| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 49 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 20-03-2557    อ่าน 1484
 คมนาคมลุ้นใช้งบปี"58 ผุด"รางคู่-มอเตอร์เวย์" ถนน 4 เลน 2.5 แสนล้าน

"ชัชชาติ" เรียกหน่วยงานคมนาคมถก รอชง ครม.ใหม่อนุมัติลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 53 โครงการ ลุ้นใช้งบฯปี"58 ผุดรถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ ถนน 4 เลน 2.5 แสนล้าน อสังหาฯ วัสดุ เบรกลงทุน ตจว.ชี้ที่ดินวูบ 10% เก็งกำไรเจอแจ็กพอต

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการผลักดัน โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 53 โครงการ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ การก่อสร้างถนน ฯลฯ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและพิจารณาหาแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการ ก่อนเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาสานต่อโครงการต่อไป คาดว่าภายใน 6 เดือนนับจากนี้จะได้รัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ

3 แนวทางผุดโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับ แหล่งเงินได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะมาจาก 3 แหล่ง คือ 1.เงินงบประมาณปี 2558 จะใช้ลงทุนโครงการที่พร้อมประมูล และใช้เวลาก่อสร้าง 1-3 ปี เช่น ถนน 4 เลน ซ่อมบูรณะถนนสายหลัก ปรับปรุงทางรถไฟ สะพานข้ามทางรถไฟ ค่าเวนคืนที่ดินมอเตอร์เวย์ ก่อสร้างรถไฟ และถนนสายใหม่ รวมถึงค่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 6 สาย เป็นต้น

2.เงิน กู้ในประเทศและต่างประเทศ ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าในมือง 8 สาย และรถไฟชานเมืองสายสีแดง 5 เส้นทาง หลัก ๆ จะใช้เงินกู้ในประเทศ ส่วนเงินกู้ต่างประเทศ เช่น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างถนน 4 เลน ถนนต่อเชื่อมราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก เป็นต้น

3.ให้เอกชนร่วมลงทุนรูป แบบ PPP ตามกฎหมายร่วมทุนฯ เช่น มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช วงเงิน 84,600 ล้านบาท สายบางใหญ่-กาญจนบุรี 55,000 ล้านบาท โดยจะเปิดร่วมทุนก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการทั้งเก็บค่าผ่านทางและการ บำรุงรักษา เอกชนจะได้สิทธิ์สัมปทาน 30 ปี ส่วนสายพัทยา-มาบตาพุด วงเงิน 16,000 ล้านบาท จะของบฯปี 2558 เวนคืน ส่วนการก่อสร้างจะใช้เงินกองทุนค่าธรรมเนียมซึ่งมีอยู่ขณะนี้ 14,000 ล้านบาทก่อสร้าง

นอกจากนี้มีโครงการรถไฟฟ้า 13 สาย ทั้งสายที่กำลังก่อสร้างและเปิดประมูลใหม่ จะให้เอกชนมาร่วมลงทุนจัดหาระบบไฟฟ้าและเครื่องกล การเดินรถและการบำรุงรักษา

ชงใช้งบฯปี 58 รวม 2.5 แสนล้าน

ขณะ ที่นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากการรวบรวมโครงการภายใต้แผน 2 ล้านล้านบาท ที่พร้อมประมูลปี 2557-2558 ตามกรอบเดิม จะขอจัดสรรงบฯ ปี 2558 ซึ่งต้องใช้เงินค่าก่อสร้าง 2.5 แสนล้านบาท อาทิ ถนน รถไฟทางคู่ ค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์ 3 สาย เป็นต้น โดยจะบรรจุไว้ในบัญชีคำขอ จะได้รับอนุมัติหรือไม่อยู่ที่คลัง

"ส่วนรถไฟฟ้าจะกลับไปใช้วิธี เดิม คือใช้เงินกู้ รวมทั้งค่าก่อสร้างมอเตอร์เวย์ มีสายเดียวคือสายบางปะอิน-โคราช ถ้าไม่มีงบฯ จะให้เอกชนร่วมทุน ส่วนไฮสปีดเทรนยังยืนยันเดินหน้าโดยเลือกดำเนินการบางสาย โดยใช้เงินกู้"

