|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สนข.เลื่อนประมูลระบบตั๋วร่วม รอม็อบสงบเปิดยื่นใหม่ 17 ก.พ. |
|
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากการที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองหลังมีการชุมนุมเกิดขึ้นในหลาย พื้นที่ สนข.ได้ตัดสินใจเลื่อนการเปิดให้ภาคเอกชน 54 ประเทศที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลการจัดทำระบบตั๋วร่วม มูลค่า 400 ล้านบาท ออกไปจากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ ทั้งนี้ยังเป็นกำหนดการใหม่ในเบื้องต้น แต่ถ้าหากการเมืองรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเดินทางไม่สะดวก อาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก
"ตัดสินใจเลื่อนออกไป เพราะมีเอกชนจากต่างประเทศที่จะมายื่นประมูลโดยจะร่วมกับบริษัทในประเทศไทย หลายรายขอเลื่อนกำหนดออกไป อาทิ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ สเปน"
นายจุฬากล่าวอีกว่า การประมูลครั้งนี้เป็นการประมูลหาผู้มาดำเนินการระบบเคลียริ่งเฮาส์ หรือศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางของระบบภาคขนส่งใช้กับระบบรางและถนน ในแผนการดำเนินการเดิมจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ใช้เวลาดำเนินการ 4 เดือน แบ่งเป็นช่วงแรกใช้เวลา 60 วัน เป็นการประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมและคัดเลือกให้เหลือไม่เกิน 6 ราย โดย สนข.อยู่ระหว่างดำเนินการ
ขั้นตอนนี้ ส่วนช่วงที่ 2 จะให้เวลา 45 วัน กำหนดให้ทั้ง 6 ราย เสนอรายละเอียดการประมูล คาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลภายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ แต่หลังจากเลื่อนการยื่นประมูลออกไป กรอบเวลาต่าง ๆ จะเลื่อนตามไปด้วย จากเดิมกำหนดจะแล้วเสร็จในปลายปี 2557 นี้
"สนข.จะเป็นผู้ประมูลหา เอกชนมาดำเนินการระบบซอฟต์แวร์และระบบตั๋ว โดยเป็นระบบของใครก็ได้ ขอให้เป็นมาตรฐานระดับสากล ทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เปิดกว้างทั้งไทยและต่างชาติ" ผอ.สนข.กล่าว และว่า
สำหรับหน่วย งานกลางที่จะทำหน้าที่บริหารจัดการ จะตั้งบริษัทลูกของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาดำเนินการ มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ เบื้องต้นมีพนักงานรองรับแล้ว 50-100 คน ซึ่งผ่านการอบรมและเทรนด์ระบบมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดยตั้งสำนักงานอยู่ที่ รฟม.
เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางใช้บัตรโดยสารใบเดียวกันได้ ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน รถเมล์ และนำไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ ในกลางปี 2558 นำร่องระบบทางด่วน และรถไฟฟ้าในบางสาย เช่น ใต้ดิน แอร์พอร์ตลิงก์ จากนั้นปลายปี 2558 จะใช้ได้รวมทุกระบบทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน บีทีเอส แอร์พอร์ตลิงก์ รถเมล์ ทางด่วน รวมถึงการดึงบัตรอยู่นอกภาคขนส่งเข้าร่วม เช่น บัตรสมาร์ทเพิร์ส และบัตรแรบบิทของบีทีเอส และสมบูรณ์ทั้งแบบทั้งระบบในต้นปี 2559 โดยจะทำให้ทุกอย่างเสร็จทันกรอบเวลาเดิม แม้วจะเลื่อนเวลาประมูลออกไป |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-01-2557
|
|
|
|
|
