Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"เคแลนด์" ไมเนอร์เชนจ์โครงการ ยึดที่มั่นบ้านตลาดกลาง-ไฮเอนด์ ตุนคน-แลนด์แบงก์ โตก้าวกระโดด |
|
ถือเป็นปีที่ท้าทายของ "เคแลนด์-บมจ.กรุงเทพบ้านและที่ดิน" บริษัทพัฒนาที่ดินนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ (จดทะเบียนแต่ยังไม่เข้าตลาด) เมื่อประกาศตัวว่าถึงเวลาจะต้องเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีเป้าหมายยอดขายและยอดรับรู้รายได้ในปี 5,300 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 130% และจะกลายเป็นบริษัทอสังหาฯนอกตลาดหลักทรัพย์ฯที่มียอดรับรู้รายได้อันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม
ล่าสุด "เสี่ยท้อด-ชวินธร คุณากรปรมัตถ์" รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจของเคแลนด์ ออกมาประกาศแผนการลงทุนปี"56 จะเปิดตัวโครงการใหม่ รวมมูลค่าโครงการถึง 1.18 หมื่นล้านบาท แยกเป็นโครงการใหม่แกะกล่อง 3 โครงการ โดยจะเป็นการเปิดบ้านเดี่ยวโซนใหม่ใน 5 โครงการเดิม ถือว่าไม่น้อยสำหรับบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ปีที่ผ่านมา "เคแลนด์" ทยอยซื้อที่ดิน "ที่ดิน" และเพิ่ม "คน" มาตลอด เตรียมตัวไว้รองรับการเติบโตแบบแรง ๆ
โดยใช้เงินซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 1,500 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มวิศวกรและเจ้าหน้าที่ประจำไซต์โครงการอีกประมาณ 40 คน ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานรวมประมาณ 200 ชีวิต "ตอนนี้เรามีทีมงานพร้อมรองรับการเปิดโครงการใหม่ไปได้อีก 2-3 ปี แต่ที่ดินใหม่ก็ยังมองหาเรื่อย ๆ ไม่ได้หยุดซื้อ"
ปูพรมโครงการใหม่
จากเป้าหมายเติบโตแบบก้าวกระโดด แผนธุรกิจเคแลนด์ปีนี้จะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ 1) "เดอะแกรนด์ อุดมสุข" เป็นบ้านเดี่ยว จำนวนประมาณ 150 ยูนิต ราคายูนิตละกว่า 10-20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ ประมาณ 1,800 ล้านบาท 2) "เดอะแกรนด์ ปิ่นเกล้า" ทำเลพุทธมณฑลสาย 3 เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 200-300 ราคายูนิตละกว่า 10-30 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 6 พันล้านบาท
และ 3) "TYME" เป็นทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่ในโซนรัตนาธิเบศร์ เนื้อที่ 20-30 ไร่ มูลค่าโครงการ ประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในไตรมาส 4/2556 หรืออย่างช้าไตรมาส 1/2557
ส่วนบ้านใหม่ 5 โซนที่จะเปิดตัวในโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขาย อาทิ บ้านเดี่ยวเฟสใหม่โซน "คอร์ดยาด" ในโครงการเดอะแกรนด์ พระรามที่ 2 จำนวน 89 ยูนิต ราคายูนิตละ 9-25 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท, บ้านเดี่ยวเฟสใหม่โซน "อินฟิเนีย" ในโครงการเดอะแกรนด์พระราม 2 ราคายูนิตละ 4-8 ล้านบาท จำนวนประมาณ 200 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท, บ้านเดี่ยวเฟสใหม่โซน "9" (ไนน์) ในโครงการเดอะแกรนด์พระราม 2 จำนวน 30 ยูนิต ราคายูนิตละ 5-8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ ประมาณ 200 ล้านบาท ฯลฯ
ทั้งหมดยังคงโฟกัสเซ็กเมนต์ที่ถนัด คือตลาดบ้านระดับ "กลาง" และ "ไฮเอนด์" เพราะมั่นใจว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีก็ยังมีกำลังซื้อต่อเนื่อง ประเด็นสำคัญ ในภาวะที่ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น หากราคาบ้านที่ปรับขึ้น 10% จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์น้อยกว่า
รีโมเดลบ้าน 360 องศา
สำหรับการเปลี่ยนแปลงเคแลนด์ปีนี้ไม่ได้มีแค่การขยายโครงการใหม่ ปีนี้เคแลนด์ได้ปรับโฉมแบบบ้านใหม่แบบ 360 องศา เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากบ้านในสไตล์ "ยูโรเปียน" สำหรับรุ่นใหม่จะเปลี่ยนเป็น "สไตล์โมเดิร์น" เน้นความทันสมัย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า "เสี่ยรุ่นใหม่" ที่มีอายุลดลง จากเดิมเฉลี่ย 30-59 ปี เปลี่ยนเป็นเฉลี่ย 30-49 ปี
ส่วนฟังก์ชั่นภายในสำหรับบ้านราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป จะมีฟังก์ชั่นสั่งการเปิดปิดระบบไฟด้วยรีโมต หรือเป็นระบบบ้านอัจฉริยะนั่นเอง
"การปรับโฉมบ้านครั้งนี้เกิดจากบริษัทพบว่าลูกค้าที่มาซื้อบ้านมีอายุลดลง เดี๋ยวนี้มีลูกค้าอายุน้อย ที่บ้านฐานะดี อายุเฉลี่ยกว่า 20-30 ปี ซื้อบ้านเร็วขึ้น และใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน บางรายดูบ้านครึ่งชั่วโมง ก็ซื้อแล้ว"
ยันเจ้าสัวเจริญยังไม่เปลี่ยนนโยบาย
ดูเหมือนว่าค่ายเคแลนด์ยิ่งนานยิ่งแข็งแกร่ง เพราะช่วงสั้น ๆ ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างในเคแลนด์ คือกรณี "เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี" เทกโอเวอร์กิจการกลุ่ม "F&N-เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ" ของสิงคโปร์ ซึ่งเดิมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในเคแลนด์สัดส่วนประมาณ 40.4% ส่งผลให้ "เจ้าสัวเจริญ" มีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่แทนกลุ่มเอฟแอนด์เอ็นโดยอัตโนมัติ
แต่ทว่าจนถึงขณะนี้ ผู้บริหารเคแลนด์ยืนยัน 100% ว่ายังไม่มีการเปลี่ยนในเชิงนโยบายการดำเนินธุรกิจ โดยยังคงพัฒนาโครงการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บนที่ถนัด
ส่วนกรณีที่มองว่าการดำเนินธุรกิจของเคแลนด์อาจจับกลุ่มลูกค้าทับซ้อนกับ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(โกลเด้นแลนด์) ที่ "เจ้าสัวเจริญ" เข้าเทกโอเวอร์กิจการเมื่อปีที่ผ่านมา "เสี่ยท้อด"แสดงความเชื่อมั่นว่าระหว่าง "เคแลนด์" กับ "โกลเด้นแลนด์" ใต้ชายคาเจ้าสัวเจริญเหมือนกัน และถึงแม้เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับกลาง-บนเหมือนกัน แต่ลึกลงรายละเอียดก็มีความแตกต่าง
โดยเคแลนด์มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบขายขาดกรรมสิทธิ์เป็นหลัก ขณะที่โกลเด้นแลนด์ในระยะหลังหันมาเน้นทำอสังหาฯให้เช่าจำพวกโรงแรมและออฟฟิศ เรียกว่าสร้างดาวคนละดวงกันอยู่แล้ว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-03-2556
|
|
|
|
|