|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เช็กดวงชะตา 3 เสือรับเหมาปีงูเล็ก "ITD" ขาขึ้น "ช.การช่าง-ซิโน-ไทยฯ" สปีดไม่ตก |
|
2556 ไม่ใช่เป็นปีแห่งการลงทุนของประเทศไทยด้วยเม็ดเงินมากมายมหาศาลเท่านั้น ยังเป็นปีทองของวงการรับเหมาก่อสร้างไทย ที่ว่ากันว่าสนามประมูลจะร้อนแรงที่สุดในรอบหลายปี จากปฏิบัติการชิงชัยเค้กประมูลก้อนโตที่เข้าแถวรอยาวตลอดทั้งปี มีทั้งรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง แผนบริหารจัดการน้ำ
แต่ถึงจะมีงานใหญ่ให้รอประมูลหลายโปรเจ็กต์ แต่ในวงการต่างรับรู้กันทั่วไปว่า...กระดานประมูลปีนี้ มีไม่กี่รายที่จะโกยงานไว้หน้าตัก เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา
"งานใหญ่ออกประมูลปีนี้ ประเมินจากเม็ดเงินต่อสัญญาประมูลที่มีมูลค่าสูง ฉะนั้นจะมีแค่รายใหญ่ ๆ เข้าประมูลและได้งาน อย่างที่รู้ ๆ กันก็มีอิตาเลียนไทย ช.การช่าง ซิโน-ไทยฯ และอาจจะมียูนิคเข้ามาแจมบ้าง ส่วนรายกลางและรายเล็กน่าจะได้แต่งานไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จากงบประมาณประจำปีที่แต่ละส่วนราชการออกประมูล ส่วนใหญ่เป็นงานสร้างถนน สะพานมากกว่า" แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
จุดเปลี่ยน "ITD"
จากการประเมินของคนในวงการ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โดดเด่นสุด ๆ ไม่พ้นพี่ใหญ่ "ITD-อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์" ของ "เสี่ยเปรมชัย กรรณสูต" เพราะความสัมพันธ์กับรัฐบาลเพื่อไทยนั้นไม่ธรรมดา
ที่ผ่านมาแม้ ITD เฟดตัวออกรับงานต่างประเทศไปหลายปี แถมต้องมาระทมกับโครงการทวายที่ได้รับสัมปทานลงทุน 75 ปีจากรัฐบาลเมียนมาร์ จนถึงวินาทีนี้ยังไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด เพราะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนหลายแสนล้านบาท
แต่พลันที่การเมืองเปลี่ยนขั้ว ชื่อนี้เริ่มกลับมาคึกคักบนสนามประมูลในประเทศอีกครั้ง ล่าสุดคว้างานวางรางสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) วงเงิน 3,585 ล้านบาท รอเซ็นงานสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) อีก 21,235 ล้านบาท รวมทั้งกำลังลุ้นประมูลสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) อีกร่วมแสนล้านบาท ยังไม่นับงานใหญ่อีกกว่า 3.5 แสนล้านบาทจากเค้กประมูลงานบริหารจัดการน้ำที่จะประกาศผลในเดือนเมษายนนี้
"ตอนนี้อิตาเลียนไทยกำลังเป็นเสือหิว อยากได้งานใหญ่มาชดเชยรายได้ที่ยังขาดทุนอยู่ เพราะโครงการทวายที่หวังไว้จะมาช่วยพลิกฟื้นบริษัทก็ยังไม่เข้าร่องเข้ารอย ยังหาคนมาร่วมทุนเฟสแรก 1 แสนล้านบาทไม่ได้ แม้ตอนนี้รัฐบาลเพื่อไทยจะพยายามดึงนักลงทุนทั่วโลกมาช่วยก็ตาม" แหล่งข่าวกล่าวย้ำ
