Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ถอดรหัสรับสร้างบ้านปี"57 แรงงานขาด-การเมืองหลอน กระทบชิ่งตลาด...โตทรงตัว |
|
ตลาดรับสร้างบ้านปี"56 เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือน ถือเป็นปีที่ภาพรวมตลาดค่อนข้างผันผวน เพราะช่วงไตรมาส 1-2 บรรยากาศโดยรวมยังดูดี แต่ไตรมาส 3 ถึงปัจจุบันได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและม็อบต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขณะที่ "แรงงานก่อสร้างขาดแคลน" ยังคงเป็นปัญหาใหญ่
ล่าสุด "THBA-สมาคมไทยรับสร้างบ้าน" จัดสัมมนาหัวข้อ "ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 2557 Market @ Change Building" เพื่อวิเคราะห์ทิศทางและการปรับตัวของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านในปีหน้า
ชี้ปีหน้าตลาดไม่โต
แนวโน้มตลาดช่วง 2 เดือนสุดท้าย สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเหตุวุ่นวายทางการเมือง ขณะนี้พบว่าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลบางจังหวัดลูกค้าเริ่มชะลอการตัดสินใจ
"พี่ป๋อง-สิทธิพร สุวรรณสุต" ซีอีโอศูนย์แฟรนไชส์รับสร้างบ้าน "พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น" และนายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ถึงแม้ไม่ได้ขึ้นเวทีสัมมนาในฐานะวิทยากร แต่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มตลาดปี"57 ว่า...มีโอกาสจะไม่เติบโตขึ้นจากประมาณการมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านทั่วประเทศปีนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยมาจาก 2 ส่วนคือ 1) แรงงานขาดแคลนกดดันให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขยายงานได้ 2) ปัญหาการเมือง หากการชุมนุมยืดเยื้อและมีประเด็นความขัดแย้งใหม่ ๆ จะกระทบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้ที่คิดจะสร้างบ้าน
นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่น่าห่วงคือ "ราคาวัสดุ" ที่มีผลมาจากต้นทุนค่าขนส่งสินค้าปรับสูงขึ้น อาทิ คอนกรีตผสมเสร็จซีแพค คาดว่าปีหน้าทั้งปีราคาจะปรับขึ้นอีก 7-8%, อิฐมวลเบาคาดว่าจะปรับขึ้น 4-5%, สุขภัณฑ์คาดว่าปรับขึ้นอย่างน้อย 3% ฯลฯ กระทบถึงผู้ประกอบการต้องปรับราคาบ้าน ยิ่งทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง
รับสร้างบ้านต้องปรับตัว
ขณะที่ "สุธี เกตุศิริ" เอ็มดีกลุ่มบริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด วิเคราะห์แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านปี"57 คาดว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ปัจจัยภายในประเทศอย่างการเมืองอาจมีผลกระทบในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลบ้าง
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯและปริมณฑลน่าจะกลับมาเติบโตได้เท่ากับปี"55 ส่วนตลาดต่างจังหวัดมีแนวโน้มเติบโตดี ในอนาคตบริษัทรับสร้างบ้านจะหันมาใช้ระบบสำเร็จรูปในการก่อสร้าง
มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะการใช้ "เสา-คาน" สำเร็จรูป ส่วนผนังสำเร็จรูปยังมีข้อจำกัดในการใช้ร่วมกับธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่บ้าง เพราะลูกค้าต้องการแบบบ้านที่มีเอกลักษณ์และต่อเติมได้ ขณะเดียวกันมีข้อจำกัดการขนส่งชิ้นส่วนเข้าไซต์ก่อสร้าง
"อนาคตเทรนด์ระบบก่อสร้างแบบสำเร็จรูปจะมาแทนการก่ออิฐฉาบปูน อาจไม่ถึงกับใช้สร้างบ้านทั้งหลัง แต่วัสดุสำเร็จรูปจะมีบทบาทมากขึ้น เช่น ใช้พื้นไม้ลามิเนตแทนไม้ปาร์เกต์ เพราะใช้แรงงานน้อยกว่า ช่วยประหยัดต้นทุนเวลาได้มากกว่า ฯลฯ คาดว่า 3-5 ปีข้างหน้าผู้บริโภคจะยอมรับไปเอง"
เสา-คานสำเร็จรูปเหมาะสุด
ส่วน "ชัยณรงค์ วิวัฒนากุล" ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด "พรอสเพอริตี้" ผู้ผลิตเสา-คาน-ผนัง-แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปรายใหญ่ชี้ว่า ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปที่เหมาะกับบริษัทรับสร้างบ้านซึ่งลูกค้าปรับเปลี่ยนแบบได้บ้างน่าจะเป็น "เสา-คาน" สำเร็จรูป เพราะลูกค้าปรับเปลี่ยนตำแหน่งห้องได้ แต่มีข้อแม้ว่าขนาดความกว้าง-ยาวของสแปนเสาต้องเท่าเดิม เนื่องจากถูกวัดและสั่งผลิตล่วงหน้ามาจากโรงงานแล้ว
ส่วนระบบ "ผนังสำเร็จรูป" ปัจจุบันลูกค้าเป็นบริษัทพัฒนาที่ดิน อาทิ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์, บมจ.ปริญสิริ ฯลฯ แต่ถ้าเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่จะใช้ผนังสำเร็จรูปต้องยอมรับว่าการต่อเติมภายหลังเป็นเรื่องยาก
จึงต้องแจ้งลูกค้า...เลือกฟังก์ชั่นเผื่ออนาคตไม่ต่อเติมดีที่สุด ! |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 22-11-2556
|
|
|
|
|