|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| LPN พลิกโมเดลหนีคอนโดฯล้น ส่ง"ชุมชนน่าอยู่" เจาะบ้านเดี่ยว |
|
ค่าย LPN พลิกโมเดลธุรกิจสู้ม็อบการเมือง-เศรษฐกิจขาลง กระจายความเสี่ยงคอนโดฯล้นตลาด ซุ่มลงทุนผุดบ้านเดี่ยว 8-9 ล้าน มูลค่าโครงการ 1 พันล้าน ชูจุดแข็ง "ชุมชนน่าอยู่" ต่อยอดจากคอนโดฯ สู่แนวราบ ประเดิมทำเลศรีนครินทร์ คู่แข่ง "เอสซีฯ-เคแลนด์-นิรันดร์กรุ๊ป" ท้าชนโซนเดียวกัน
จาก แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากมีภาวะร้อนแรงต่อเนื่องมาหลายปี บวกกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจขาลงทำให้ปีนี้เป็นปีแห่งการปรับตัวของ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อความอยู่รอดทางธุรกิจ
LPN เปิดแนวรบบ้านเดี่ยว
ผู้ สื่อข่าวสำรวจความเคลื่อนไหวในตลาดบ้านเดี่ยว พบว่ากลุ่มที่น่าจับตามากที่สุดขณะนี้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รองรับสถานการณ์ที่ เปลี่ยนแปลงไปของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เจ้าตลาดคอนโดฯ กลาง-ล่าง ระดับราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งมีจุดแข็งเรื่องการบริหารนิติบุคคลอาคารชุดเองภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชุมชนน่าอยู่" สถิติ 24 ปีที่ผ่านมาพัฒนาคอนโดฯ แล้วกว่า 80 โครงการ จำนวนกว่า 1.25 แสนยูนิต
ล่าสุด LPN ขยับแผนธุรกิจครั้งสำคัญเข้ามารุกตลาดบ้านเดี่ยวเป็นครั้งแรก ท่ามกลางการจับตามองของคู่แข่ง หลังจากปี 2554 ได้กระจายความเสี่ยงธุรกิจจากการพัฒนาโครงการแนวสูงมาสู่แนวราบ โดยเปิดตัวทาวน์เฮาส์ในเมือง 2 โครงการ ในทำเลลาดพร้าวและเสนานิคม โดยปีนี้พร้อมแล้วที่จะเปิดเกมรุกตลาดบ้านเดี่ยว
นำร่องบ้านเดี่ยว 8-9 ล้าน
นาง สาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการแนวราบในเครือ LPN เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้กลุ่ม LPN จะรุกตลาดบ้านเดี่ยวกลาง-บน ราคายูนิตละ 8-9 ล้านบาทเป็นครั้งแรก ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ห่างจากสวนหลวง ร.9 เพียง 500 เมตร บนที่ดิน 26 ไร่เศษ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น รองรับการอยู่อาศัยได้ 2-3 เจเนอเรชั่น มีให้เลือก 2 แบบ พื้นที่ใช้สอย 250-260 ตารางเมตร ที่ดิน 50-60 ตารางวา ประมาณ 100 ยูนิต ราคายูนิตละ 8-9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท จะเปิดตัวไตรมาส 3 นี้ เป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย เจาะกลุ่มลูกค้ากลาง-บนที่ต้องการบ้านเดี่ยวสำหรับคนเมือง
"ถึงแม้ LPN ยังเป็นหน้าใหม่ในตลาดแนวราบ แต่ไม่ได้กังวลเพราะมีจุดแข็งเรื่องการบริหารชุมชนหรือนิติบุคคลแบบเดียวกับ คอนโดฯ ลุมพินี โดยมีทีมบริหารเองและพร้อมดูแลลูกบ้านไปตลอด"
นางสาว สมศรีกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการแนวราบสะสม 4 โครงการ โดยทาวน์เฮาส์ทำเลลาดพร้าวและเสนาฯ ปิดการขายแล้ว ส่วนอีก 2 โครงการอยู่ระหว่างเปิดขายคือ ลุมพินีทาวน์เพลส สุขุมวิท 62 ราคา 5-7 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 30% จาก 70 ยูนิต และลุมพินีศรีนครินทร์-แบริ่ง ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท มียอดขาย 20% จากจำนวนทั้งหมดกว่า 90 ยูนิต ถือว่ามีประสบการณ์เพียงพอจะขยายเซ็กเมนต์มาทำบ้านเดี่ยว
นอกจากนี้ แผนบุกแนวราบปีนี้ยังเตรียมเปิดตัวโฮมออฟฟิศ "ลุมพินีทาวน์ เรสซิเดนซ์"ถ.ศรีนครินทร์ 27 ยูนิต ราคา 9-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท รวมถึงเตรียมซื้อที่ดินอีก 2 แปลง วงเงิน 1 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส 4 ในส่วนของบ้านเดี่ยวนั้นหากมีผลตอบรับดี อนาคตจะหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น
เอสซีฯ จับตาคู่แข่ง
