|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สีทาอาคารยอดตกสำลักน้ำท่วม-หนี้ครัวเรือนพุ่ง |
|
ตลาดสีทาอาคารปิดฉากไม่สวย สำลักน้ำท่วม-หนี้ครัวเรือนพุ่ง-กำลังซื้อปลายปีซบ สามค่ายพาเหรดกอดคอกันพลาดเป้า "ทีโอเอ" ยอดขายต่ำเป้า 1 พันล้าน จากกว่า 1.8 หมื่นล้านเหลือ 1.7 หมื่นล้าน "เบเยอร์" โตต่ำกว่าประมาณการจากเป้า 25% เหลือ 10% ค่าย "เจ.บี.พี." รับยอดขายโตน้อย ผู้บริโภคชะลอการซื้อ
นายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสีทาอาคารปีนี้ประเมินว่ามีมูลค่าตลาดรวมกว่า 20,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนเพียง 3-4% ส่วนบริษัทเดิมประมาณการยอดขายสีทาอาคารปีนี้กว่า 18,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2555 ประมาณ 20%
อย่างไรก็ตาม ถึงขณะนี้คาดว่าจะมียอดขายสีทาอาคารทั้งปีกว่า 17,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
ปัจจัยมาจากกำลังซื้อในต่างจังหวัดชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าขณะนี้เข้าสู่ช่วงปลายฤดูฝนต่อต้นฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูการขายของสีทาอาคารแล้ว แต่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ผู้บริโภคยังชะลอการตัดสินใจทาสีบ้านใหม่
"คาดว่ายอดขายสีทาอาคารสำหรับตลาดซ่อมแซมจะกลับมาดีขึ้นในปีหน้า เพราะโดยปกติการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมจะฟื้นตัวภายใน 3-6 เดือนหลังจากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ"
นายเกริกฤทธิ์ แสงทอง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าวว่า ปีนี้สภาพตลาดสีโดยรวมไม่ดีนัก อาจกล่าวได้ว่าภาพรวมไม่ดีด้วยกันทั้งหมด ภาพรวมตลาดสีทั้งหมดซึ่งรวมถึงสีอุตสาหกรรมมีมูลค่าตลาด 17,000 ล้านบาท ลดลงช่วงต้นปีที่บริษัทเคยประมาณการที่ 20,000 ล้านบาทช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมา กลุ่มเบเยอร์มีอัตราการเติบโตของยอดขาย 10% จากยอดขายปีก่อน 4,000 ล้านบาท ขณะที่
เป้าหมายตั้งไว้ 25% มองว่าสาเหตุที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าเป็นผลมาจากหนี้สินต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 70-80% ของจีดีพี ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้เงินและชะลอการซ่อมแซมบ้าน
นายศราวุฒิ รัชนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.บี.พี. อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ส จำกัด ผู้ผลิตสีทาอาคาร เจ.บี.พี. เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดปีนี้ลดลงไปพอสมควร เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคในตลาดรีเพนต์บ้านเก่าหดตัว เป็นผลกระทบจากภาระค่าใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ ทั้งการจับจ่ายเกี่ยวกับปัจจัยสี่ และหนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากนโยบายรถคันแรก
ขณะที่ผู้บริโภคจะมองเรื่องการทาสีบ้านเพื่อการซ่อมแซมเป็นลำดับสุดท้าย หากยังไม่มีความจำเป็นก็จะชะลอออกไปก่อน
สำหรับยอดขายของ เจ.บี.พี.ในปีนี้ไม่ดีนัก ชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี เพิ่งมาฟื้นตัวหลังน้ำท่วมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดปี 2556 คาดว่า เจ.บี.พี.จะมียอดขายต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้เดิมคือ 1,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตไม่ถึง 5% ตามที่คาดการณ์ไว้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-11-2556
|
|
|
|
|
