| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 79 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 29-01-2557    อ่าน 1471
 "พฤกษา" บิ๊กอสังหาฯลั่น เพื่อชาติ เพื่อธุรกิจ การเมืองต้องไม่มีสี

"พฤกษา เรียลเอสเตท" บริษัทพัฒนาที่ดินบิ๊กแบรนด์ที่คาดว่าจะกลับมาครองแชมป์ผู้ประกอบการที่มี ยอดรับรู้รายได้สูงสุดในปี 2556 เปิดบ้านชั้น 19 อาคาร SM ทาวเวอร์ จัดงานแถลงแผนธุรกิจประจำปีนี้ ถึงทิศทางและแผนงานที่จะเดินหน้าต่อไปตลอดทั้งปี

ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ร้อนแรงและอึมครึม ทำให้คำตอบของ "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้รับความสนใจ เพราะสะท้อนถึงคมความคิด และการวางแผนธุรกิจอสังหาฯหลังภาวะที่บ้านเมืองไม่สงบ

"ทองมา" นายใหญ่พฤกษาฯ ระบุว่า จากสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ การวางแผนธุรกิจปี"57 ในแง่การเติบโต ถือว่าคอนเซอร์เวทีฟที่สุดนับตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อปี"48

เป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) ที่วางไว้คือ 4.1-4.5 หมื่นล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ (ยอดโอนกรรมสิทธิ์) 4-4.2 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 5-10% โดยมีแบ็กล็อกหรือยอดขายรอรับรู้รายได้ในปี"57 แล้ว 20,786 ล้านบาท

ขณะที่นับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 25% มาโดยตลอด ยกเว้นปี"54 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ อัตราเติบโตลดลงเหลือกว่า 10% แต่เป้าหมายอาจปรับได้เป็นรายไตรมาส ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองจะเป็นปกติเมื่อไหร่ โดยมองบวกว่าน่าจะจบได้เร็ว ๆ นี้

สำหรับแผนธุรกิจปี"57 "ทองมา" ฉายภาพว่า จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 40-50 โครงการ รวมมูลค่าขาย 4-5 หมื่นล้านบาท แยกเป็นทาวน์เฮาส์ซึ่งยังคงเป็นสัดส่วนใหญ่ 25-29 โครงการ บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด 9-12 โครงการ คอนโดมิเนียม 5-8 โครงการ และต่างประเทศ 1 โครงการ ลดลงจากปีที่ผ่านมาเปิดตัว 60 โครงการ มูลค่าขายรวม 50,193 ล้านบาท

ส่วนการขยายตลาดต่างจังหวัด วางแผนเปิดตัว 6-7 โครงการ ได้แก่ ชลบุรี 2 โครงการ, พัทยา 1-2 โครงการ ศรีราชา 1 โครงการ และเชียงใหม่ 2 โครงการ โดยการรุกจังหวัดใหม่ ๆ ไม่ชะลอ กำลังศึกษาการลงทุนเพิ่มขึ้น ดูจังหวัดใกล้เคียงที่พัฒนาโครงการไปแล้ว เช่น ชลบุรีมีโครงการอยู่แล้วก็จะศึกษาระยอง, จากภูเก็ตก็จะศึกษาสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา, จากขอนแก่นจะศึกษานครราชสีมา อุดรธานี เน้นโครงการขนาดกลางเนื้อที่ 30-40 ไร่ ฯลฯ

"2-3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจแต่ละจังหวัดเติบโตได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้พึ่งพาการลงทุนสาธารณูปโภคของภาครัฐเป็นหลัก การที่โครงการ 2 ล้านล้านชะลอการลงทุนออกไปอาจส่งผลในเชิงจิตวิทยา แต่เชื่อว่าการซื้อที่อยู่อาศัยจะไม่ชะลอตาม"

เมื่อโฟกัสกลยุทธ์ของพฤกษาฯปีนี้ "ทองมา" อธิบายว่า อันดับแรกจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่จริงหรือเรียลดีมานด์เป็นหลัก สองคือรักษาพอร์ตธุรกิจเดิมคือบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์กว่า 80% และคอนโดฯต่ำกว่า 20% สามคือใช้ระบบก่อสร้างโครงการแนวราบแบบเดียวกับโรงงานอุตสาหกรรม หรือ REM-Real Estate Manufacturing และสุดท้ายคือเน้นเรื่องพัฒนาคุณภาพสินค้า

พร้อมกับย้ำว่า...ในสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ สิ่งสำคัญคือการบริหารสภาพคล่อง คุม "รายรับ" และ "รายจ่าย" ให้เหมาะสม เพื่อรอตลาดฟื้นตัวอีกครั้ง

ขณะที่ภาพรวมอสังหาฯปีนี้ หากปัญหาการเมืองยุติได้ในเดือนมกราคม คาดว่าตลาดจะ "ทรงตัว" โดยปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯมีมูลค่า 6.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล 3.3-3.4 แสนล้านบาท และต่างจังหวัดอีก 3 แสนล้านบาท แต่ถ้าการชุมนุมต่อเนื่องไปถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมนี้ ประเมินว่าภาพรวมตลาดมีโอกาสจะ "หดตัว" 2%

