Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ขยาย 6 เลน ถนน "มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา" เสริมโครงข่ายโลจิสติกส์ภาคตะวันออก |
|
ใคร ใช้ถนนสาย 304 หรือถนนกบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา เป็นเส้นทางเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างภาคอีสาน กรุงเทพมหานครในเขตมีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา จะเห็นว่าช่วงนี้กำลังมีการก่อสร้างถนนอยู่ เป็นเหตุทำให้การจราจรย่านนี้ไม่คล่องตัวและสะดวกสบายเท่าที่ควร
งาน ก่อสร้างอยู่ในความดูแลของ "ทล.-กรมทางหลวง" ภายใต้ชื่อโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 304 จากมีนบุรี-ฉะเชิงเทรา มีระยะทางรวม 38 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 2,400 ล้านบาท เป็น โครงการที่มาเติมเต็มพื้นที่ฟันหลอของโครงการยกระดับถนนสายนี้ตามนโยบายของ "กยน.-คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ" หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่
เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยกรมทางหลวงจะยกระดับถนนสายนี้สูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมกับปรับปรุงสะพานข้ามแม่น้ำลำคลอง ด้วยการขยับตำแหน่งใหม่เพื่อไม่ให้กีดขวางการไหลของน้ำ ขณะที่โครงการก่อสร้างจาก "มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา" กรมทางหลวงได้แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ตอน โดยตอน 1 อยู่ระหว่าง กิโลเมตรที่ 41+100 ถึงกิโลเมตรที่ 76+400.000 รวมระยะทาง 11.245 กิโลเมตร ใช้งบประมาณประจำปี 2556 ค่าก่อสร้างกว่า 948 ล้านบาท
รูป แบบโครงการจะเป็นการขยายช่องจราจรจากถนนเดิม 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร โดยผิวจราจรเป็นแอสฟัลต์คอนกรีต 2 ชั้น หนาชั้นละ 5 เซนติเมตร กว้างช่องละ 3.50 เมตร พร้อมไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร และ 1.50 เมตร มีเกาะกลางกว้าง 7.55 เมตร
ปัจจุบันเปิดประมูลได้ "บริษัท ชัยนันท์ค้าวัตถุก่อสร้าง (2524) จำกัด" เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา มีผลงานความคืบหน้าอยู่ที่ประมาณ 3-4% ยังล่าช้าจากแผนงานอยู่ประมาณ 1% จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี มีกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 9 มกราคม 2559
ขณะที่ตอนที่ 2 และ 3 จะเป็นการก่อสร้างขยายถนนเดิมจาก 4-6 ช่องจราจร เป็น 8 ช่องจราจร ตั้งแต่มีนบุรี-กิโลเมตรที่ 58 (คลองหลวงแพ่ง) จะใช้เงินก่อสร้างประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท จากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
แหล่ง ข่าวจากกรมทางหลวง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ล่าสุดทางกรมเตรียมพิจารณาจะนำโครงการขอจัดสรรงบประมาณประจำปี 2558 มาดำเนินการแทน หลังร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทติดอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่รู้จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะมีคำชี้ขาดออกมา เนื่องจากกรมต้องการเร่งดำเนินการก่อสร้างถนนเส้นนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะเป็นโครงการที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ ที่จะทำให้ระบบโลจิสติกส์ในภาคตะวันออกคล่องตัวมากขึ้น หลังจากในบริเวณนี้เริ่มมีการขยายตัวของโรงงานใหม่จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นการรองรับการขนส่งจากภาคอีสานไปยังท่าเรือแหลมฉบังได้ง่าย ขึ้น และเป็นทางเลือกเพิ่มสำหรับการเดินทางเชื่อมระหว่างภูมิภาคและพื้นที่รอบนอก ไม่ว่ามีนบุรี หนองจอก สุวินทวงศ์ พื้นที่โซนตะวันออกของกรุงเทพฯ เข้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯได้ง่ายขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-01-2557
|
|
|
|
|