|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เมกะดีลเลอร์ผู้นำเข้ากระเบื้อง-ชักโครกโวย ค้านบังคับติดฉลาก"มอก."-หวั่นผู้บริโภคถูกบีบให้ซื้อของแพง |
|
ผู้นำเข้าสินค้ากระเบื้องเซรามิก-โถส้วมนั่งราบ 56 รายล่ารายชื่อส่งหนังสือคัดค้านกระทรวงอุตฯ บังคับใช้ฉลาก "มอก." โวยแหลกมีสินค้าต้องส่งตรวจสอบถึง 681 รายการ เทียบกับศักยภาพห้องแล็บ-เจ้าหน้าที่ตรวจโรงงานต้องใช้เวลาถึง 10 ปีเต็ม ขณะที่กฎหมายให้เวลาแค่ 120-180 วัน วงในเผยเป็นเกมบล็อกสินค้านำเข้าของผู้ผลิตในประเทศ ชี้ผู้บริโภคปลายทางกระทบแน่ หากขั้นตอนขออนุญาตล่าช้า สินค้าขาดตลาด ถูกบีบทางอ้อมให้ซื้อของแพง แจงตัวเลขสินค้านำเข้าโถสุขภัณฑ์พันกว่าบาท เทียบของผลิตในประเทศเฉลี่ย 4-5 พันบาทเท่านั้น
แหล่งข่าวจากผู้นำเข้าสุขภัณฑ์ส้วมนั่งราบและกระเบื้องเซรามิก เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลจากนโยบายของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ในการบังคับใช้ฉลากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ "มอก." ในสินค้า 2 ประเภท คือ โถส้วมนั่งราบ หรือโถสุขภัณฑ์ชักโครก และกระเบื้องเซรามิก ล่าสุดอยู่ระหว่างเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
ปรากฏว่ากำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการผู้ผลิตและผู้นำเข้าในประเทศ เพราะมีแนวโน้มว่าฉลาก มอก.ทั้ง 2 ประเภทนี้จะเป็นตัวการทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น รวมทั้งมีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดภาวะสินค้าขาดตลาด ซึ่งจะกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง ดังนั้น จึงได้ร่วมลงชื่อส่งหนังสือถึงเลขาธิการ สมอ. เพื่อขอให้ทบทวนการบังคับใช้ออกไปก่อน
ยกระดับฉลาก "มอก.ภาคบังคับ"
รายละเอียด มอก.792-2554 สำหรับเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบ และ มอก.2508-2555 สำหรับกระเบื้องเซรามิก เดิมเป็นฉลากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประเภททั่วไป หรือที่เรียกว่า "มอก.ทั่วไป" ผู้ผลิต-ผู้จัดจำหน่ายไม่จำเป็นต้องขอออกฉลากก็ได้ ต่อมามีนโยบายจะยกระดับให้เป็นภาคบังคับ หรือที่เรียกว่า "มอก.บังคับ" หมายความว่า สินค้าที่อยู่ในข่าย มอก.บังคับจะต้องขออนุญาตใช้ฉลาก มอก.ทั้ง 2 ประเภท เพื่อให้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมาย
ทั้งนี้ ผลของการติดฉลาก มอก. บังคับในเชิงนโยบายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศให้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนด อย่างไรก็ตาม ปัญหาของผู้ประกอบการคือเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ในเมืองไทย ไม่เคยมีการบังคับมาก่อน ดังนั้น เมื่อยกระดับเป็น มอก.ภาคบังคับสินค้าโถส้วมนั่งราบกับกระเบื้องเซรามิก มีผลทำให้ผู้ผลิตและ
ผู้จัดจำหน่ายหรือผู้นำเข้าทุกรายจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตใช้ฉลาก มอก.ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
นำเข้าทะลัก 681 รายการ
แหล่งข่าวกล่าวว่า สภาพปัญหาคือผู้ผลิตสินค้าในประเทศแทบจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศ และส่วนใหญ่มีห้องทดสอบคุณภาพสินค้า หรือ Lab Test เป็นของตนเอง ขณะที่ผู้นำเข้าสินค้าจะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะขั้นตอนการขอฉลากนั้นมีองค์ประกอบการตรวจสอบโรงงานด้วย ซึ่งโรงงานทั้งหมดตั้งอยู่ในต่างประเทศ ในขณะที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาว่าจะต้องติดฉลากภายใน 120 วันหลังจากประกาศในราชกิจจาฯ
ทางผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าทั้ง 2 ประเภท ได้มีการรวมตัวกัน และรวบรวมสถิติ พบว่าเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนเพียงประเทศเดียวจะมีผลกระทบดังนี้ 1.รายการกระเบื้องเซรามิก มีจำนวนผู้นำเข้า 36 ราย จำนวนโรงงานที่ผลิต 190 โรงงาน มีจำนวนสินค้าที่ต้องส่งตรวจสอบ 483 รายการ 2.รายการโถส้วมนั่งราบ มีผู้นำเข้า 20 ราย จากจำนวน 29 โรงงาน มีตัวอย่างสินค้าที่ต้องส่งตรวจสอบ 198 รายการ
"จากการตรวจสอบขั้นตอนและกระบวนการขออนุญาตติดฉลาก มอก. พบว่าผู้นำเข้าประสบปัญหาส่งสินค้าตรวจสอบ อาทิ ห้องทดสอบ หรือ Lab Test ไม่เพียงพอ ปัญหาความล่าช้าในการตรวจสอบ และค่าใช้จ่ายในการทดสอบที่สูงมาก เป็นต้น ทั้งหมดนี้จะมีผลโดยตรงต่อการออกใบอนุญาตของ สมอ."