ส่วนผลการดำเนินการในปี 2555 "เปรมชัย" ประเมินว่า จะรับรู้รายได้ที่ 54,000 ล้านบาท โตจากปี 2554 ประมาณ 20% มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) กว่า 2 แสนล้านบาท โดยปี 2556 นี้น่าจะมีงานเข้ามาอีกมาก ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว สีชมพู ทางคู่ และมอเตอร์เวย์
"ช.การช่าง" เรตติ้งไม่ตก
ทางฝั่ง "ช.การช่าง" ของ "เสี่ยปลิว ตรีวิศวเวทย์" ได้อานิสงส์จากงานใหญ่รถไฟฟ้าทั้ง "สีม่วง-น้ำเงิน-เขียว" และทางด่วนสายใหม่ (ศรีรัช-วงแหวนตะวันตก) ที่ตุนงานข้ามรัฐบาลจาก "รัฐบาลประชาธิปัตย์" มาถึง "รัฐบาลเพื่อไทย" สมัยบิ๊กโอ๋-พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ทำให้ผลประกอบการปีที่แล้วพุ่งพรวด มีงานในมือท่วมท้นกว่า 1.2 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบก่อตั้งบริษัท 40 ปี รับรู้รายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท และในปี 2556 คาดว่าแบ็กล็อกมีสิทธิ์แตะ 1.5 แสนล้านบาท และรายได้เกิน 2 หมื่นล้านบาท
แต่ถึงงานจะล้นมือ เมื่อบิ๊กกระทรวงคมนาคมเปลี่ยนเป็น "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ดูเหมือนอุณหภูมิ "ช.การช่าง" จะเริ่มแผ่ว เพราะ รมว.มือใหม่ผู้นี้ ไม่ค่อยปลื้มรับเหมาค่ายนี้เท่าไหร่เมื่อเทียบรัศมี "อิตาเลียนไทย" ที่คุ้นเคยกันมานานแล้ว
สัญญาณเริ่มเห็นชัดจาก "สัญญาเดินรถสายสีม่วง" 30 ปี กว่า 8 หมื่นล้านบาทที่กำลังรอลุ้นเซ็นสัญญาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว จนถึงขณะนี้ยังปิดดีลไม่ลง ตกค้างอยู่หน้าประตูห้อง "ครม.ปู 3" และส่อแววจะถูกตีกลับ เพราะมีเสียงออกจากปาก "ชัชชาติ" เงินลงทุนที่เสนอมายังแพงเมื่อเทียบกับราคาตลาดโลกแล้ว "ช.การช่าง ด้วยสไตล์กั๊ก ๆ แล้วเข้าได้กับทุกพรรคการเมือง น่าจะไม่ลำบากมากนักที่จะเข้าประมูลงาน เพราะงานใหญ่ ๆ ยังไงก็ต้องอาศัยบริษัทใหญ่มาสร้าง แต่ ช.การช่างอาจจะเหนื่อยหน่อยกว่าจะได้งาน" แหล่งข่าววงการรับเหมาวิเคราะห์ยูนิคแรงดีไม่มีตก
เช่นเดียวกับค่าย "ยูนิค" ของ "เสี่ยประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย" ที่ปีนี้จะไม่ตกขบวนแน่นอน เพราะไม่ว่าการเมืองขั้วไหน-พรรคไหน รับเหมาค่ายนี้ปรับตัวเข้าได้หมด ด้วยแรงหนุนจากบิ๊กและอดีตข้าราชการกระทรวงคมนาคม "กลุ่มก๊วนสุพรรณฯ-วิศวะจุฬาฯ" ที่ช่วยอัพเกรดและแทรกคิวให้ได้งานใหญ่ไปหลายโครงการไม่แพ้ขาใหญ่วงการ
จะเห็นได้ว่างานสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) วงเงิน 8,748 ล้านบาทที่สร้างเสร็จไปแบบทุลักทุเล ก็ได้สัญญาที่ 3 สายสีน้ำเงิน (ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) อีกกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดจับมือ "ซิโน-ไทยฯ" รับเหมาค่ายสีน้ำเงิน ธุรกิจของตระกูล "ชาญวีรกูล"ร่วมประมูลสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) และไม่ผิดหวังคว้าได้สัญญาที่ 1 งานสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง กว่า 2.9 หมื่นล้านบาทไปครองแบบไม่พลิกโผ