โดยการเมืองคือปัจจัยที่ทุกคนคงกังวลมากที่สุดในตอนนี้ เพราะกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค การตัดสินใจซื้อสินค้าชะลอตัว

"เดือนธันวาคมที่ผ่านมา พฤกษาฯมียอดขายลดลงจากเดือนก่อน 15% ส่วนช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนมกราคมหลังจากมีม็อบชัตดาวน์กรุงเทพฯ ยอดขายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20% ส่วนแนวโน้มไตรมาสแรกยังไม่สามารถประเมินได้"

"ทองมา" ระบุว่า หากมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ สิ่งที่อยากเห็นไม่ใช่มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ แต่อยากเห็นรัฐบาลบริหารบ้านเมืองให้สงบ ไม่แบ่งสี แบ่งกลุ่ม เหมือนปัจจุบัน เพราะตราบใดที่ประเทศยังวุ่นวาย การซื้อที่อยู่อาศัยก็จะชะลอตัวต่อ แต่ถ้าการเมืองสงบ เศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวเป็นปกติ อสังหาฯสามารถเติบโตด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีมาตรการกระตุ้น

ส่วนสิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ทำคือ เรื่องกระบวนการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการคอนโดฯซึ่งกลายเป็นเซ็กเตอร์หลัก เพราะที่ดินในเมืองและกรุงเทพฯชั้นกลางราคาแพง ถ้าจะซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองก็ต้องเป็นคอนโดฯ แต่ถ้าอยากได้ทาวน์เฮาส์ก็ต้องอยู่รอบนอกกรุงเทพฯ หรือชานเมือง

ดังนั้น อยากเห็นรัฐบาลลงมาดูแลเรื่องกระจายอำนาจการพิจารณารายงานอีไอเอให้แต่ละจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันการพิจารณากระจุกเป็นคอขวดอยู่ที่ส่วนกลาง เหมือนกับปี"43-44 ที่การขออนุญาตจัดสรรที่ดินถูกกระจายออกไปให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้พิจารณา ถ้าแก้ปัญหาได้จะช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาคอนโดฯได้หลายเดือน ต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ ต้นทุนค่าแรงจะลดลง ผลก็จะไปตกอยู่กับผู้บริโภคด้วย เพราะผู้ประกอบการสามารถตั้งราคาขายต่ำลง

"ทองมา" ระบุว่า สำหรับคนที่คิดจะซื้อบ้านช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ปัจจัยสนับสนุนคือ 1) ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับต่ำ 2) ผู้ประกอบการจำเป็นต้องตรึงราคาไว้ก่อนในภาวะที่มีปัญหาการเมือง และ 3) ผู้ประกอบการมีโปรโมชั่นออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ

ถ้ามีความพร้อมเรื่องการเงิน ก็เป็นโอกาสดีที่จะซื้อบ้านในช่วงนี้ !

2556 ปีทองของ "ทองมา"

ถือว่าเป็นปีทองของ "ทองมา" นายใหญ่ค่ายพฤกษาฯก็ว่าได้ เพราะปี"56 เจ้าตัวและบริษัทคว้าโล่ไปถึง 5 รางวัล เริ่มจากรางวัล SET Awrards ประเภท...เบสต์ซีอีโอ อะวอร์ด 2013 ขณะที่ บมจ.พฤกษาฯ ก็คว้ารางวัล...เบสต์ คอมปะนี เพอร์ฟอร์แมนซ์ อะวอร์ด 2013 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รางวัลดีเด่น...คอร์ปอเรตเรสปอนซิบิลิตี้ อะวอร์ด รางวัล CSRI Recognition 2013 ประเภทรางวัลทั่วไป และรางวัลซัสเทนเนบิลิตี้ รีพอร์ต อะวอร์ด 2013 ประเภทดีเด่น

ขณะที่ผลการดำเนินงานถือเป็น บันทึกหน้าใหม่ของค่ายนี้ เพราะปิดยอดขาย 41,282 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมช่วงต้นปีที่ตั้งไว้ 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ แม้อยู่ระหว่างรอแจ้งผลประกอบการกับตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่คาดว่าจะเกินเป้าที่ตั้งไว้ 3.6-3.7 หมื่นล้านบาท

โดยปีที่ผ่าน มา "พฤกษาฯ" ส่งมอบบ้านมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 1.69 หมื่นยูนิต แยกเป็นทาวน์เฮาส์-บ้านเดี่ยวกว่า 1.31 หมื่นยูนิต และคอนโดฯ 3.8 พันยูนิต เพิ่มขึ้นจากปี"55 ถึง 38%

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่ม ประสิทธิภาพของรอบการส่งมอบบ้านได้เร็วขึ้นจาก 167 วัน เหลือ 146 วัน ที่ใช้ชิ้นส่วนผลิตจากโรงงานพรีแคสต์ผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป ที่เป็นโมเดลให้กับหลายค่ายไปเป็นต้นแบบ และปีนี้ "พฤกษาฯ" มั่นใจว่าจะเพิ่มความเร็วการส่งมอบบ้านได้อีก โดยไม่กระทบกับคุณภาพสินค้า
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 29-01-2557 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.