ตะลึง คิวตรวจใช้เวลา 10 ปี
สำหรับข้อเสนอแนะของกลุ่มผู้นำเข้า มีดังนี้ 1.ขอให้ สมอ.เพิ่มจำนวนห้องทดสอบ คำนวณเฉพาะการนำเข้าสินค้าจากจีนเพียงประเทศเดียว พบว่าต้องมีห้องทดสอบรองรับในกลุ่มสินค้ากระเบื้อง 12 แล็บ และสินค้าโถส้วมนั่งราบ 42 แล็บ เนื่องจากปัจจุบันเพิ่งจะมีห้องทดสอบสำหรับสินค้าโถส้วมนั่งราบเพียงแห่งเดียว คือ กรมวิทยาศาสตร์บริการ ซึ่งไม่เพียงพออย่างแน่นอน
2.ขอให้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ สมอ. หรือหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบโรงงาน มีการคำนวณแล้วว่า หากนำเข้าเฉพาะสินค้าจากจีนเพียงประเทศเดียว จะต้องใช้
เจ้าหน้าที่ตรวจโรงงานในกลุ่มสินค้ากระเบื้อง 167 คน และสินค้าโถส้วมนั่งราบ 51 คน
3.เมื่อคำนวณศักยภาพของห้องทดสอบ, จำนวนเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานอิสระ และรายการตัวอย่างสินค้าที่จะต้องส่งตรวจสอบในปัจจุบัน พบว่าหากจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด จะต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบสินค้านานมาก แบ่งเป็นโถส้วมนั่งราบ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3,965 วัน และกระเบื้องเซรามิก ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2,779 วัน ดังนั้น หากจะต้องบังคับใช้ตามกฎหมายขึ้นมาจริง ๆ จำเป็นจะต้องทบทวน
เรื่องเวลา เพราะคงไม่สามารถปฏิบัติตามเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ทำภายใน 120 วันได้
ขอความชัดเจน "เวลา-ค่าบริการ"
4.ขอให้ สมอ.กำหนดเวลาที่ชัดเจนในการออกใบอนุญาตฉลาก มอก.ว่า จะสามารถออกใบอนุญาตได้ภายในกี่วันหลังจากวันที่ยื่นคำขอ หากผลการตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตและห้องทดสอบผ่านหมดแล้ว และ 5.ขอให้ดูแลเรื่องอัตราค่าบริการในการตรวจสอบโรงงานของหน่วยงานอิสระ เนื่องจากค่าบริการของเอกชนสูงกว่ามาก
"ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ กลุ่มผู้นำเข้าไม่ได้ปฏิเสธกฎหมายที่จะบังคับให้ติดฉลาก มอก. แต่สิ่งที่เป็นกังวลคือศักยภาพของรัฐที่จะรองรับการออกใบอนุญาตฉลาก มอก.มีไม่เพียงพอต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้า สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือ ถ้าหากสินค้านำเข้าถูกบล็อกด้วยขั้นตอนออกฉลาก มอก.ที่ล่าช้า อาจจะมีผลทำให้สินค้าขาดตลาดบางช่วง ซึ่งจุดเด่นของสินค้านำเข้าคือมีหลายระดับราคา เช่น โถสุขภัณฑ์เริ่มต้นลูกละ 1,000 กว่าบาท แต่ถ้าขาดตลาดไปผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าของผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งมีราคาแพงกว่า เริ่มต้นเฉลี่ยก็ 4,000-5,000 บาทแล้ว" แหล่งข่าวกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-04-2556
|
|
|
|
|
