|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| แกะรอย...ไต้หวันโมเดล ไฮสปีดเทรน 345 กิโลเมตร เอกชนร่วมทุน-พัฒนารอบสถานี 50 ปี |
|
ยังเป็นหนึ่งในประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แม้ถูกม็อบการเมืองกลบกระแสไปบ้าง สำหรับโครงการการก่อสร้าง "ไฮสปีดเทรน-รถไฟความเร็วสูง" 4 สาย ใช้งบฯ 8 แสนล้านบาท จาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ท่ามกลางคำถามว่าประเทศไทยควรมีไฮสปีดเทรนหรือยัง ? เมื่อเร็ว ๆ นี้ "สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร" นำทีมโดยคีย์แมน
"ดร.จุฬา สุขมานพ" ผู้อำนวยการ สนข. จัดทริปนำทีมบริษัทที่ปรึกษา+สื่อมวลชนกว่า 40 ชีวิต บินลัดฟ้าศึกษาดูงานที่ไต้หวัน เหตุผลตรงไปตรงมา เลือกไต้หวันเพราะมีประชากรประมาณ 23 ล้านคน น้อยกว่าไทย แต่...ทำไมสร้างไฮสปีดเทรน ก่อนหน้านี้ไต้หวันเป็นประเทศที่ไม่มีเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงเหมือนไทย และเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน
เพิ่งเปิดใช้ ม.ค. 2550
รถไฟความเร็วสูงไต้หวันเพิ่งเปิดให้บริการครั้งแรก 5 มกราคม 2550 ปัจจุบันมี 8 สถานี วิ่งให้บริการสัปดาห์ละ 927 เที่ยวจากเหนือจดใต้ นับจากสถานี "ไทเป" ถึงสถานี "ซูหยิง" ข้ามแม่น้ำ 25 สาย ทะลุภูเขา 42 จุด ระยะทางรวม 345 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางตลอดสายประมาณ 90 นาที (รถไฟปกติ 5 ชม.) กำลังมีโครงการก่อสร้างสถานีเพิ่มอีก 4 สถานีรวมเป็น 12 สถานี
ไต้หวันถือเป็นประเทศแรกในโลกที่ลงทุนไฮสปีดเทรนแบบ "PPP-Public Private Partnership" ตั้งแต่เริ่มต้น โดยเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน 100% แทนที่จะเป็นภาครัฐลงทุนเอง แบ่งสัมปทานเป็น 2 ส่วน
คือ 1.สัมปทานสถานีและการเดินรถ 35 ปี
2.สัมปทานการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟฟ้านาน 50 ปี
การดำเนินงานอยู่ภายใต้บริษัท THSRC-TAIWAN HIGH SPEED RAIL CORPORATION หรือ "ไต้หวัน ไฮสปีด เรล คอร์ปอเรชั่น" มี "โอว จิ้น เต๋อ" เป็นซีอีโอ
แต่เนื่องจากโครงการใช้เงินลงทุนสูง 4.5 แสนนิวดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท ประกอบกับเป็นช่วงอเมริกาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลไต้หวันจึงยื่นมือช่วยด้วยการร่วมถือหุ้นประมาณ 23%
ไฮสปีดเทรนไต้หวัน แรกเริ่มเดิมทีจะใช้ระบบรถจากยุโรปคือฝรั่งเศสหรือเยอรมนี แต่ภายหลังเมื่อรัฐบาลเข้ามาถือหุ้นได้ดีลรถไฟ "ชินคันเซน" ประเทศญี่ปุ่น วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
มาถูกทาง...สร้างเมืองรอบสถานี
ทางด้านการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานี จุดที่บริษัทไต้หวัน ไฮสปีด เรลฯพาไปชมคือ สถานี "ไทจุง-Taichung" ฮับทางตอนกลางของประเทศตัวสถานีไทจุงเป็นอาคาร 3 ชั้น มีพื้นที่รวม 1.1 แสนตารางเมตร ชั้น 2 เป็นพื้นทีให้เช่ามีร้านค้า
อาทิ ร้านสตาร์บัคส์ ร้านอาหาร ฯลฯ ขั้น 3 เป็นชานชาลา ส่วนการพัฒนาพื้นที่รอบสถานี บริษัทได้สัมปทานที่ดินรอบสถานี 18 เฮกตาร์ หรือ 112.5 ไร่ ปัจจุบันเริ่มมีคอนโดมิเนียม ตึกแถวเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไต้หวัน ไฮสปีด เรลฯ ได้วางโมเดลการพัฒนาเมืองรอบสถานีไทจุง โดยเพิ่มโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โรงแรม กาสิโน อยู่ระหว่างเจรจากับเอกชนที่สนใจ นอกจากนี้ มี 2 สถานีชินจู-Hsinchu และเถาหยวน-Taoyuan ซึ่งอยู่ระหว่างตอนเหนือและตอนกลางของประเทศที่มีเอกชนเข้ามาพัฒนาที่ดินรอบสถานีพอสมควร
ผู้โดยสารแตะ 44 ล้านคน
ข้อมูลเชิงสถิติพบว่า หลังจากเปิดบริการไฮสปีดเทรนแล้ว จำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปี 2550 มีจำนวน 15.55 ล้านคน, ปี 2551 จำนวน 30.58 ล้านคน, ปี 2552 จำนวน 32.34 ล้านคน, ปี 2553 จำนวน 36.94 ล้านคน, ปี 2554 จำนวน 41.62 ล้านคน, ปี 2555 จำนวน 44.52 ล้านคน และ ปี 2556 ช่วง 9 เดือนแรกจำนวน 35.72 ล้านคน
สิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากมีไฮสปีดเทรนคือ เที่ยวบินโดยสารในประเทศลดลงมาก การใช้รถขนส่งลดลง แต่จำนวนคนเดินทางโดยรวมเพิ่มขึ้น ผลดำเนินการ 3 ปีแรก ผู้บริหารไต้หวัน ไฮ สปีด เรลฯ ยอมรับว่ายังขาดทุนสูง อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปผลขาดทุนเริ่มลดลง โครงสร้างรายได้ปัจจุบันมาจากค่าโดยสารเฉลี่ย 50-60% กับค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ 40-50%
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารต่อปียังต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ 1.4 เท่า ดังนั้นบริษัทคาดว่าตั้งแต่ปีที่ 20 เป็นต้นไปบริษัทจึงเริ่มมีกำไร จึงเตรียมเจรจากับรัฐบาลไต้หวันเพื่อขยายอายุสัมปทานสถานีและการวิ่งรถจาก 35 ปี เพิ่มเป็นอย่างน้อย 50 ปี
ส่วนคำแนะนำถึงรัฐบาลไทยที่กำลังจะลงทุนไฮสปีดเทรน "ซีอีโอไต้หวัน ไฮสปีด เรลฯ" ระบุว่า เห็นด้วยหากรัฐบาลไทยจะลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง เพราะช่วยลดการใช้พลังงานและต้นทุนขนส่งสินค้า
คำแนะนำคือ ควรต้องวางแผนศึกษาให้ครบทุกองค์ประกอบ ที่สำคัญต้องวางแผนพัฒนาเมืองรอบสถานีไว้ล่วงหน้า เนื่องจากจะต้องใช้งานไปอีกเป็น 100 ปี |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 21-11-2556
|
|
|
|
|
