้วคือ ศุภาลัย วิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา หลังเกิดเหตุได้รับรายงานว่ามีควันไฟฟุ้งกระจายมาถึงโครงการ บริษัทจึงนำหน้ากากป้องกันกลิ่นแจกให้ลูกค้าครอบครัวละ 4 ชิ้น
สำหรับ ผลกระทบกับการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลแพรกษา เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้น เพราะทางจังหวัดคงไม่นิ่งนอนใจและหาทางแก้ไขปัญหาอยู่ ส่วนการลดผลกระทบในระยะยาวถ้าเป็นไปได้ก็อยากเห็นทางจังหวัดย้ายบ่อขยะออก จากจุดเดิม เนื่องจากปัจจุบันหมู่บ้านจัดสรรขยายตัวออกสู่ชานเมืองและรอยต่อจังหวัด ปริมณฑล บ่อขยะก็ควรจะย้ายออกไปในพื้นที่ไกลขึ้นไม่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนพักอาศัยด้วย
แหล่งข่าวจาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า มีบ้านจัดสรร 2 โครงการโซนแพรกษา ได้แก่ บ้านพฤกษา 28 ย่านแพรกษา ปัจจุบันปิดการขายแล้ว และบ้านพฤกษา 59 ย่านบางปู มีบ้านเหลือขาย 10-20% หรือประมาณ 40 หลัง ทั้ง 2 โครงการอยู่ห่างจากบ่อขยะประมาณ 2 กม. ในแง่ผลกระทบระยะสั้นเชื่อว่าคงมีบ้าง แต่ไม่เป็นห่วงเพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนละแวกนี้ น่าจะเข้าใจปัญหาดี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาบริษัทนำหน้ากากป้องกันกลิ่นแจกให้ลูกบ้านทั้ง 2 โครงการแล้ว จำนวนกว่า 1 พันครอบครัว
ส่วนการพัฒนาโครงการในอนาคต บริษัทให้ความสำคัญกับการซื้อที่ดินในทำเลที่ไม่ใกล้บ่อขยะอยู่แล้ว กรณีควันไฟที่ฟุ้งกระจายมาถือเป็นเหตุสุดวิสัย และเชื่อว่าทางจังหวัดคงจะกวดขันเข้มงวด เพราะเท่าที่ทราบเป็นบ่อขยะที่เอกชนเช่าพื้นที่ แต่หมดอายุสัญญาแล้ว แต่มีผู้ลักลอบทิ้งขยะ กระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ล่าสุด
นายธีรสันต์ นรินทร์สุขสันติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ็ม.ที. แลนด์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการจัดสรรโซนสมุทรปราการ เปิดเผยว่า มีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายในย่านแพรกษา คือ ดิ อินสปายร์ มีบ้านเหลือขายประมาณ 30 ยูนิต เป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. ที่ดิน 20 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท จากเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษา คาดว่าระยะสั้นคงมีผลกระทบกับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านในโซนนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์สงบเชื่อว่าจะกลับมาตัดสินใจซื้ออีกครั้ง ส่วนการพัฒนาโครงการในอนาคตคงจะพัฒนาที่ห่างจากบ่อขยะมากขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-03-2557
|
|
|
|
|
