|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส เอ็มดีหญิง ธอส. ย้ำเจ้าตลาดสินเชื่อบ้านรายย่อย |
|
นับเป็นการปรากฏตัวแบบทางการในรอบหลายเดือนของ "อังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส" เอ็มดีหญิงคนแรกของ ธอส.-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภายในงานแถลงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แน่นอนว่าไฮไลต์ของงานหนีไม่พ้นการชี้แจงผลการดำเนินงาน และแผนเชิงรุกที่นำพา ธอส.รักษาตำแหน่งเจ้าตลาดสินเชื่อบ้านรายย่อยต่อไป หลังจากแบงก์เอกชนอย่างธนาคารไทยพาณิชย์เริ่มหายใจรดต้นคอ
"อังคณา" เปิดประเด็นด้วยผลงาน ธอส. 6 เดือนแรกว่า มียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 57,661 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 661 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.6%
ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างมีจำนวน 721,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่ผ่านมา 15,004 ล้านบาท ส่งผลให้ทำกำไรสุทธิครึ่งปีแรกได้ 3,717 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 335 ล้านบาท โดยสรุปถือว่า ธอส.ทำผลการดำเนินงานได้ดีขึ้น แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในระดับไปได้เรื่อย ๆ ไม่ได้เติบโตหวือหวา
อย่างไรก็ตาม โจทย์ในช่วงครึ่งปีหลังคือ การลดปริมาณเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นจาก 7.71% เป็น 8.34% หรือเพิ่มขึ้น 4,794 ล้านบาท เป็นผลมาจาก ธอส.ปรับปรุงเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ใหม่ตามความเห็นของ
ผู้ตรวจธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดดูไส้ในไม่ได้มาจากหนี้เสียลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้จะต้องลดระดับเอ็นพีแอลลงเหลือ 6.35%
"เดิมสิ่งที่ ธอส.ปฏิบัติมาคือ หากเป็นลูกหนี้ผ่อนไม่ตรง แต่มาทำตามแนวทางประนอมหนี้ และถ้าผ่อนชำระตรงตามเวลาติดต่อกัน 3 งวดจะถูกปลดจาก
ลูกหนี้เอ็นพีแอลเป็นพีแอล (ลูกหนี้ปกติ) แต่คอมเมนต์ของผู้ตรวจแบงก์ชาติชุดล่าสุดระบุว่า นอกจากผ่อนชำระติดต่อกัน 3 งวด ลูกหนี้จะต้องชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระทั้งหมดก่อนด้วย ทำให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ยังเป็นเอ็นพีแอลต่อไป
เมื่อถามถึงเป้าหมายผลการดำเนินงาน เอ็มดีหญิง ธอส.ตอบคำถามด้วยสีหน้ามั่นใจว่า ช่วง 4 เดือนที่เหลือ ธอส.จะทำยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ทั้งปีได้ตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 120,000 ล้านบาทแน่นอน
โดยนับจากนี้ถึงสิ้นปีได้วางแผนเชิงรุกในการออกแคมเปญสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายย่อยเด็ด ๆ ต่อเนื่อง แคมเปญแรกคือ...สินเชื่อปรับปรุง/ต่อเติม/ซ่อมแซมบ้าน ในวาระครบรอบ 60 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย)
รายละเอียดคร่าว ๆ จะให้วงเงินกู้รายละ 1-3 แสนบาท ผ่อนชำระแสนละ 1 พันบาท นาน 10 ปี ซึ่งได้เตรียมวงเงินปล่อยกู้ไว้ 10,000 ล้านบาท จะเปิดตัวในงาน "มหกรรม ธอส. 60 ปี มีบ้านมีสุข" กำหนดจัด 27-29 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ภายในงานมีแคมเปญที่น่าสนใจ ทั้งสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ทรัพย์เอ็นพีเอราคาพิเศษ โซนผู้ประกอบการอสังหาฯอีก 60 ราย นำเสนอโครงการในราคาโปรโมชั่น รวมถึงมีโซนสินค้าโอท็อป 5 ดาวที่เกี่ยวกับบ้านมานำเสนอด้วย
"ช่วง 3-4 เดือนที่เหลือจะมีแคมเปญออกมาต่อเนื่องแน่นอน ขอให้อดใจรอดู และมั่นใจว่าเรายังคงเป็นธนาคารอันดับ 1 ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย"
"อังคณา" บอกว่า ธอส.ยังคงมุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง อัตราการปฏิเสธสินเชื่อหรือกู้ไม่ผ่านยังไม่เปลี่ยนแปลง เฉลี่ยทรงตัวอยู่ในระดับไม่เกิน 10%
ส่วนเกณฑ์พิจารณาสินเชื่อ ย้ำว่า ธอส.ไม่มีความจำเป็นต้องปรับเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้เข้มข้นขึ้น เพราะที่ผ่านมาปล่อยสินเชื่อด้วยความรัดกุมอยู่แล้ว จะกู้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถในการผ่อนชำระ และเมื่อปล่อยกู้ก็จะเข้าไปติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด
โดยกลุ่มลูกค้าที่รายได้น้อยถึงปานกลางเป็นที่ซื้อที่อยู่เพื่ออยู่จริง ไม่มีเก็งกำไร ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นผิดปกติ ส่วนเรื่องมาตรการสินเชื่อบ้านหลังแรกที่ปิดโครงการไปแล้ว มียอดปล่อยสินเชื่อกว่า 10,000 ราย คิดเป็นวงเงินปล่อยสินเชื่อประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละ 800,000-900,000 บาท ถึงแม้ขณะนี้เศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอตัว แต่ ธอส.ยังไม่มีนโยบายเสนอมาตรการสินเชื่อบ้านหลังแรกกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่เรื่องฟองสบู่อสังหาฯที่ร้อนแรงและถูกพูดถึงกันมากช่วงก่อนหน้านี้ คงต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องภาวะ "ฟองสบู่" และ "โอเวอร์ซัพพลาย"
สำหรับภาวะฟองสบู่อสังหาฯ ขณะนี้ยังไม่มี ส่วนโอเวอร์ซัพพลายต้องยอมรับมีเกิดขึ้นจริงในบางพื้นที่ ด้านการเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายขณะนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วง เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ชะลอการเปิดโครงการใหม่นับตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา
ส่วนในภูมิภาคมีโอเวอร์ซัพพลายเป็นบางจังหวัด แต่ขณะนี้ผู้ประกอบการเริ่มเห็นและปรับตัว โดยขยายการลงทุนไปยังจังหวัดอื่น ๆ ที่เป็นหัวเมืองรองลงมา
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ธอส.ยังคงมั่นใจว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-09-2556
|
|
|
|
|
