|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| SCGส่ายหน้าก.อุตฯหนุนแร่ ใยหิน มั่นใจสินค้ากรีนโปรดักต์ผู้บริโภคตอบรับมากกว่า |
|
"เอสซีจี" ไม่หวั่นเสียเปรียบทางธุรกิจคู่แข่ง หลังกระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมชง ครม.ยืดอายุการใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิต โอดยอมแบกต้นทุนเพิ่มเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่ดีต่อสุขภาพ มั่นใจเดินมาถูกทางเพราะเทรนด์ผู้บริโภคหันมาใช้สินค้ากรีนโปรดักต์เพิ่มต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ตามที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้ให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการห้ามนำเข้า แร่ใยหินไครโซไทล์และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน และห้ามผลิตสินค้าที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์กรณีที่สินค้านั้นมี วัตถุดิบอย่างอื่นทดแทนได้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาแล้วพบว่า หากดำเนินการห้ามนำเข้าและห้ามผลิตสินค้าที่มีแร่ใยหินเป็นวัตถุดิบ ด้านการกำหนดให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามให้มีการผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในหลายภาคส่วน เนื่องจากบางอุตสาหกรรมมีความจำเป็นที่ต้องใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบสำคัญใน การผลิต รวมทั้งอาจเกิดปัญหาการจัดการผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ และอาจนำไปสู่การฟ้องร้องตาม พ.ร.บ.ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากสินค้าไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2554 ได้
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้ว่าจ้างคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทำการศึกษาผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ สังคม และข้อกฎหมายในการเลิกใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยได้ข้อสรุปที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าควรกำหนดระยะเวลาในการยกเลิก การนำเข้า ผลิตและจำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็น
ส่วนประกอบ จำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) กระเบื้องแผ่นเรียบ มีระยะเวลาในการยกเลิก 2 ปี 2) กระเบื้องยางปูพื้น ระยะเวลายกเลิก 2 ปี 3) ผ้าเบรกและคลัตช์ ระยะเวลายกเลิก 5 ปี 4) ท่อซีเมนต์ใยหิน ระยะเวลายกเลิก 5 ปี และ 5) กระเบื้องมุงหลังคา ระยะเวลายกเลิก 5 ปี
นายสราวุฒิ สำราญทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ-มาร์เก็ตติ่ง เฮ้าส์ซิ่ง บิซิเนส ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ผู้ผลิตกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ "ตราช้าง" เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ครม.ให้มีการยกเลิกการใช้แร่ใยหินในกระบวนการผลิตกระเบื้องมุงหลังคาออกไป อีก 5 ปีนั้น ในเรื่องนี้ตนไม่อยากจะวิจารณ์มากนัก เพราะเป็นเรื่องที่อ่อนไหวและอาจมีผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน
ส่วนตัวมอง ว่าสิ่งที่ภาครัฐมีมติออกมาแบบนั้นมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของ บริษัทอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าบริษัทจะต้องแบกรับต้นทุนที่สูงกว่าค่ายที่ผลิตกระเบื้องมุงหลังคา ที่มีแร่ใยหินเป็นวัตถุดิบประมาณ 10-15% แต่เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อชีวิตในระยะยาว บริษัทพร้อมที่จะแบกรับต้นทุนในส่วนนี้
"อย่าไปมองว่าเราจะเสีย เปรียบในเชิงธุรกิจ อยากให้มองประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับคืออะไรมากกว่า ผมไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มากนัก ที่ผ่านมาเราสู้กับตลาดนี้มาระยะหนึ่งทำให้เห็นเทรนด์ผู้บริโภคว่ามีความ ต้องการสินค้าที่ปลอดภัยกับสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ และได้ตัดสินใจเปลี่ยนการผลิตเป็นสินค้าที่ปลอดแร่ใยหิน 100% มาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว" นายสราวุฒิกล่าว
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-07-2556
|
|
|
|
|