ไม่เพียงแค่นั้น...ชื่อนี้ยังข้ามห้วยติดโผ 1 ใน 8 บริษัทที่ตบเท้าชิงเค้กโปรเจ็กต์น้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ร่วมกับรับเหมาแดนปลาดิบ โดยเป็นคู่ท้าชิงกับ 2 บิ๊ก อย่าง "อิตาเลียนไทย" จับมือกับจีนและที่ปรึกษาชื่อดังปัญญาคอนซัลต์ และ "ช.การช่าง" ที่ผนึกกำลังกับทีมกรุ๊ปและรับเหมาทางอีก 7 รายในนาม "ทีมไทยแลนด์" แต่จะไปถึงเส้นชัยสำเร็จหรือไม่ยังต้องลุ้น เพราะงานนี้ทั้ง "เสี่ยเปรมชัย-เสี่ยปลิว" ออกตั๋วตีตราจองล่วงหน้าไว้แล้ว
"ซิโน-ไทยฯ" กินบุญเก่า
ฟาก "ซิโน-ไทยฯ" ของ "เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล" ถึงเจ้าของตัวจริงจะโลดแล่นอยู่ในสนามการเมือง สวมหัวโขนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ก็ไม่ได้หันหลังให้กับธุรกิจเสียทีเดียว ยังคอยเฝ้าระวังเป็นแบ็กอยู่ข้างหลัง ช่วงที่ "ภูมิใจไทย" ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่แปลกรับเหมาค่ายนี้กวาดงานใหญ่ไว้ในมือตุนแบ็กล็อกกว่า 6 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 50 ปีของบริษัท และเป็นยอดรับรู้รายได้ยาวไปถึงปี 2557 แบบสบาย ๆ นับจากปี 2555 ที่มียอดรับรู้รายได้ไปแล้ว 1.8-1.9 หมื่นล้านบาท ต่อเนื่องในปี 2556 คาดว่าอยู่ที่กว่า 2 หมื่นล้านบาท
"ถึงเราจะมีงานในมือมาก แต่ก็สนใจจะร่วมประมูลงานที่รัฐบาลกำลังจะออกมากว่า2.2 ล้านล้านบาทเช่นกัน ทั้รถไฟฟ้า ทางคู่ เราหวังจะได้งาน 30% ของงานเปิดประมูล" คำยืนยันของ "ภาคภูมิ ศรีชำนิ" เอ็มดีคนใหม่ของซิโน-ไทยฯ
และดูเหมือนความหวังของรับเหมาค่ายนี้เริ่มเรืองรอง แม้รัฐบาลจะเปลี่ยนขั้วเปลี่ยนสี เพราะตอนนี้ "เสี่ยหนู"
ยังไม่ละความพยายามเปิดเกมใต้ดินต่อคอนเน็กชั่นกับพรรคเพื่อไทย เพื่อต่อยอดการคงสถานะการเมืองและธุรกิจก่อสร้างของครอบครัวให้อยู่ได้อีกยาว ๆ ท่ามกลางการเมืองเสื้อหลากสี
ดูจากผลโหวตคะแนนที่ "พรรคภูมิใจไทย" เทคะแนนไว้วางใจให้ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ร่วม 31 เสียงผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างฉลุย สัญญาณการเมืองเริ่มต่อติด เพราะในเร็ว ๆ นี้ "ซิโน-ไทยฯ" จะได้เซ็นสัญญาที่ 1 สายสีแดงกว่า 2.9 หมื่นล้านบาทหลังจากดีเลย์มาร่วมปี
รวมถึงงานสัญญาอื่น ๆ ที่กำลังทยอยออกมา โดยเฉพาะงานก่อสร้างรัฐสภาใหม่ที่อาจจะมีโผพลิกวินาทีสุดท้าย จากเดิม "ซินเทค" กลายมาเป็นรับเหมาค่ายสีน้ำเงิน "ซิโน-ไทยฯ" เพราะตอนนี้ระดับบิ๊กอยู่ระหว่างเจรจาต่อรองจึงเป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าที่สุดแล้ว "การเมืองเรื่องผลประโยชน์" นั้นเป็นคนละเรื่องเดียวกันจริง ๆ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-01-2556
|
|
|
|
|