นาย อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่ LPN รุกตลาดบ้านเดี่ยวถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ต้องจับตามอง เพราะแม้ไม่มีประสบการณ์พัฒนาบ้านเดี่ยวมาก่อน แต่ก็เป็นแบรนด์ที่คนรู้จักและทำคอนโดฯ มานาน น่าจะนำมาต่อยอดได้
ทั้ง นี้ เอสซีฯ มีบ้านเดี่ยว "ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด วงแหวน-อ่อนนุช 2" บน ถ.เฉลิมพระเกียรติ เพิ่งเปิดตัวเมื่อไตรมาส 4/56 จำนวน 175 ยูนิต บนที่ดิน 45 ไร่ ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท ถือว่าจับตลาดใกล้กัน มียอดขาย 15-20% เฉลี่ยเดือนละ 5-8 หลัง แต่ไม่ได้กังวลที่จะต้องแข่งขันกัน ขณะที่คู่แข่งรายอื่นในโซนนี้ อาทิ บมจ.แสนสิริ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ฯลฯ
เคแลนด์-นิรันดร์ฯ รอรับ
ขณะ ที่นายชวินธร คุณากรปรมัตถ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือเคแลนด์ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบข่าว LPN จะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวในโซนนี้ แต่ไม่ได้กังวลการแข่งขัน เพราะตลาดใหญ่พอ โดยปีที่ผ่านมาบริษัทเพิ่งจะรีดีไซน์แบบบ้านใหม่ทุกโครงการ โดยเฉพาะเดอะแกรนด์ อุดมสุข เปิดตัวปลายปีที่ผ่านมา เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 153 ยูนิต บนที่ดิน 66 ไร่ ราคา 11-18 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1.8 พันล้านบาท มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 3-7 หลัง
นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทนิรันดร์กรุ๊ป มองในทำนองเดียวกันว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ได้ โดยคู่แข่งในโซนนี้ อาทิ เคแลนด์ เอสซีฯ แสนสิริฯลฯ ซึ่งผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็กมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนการตลาด สามารถตั้งราคาขายได้ต่ำกว่า ประกอบกับบ้านจัดสรรเป็นสินค้าที่ไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยี หากได้ช่างฝีมือคุณภาพบ้านก็แทบจะไม่แตกต่างกัน
"เดือนสิงหาคมนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวสวนหลวงวิลล์ ถ.เฉลิมพระเกียรติ บนที่ดิน 50 ไร่ เฟสแรกเปิดขายก่อน 150 ยูนิต ที่ดินเริ่ม 50-60 ตารางวา ราคา 4-8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 900-1,000 ล้านบาท น่าจะเปิดตัวไล่เลี่ยกับโครงการ LPN มั่นใจว่าจะแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ได้" นายธำรงกล่าว
ผู้บริโภครับประโยชน์เต็ม ๆ
ด้าน นายอิสระ บุญยัง นายกฯกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรกล่าวว่า มี 4 เหตุผลที่รายใหญ่หันมาลงทุนโครงการแนวราบกับแนวสูงควบคู่กัน 1.เป็นกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงลงทุน 2.การรับรู้รายได้จะมีความสม่ำเสมอดีกว่าทำแต่แนวสูงเพียงอย่างเดียว 3.เวลาตลาดชะลอตัวคอนโดฯ จะเป็นกลุ่มที่กระทบมากสุด และ 4.ผู้ซื้อกลุ่มเก็งกำไรจะซื้อแต่คอนโดฯเป็นหลัก เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีลูกค้ากลุ่มนี้จะหายไป จึงต้องปรับพอร์ตลงทุนแนวราบมาเสริม
"กรณีของ LPN ในกลุ่มแนวราบยังมีตลาดจำกัด และเลือกทำเลในเมืองราคาสูงถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ประมาณ 4-5 ล้าน บ้านเดี่ยวก็ 8-10 ล้าน เขายังไม่ได้ออกมาทำเลชานเมือง ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทบิ๊กแบรนด์ในตลาดลงมาพัฒนาแนวราบราคา 1-2-3 ล้านบาท แข่งกับบริษัทอสังหาฯรายกลางรายเล็ก จุดนี้จะหนักกว่าเพราะเป็นคู่แข่งทางตรง แต่ที่แน่ ๆ ยิ่งแข่งขันกันมากเท่าไหร่ผลประโยชน์ก็ตกกับผู้บริโภคทั้งหมด" นายอิสระกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-02-2557
|
|
|
|
|
