Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
อีเวนต์ปีใหม่หวั่นเที่ยวไม่สนุก จี้2พันอาคารเช็กระบบอัคคีภัย |
|
สมาคมผู้ตรวจสอบอาคารฯหวั่นปีใหม่เกิดไฟไหม้ซ้ำรอยเหตุการณ์ซานติก้าผับ จี้เจ้าของตึกตกค้างกว่า 1-2 พันแห่ง เร่งตรวจความปลอดภัย ลดความเสี่ยง เร่ง กทม.ปัดฝุ่นพิจารณาผ่อนผันภาษีโรงเรือนให้เจ้าของอาคารที่ทำถูกกฎหมาย หลังเอ็มโอยูมากว่า 1 ปี แต่ยังไม่คืบหน้า
นายวิเชียร บุษยบัณฑูร นายกสมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัยอาคาร (ตปอ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เริ่มเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ทางสมาคมเป็นห่วงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอาคาร
โดยเฉพาะอาคารที่เข้าข่ายทั้ง 9 ประเภทจะต้องตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยตามกฎกระทรวงกำหนดประเภทอาคารที่ต้องจัดให้มีผู้ตรวจสอบ พ.ศ. 2548 (กฎหมายตรวจสอบอาคาร) มีประมาณ 7 พันอาคารทั่วประเทศ ล่าสุดพบว่ายังมีอาคารที่ยังไม่ได้ตรวจสอบและจัดส่งรายงานอีก 10-20% หรือกว่า 1-2 พันอาคาร
"หากระบบป้องกันอัคคีภัยไม่ทำงาน อาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีเพลิงไหม้ซานติก้าผับปี"52 ได้ ในจำนวนกว่า 5-6 พันอาคารที่ส่งรายงานตรวจสอบอาคารแล้ว ทราบว่ามีกว่า 1.3 พันอาคารที่ต้องแก้ไข ในจำนวนนี้มีกว่า 700-800 อาคาร ถูกสั่งแก้ไขเรื่องสัญญาณเตือนอัคคีภัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิต"
สำหรับอาคาร 9 ประเภทต้องจัดให้มีผู้ตรวจสอบ ได้แก่ 1.อาคารสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป 2.อาคารขนาดใหญ่พิเศษที่มีพื้นที่รวมตั้งแต่ 1 หมื่นตารางเมตรขึ้นไป 3.อาคารชุมนุมคนที่มีพื้นที่ตั้งแต่
1 พันตารางเมตรขึ้นไป หรือชุมนุมคนได้ตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป 4.โรงมหรสพสำหรับฉายภาพยนตร์ แสดงละคร แสดงดนตรี หรือการแสดงรื่นเริง 5.โรงแรมที่มีห้องพักตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป
6.อาคารชุดหรืออาคารอยู่อาศัยรวมพื้นที่ตั้งแต่ 2 พันตารางเมตรขึ้นไป กรณีเป็นอาคารชุดที่มีพื้นที่รวมในหลังเดียวไม่เกิน 5 พันตารางเมตร กฎหมายผ่อนผันให้ตรวจอาคารและส่งรายงานก่อน
25 ตุลาคม 2555 7.อาคารโรงงานที่สูงกว่า 1 ชั้น และมีพื้นที่ตั้งแต่ 5 พันตารางเมตรขึ้นไป 8.ป้ายสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป หรือป้ายที่ติดหรือตั้งบนหลังคาหรือดาดฟ้าอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 25 เมตรขึ้นไป และ 9.สถานบริการตามกฎหมายที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป
"กฎกระทรวงออกเมื่อปี"48 ให้เวลาเดดไลน์ส่งรายงาน 28 ธันวาคมปี"50 เท่ากับผ่านมา 5-6 ปี ยังมีอาคารหลบเลี่ยง กฎหมาย ซึ่งหัวใจของการตรวจสอบอาคารคือลดความเสี่ยงการสูญเสียเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย สิ่งสำคัญคือต้องติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนอัคคีภัยและต้องไม่ชำรุด ทางหนีไฟได้มาตรฐาน โอกาสมีผู้เสียชีวิตเมื่อเกิดไฟไหม้ก็น้อยลง"
นายกสมาคม ตปอ.กล่าวต่อว่า สภาพปัญหาที่อาคารบางส่วนไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีค่าใช้จ่ายปรับปรุงอุปกรณ์ให้ได้มาตรฐานตามกฎหมาย หรืออาคารบางแห่งมีการดัดแปลงก็ต้องมีค่าใช้จ่ายปรับปรุงให้ถูกต้อง เมื่อ 25 เมษายน 2555 กรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยสมาคมและตัวแทนผู้จัดทำระบบความปลอดภัยในอาคารและตัวแทนผู้จำหน่ายอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย รวม 13 หน่วยงาน อาทิ สมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัยอาคาร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ฯลฯ ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในโครงการสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองสวรรค์ด้านความปลอดภัย
"สาระสำคัญส่วนหนึ่งในบันทึกข้อตกลงที่ทำร่วมกันคือ กทม.จะพิจารณาคำขอผ่อนผันภาษีโรงเรือนให้กับเจ้าของอาคารที่ปรับปรุงแก้ไขติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นข้อจูงใจให้เจ้าของอาคารปฏิบัติตามกฎหมาย ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า อยากจะขอให้ กทม.หยิบเรื่องนี้มาพิจารณาและผลักดันเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จะช่วยส่งเสริมให้อาคารเข้าสู่ระบบมากขึ้น"
แหล่งข่าวจากสมาคม ตปอ.กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่ทำให้เจ้าของอาคารไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เกิดจากทั้ง 2 ส่วนคือ การบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่ศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันเจ้าของอาคารยังให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายการปรับปรุงมากกว่าความปลอดภัย หาก กทม.ผ่อนผันภาษีโรงเรือนจะส่งผลดีให้อาคารเข้าสู่ระบบ
"อาคารที่ติดตั้งระบบเตือนอัคคีภัยและสปริงเกลอร์แล้วอาจคิดว่าปลอดภัย แต่อุปกรณ์เหล่านี้ต้องตรวจสอบสม่ำเสมอว่าใช้งานได้หรือไม่ โดยเฉพาะอาคารที่มีวัสดุติดไฟได้ง่ายหรือเป็นแหล่งชุมนุมคน เช่น สถานบันเทิง ควรจะต้องมีจิตสำนึกด้วย" แหล่งข่าวกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-12-2556
|
|
|
|
|