ยังเดินหน้ารถไฟฟ้า-รถไฟทางคู่

แหล่ง ข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ของ รฟม. เงินลงทุนกว่า 4-5 แสนล้านบาท จะใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศเหมือนสายสีน้ำเงินและสีเขียว โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะจัดหาเงินกู้เป็นรายโครงการ เนื่องจากไทยสภาพคล่องการเงินค่อนข้างล้น ประกอบกับไจก้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม หลังไทยถูกจัดเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว จากเดิมอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 1.4% ถูกปรับเพิ่มเป็น 1.7-1.8%

ด้านนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า การลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ 5 สายเร่งด่วน 797 กิโลเมตรวงเงินลงทุน 118,034 ล้านบาท จะกลับไปใช้กรอบวงเงิน 1.76 แสนล้านบาทที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเมื่อปี 2553 ได้แก่ สายลพบุรี-ปากน้ำโพ, มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น, นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สายแรกที่จะดำเนินการคือชุมทางจิระ-ขอนแก่น

แสนสิริแตะเบรกลงทุน ตจว.

ด้าน ความเคลื่อนไหวของเอกชนโดยเฉพาะภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลายบริษัทต่างปรับแผนรับโครงการ 2 ล้านล้านสะดุด โดยนายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ มองว่า เมื่อการเริ่มต้นลงทุนเมกะโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานล่าช้าออกไป บวกกับปัจจัยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว นับจากนี้คงไม่เห็นภาพการซื้อขายที่ดินคึกคักเท่ากับ 1-2 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินบางแปลงซึ่งเจ้าของรีบใช้เงินก็น่าจะปรับลดลงมา และโดยเฉลี่ยน่าจะปรับลดลง 5-10%

ในแง่การพัฒนาโครงการอสังหาฯใน ต่างจังหวัดของแสนสิริเอง ระหว่างยังไม่มีความชัดเจนในการลงทุน 2 ล้านล้านจะพิจารณาจากดีมานด์-ซัพพลายและเศรษฐกิจแต่ละจังหวัด จากเดิมให้ความสำคัญกับแผนลงทุนตามแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเป็นองค์ประกอบ โดยปีนี้จะลดการลงทุนต่างจังหวัด จะเปิดตัวโครงการใหม่ไม่เกิน 4-5 โครงการ จากปี 2556 ลงทุนมากกว่า 20 โครงการ เนื่องจากเห็นสัญญาณกำลังซื้อชะลอตัว เช่น เดียวกับมุมมองของนายสืบวงศ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร บจ.วิจิตรากรุ๊ป ที่ระบุว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินใน จ.สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา ปรับขึ้นถึง 40-50% เพราะมีการเก็งกำไร ล่าสุดเมื่อโครงการ 2 ล้านล้านชะลอ ราคาที่ดินน่าจะทรงตัว แต่คงไม่ปรับลดลง

AEC หนุนที่ดินชายแดน

ส่วน นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ชี้ว่า จากนี้ไปราคาที่ดินจะทรงตัว แต่คงไม่ปรับลดลง เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และ การขยายตัวของเศรษฐกิจแต่ละจังหวัดช่วยหนุน อย่างไรก็ตาม การชะลอโครงการ 2 ล้านล้านจะไม่มีผลกับแผนลงทุนต่างจังหวัดของเอพี เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้นำมาเป็นปัจจัยพิจารณาทำเลลงทุน ทั้งนี้ 2 ปีที่ผ่านมามีคอนโดฯเกิดขึ้นหลายจังหวัด ทำให้ราคาที่ดินขยับขึ้นเร็ว พอไม่มีข่าวโครงการ 2 ล้านล้าน จะเหลือแต่การพัฒนาโครงการในจังหวัดที่เป็นตัวจริง เศรษฐกิจเติบโตได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้พึ่งพาการลงทุนจากภาครัฐ

ขณะที่ นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า แม้โดยรวมราคาที่ดินน่าจะทรงตัว แต่จังหวัดที่อยู่ใกล้ด่านชายแดนราคายังมีโอกาสปรับขึ้นจากปัจจัยเออีซี เช่น จังหวัดนครพนม มุกดาหาร เลย หนองคาย เชียงราย ตาก ฯลฯ
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 20-03-2557 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.