| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 84 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 30-12-2555    อ่าน 1708
 ล้มกระดานบ้านคนจน ตัดสิทธิ์บีโอไอ-อ้างซัพพลายทะลัก ยักษ์จัดสรรทั่วประเทศดิ้น

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บีโอไออยู่ระหว่างปรับปรุงสิทธิประโยชน์และหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการส่งเสริมการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนในปัจจุบัน รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐมากขึ้น ในส่วนของกิจการที่อยู่ในข่ายจะยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี เพราะมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการลงทุนเพิ่มเติมอีก เนื่องจากเอกชนสนใจเข้ามาลงทุนเองอยู่แล้ว นอกจากกิจการประเภทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปลายน้ำแล้ว จากการหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปว่า โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง หรือการส่งเสริมการลงทุนโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯบีโอไอ ก็เป็นอีกกิจการหนึ่งที่อยู่ในข่ายจะยกเลิกให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี

สำหรับอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากนั้น ได้แก่ อุตสาหกรรมที่ไม่มีมูลค่าเพิ่มหรือมีมูลค่าเพิ่มน้อยมาก อุตฯที่มีความสามารถในการแข่งขันน้อยหรือไม่มีความสามารถในการแข่งขัน เช่น กิจการที่จำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ขณะเดียวกันจะหันไปส่งเสริมการลงทุนในอุตฯที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อุตฯที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง การวิจัยพัฒนา การลงทุนนวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดจนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลมีนโยบายจะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้

สำหรับเงื่อนไขในการส่งเสริมการลงทุนกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลางในปัจจุบัน คือ 1.ต้องจัดสร้างที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 50 หน่วยสำหรับทุกเขต 2.โครงการที่ตั้งในเขต 1 กรณีก่อสร้างอาคารชุดต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 28 ตร.ม. และจำหน่ายหน่วยละไม่เกิน 1 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) การก่อสร้างบ้านแถวหรือบ้านเดี่ยว ต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 70 ตร.ม. และจำหน่ายหน่วยละไม่เกิน 1.2 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) 3.โครงการที่ตั้งในเขต 2 และ 3 ต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 31 ตร.ม. ต้องจำหน่ายหน่วยละไม่เกิน 6 แสนบาท (รวมค่าที่ดิน) 4.แผนผังและแบบแปลนอาคารจะต้องได้รับความเห็นของจากคณะกรรมการบีโอไอ 5.จะต้องได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

นายอุดมกล่าวว่า ทิศทางการส่งเสริมการลงทุนจะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่มองว่าน่าจะเป็นอนาคตของประเทศ สำหรับกรณีบ้านและคอนโดฯบีโอไอ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐให้การสนับสนุนการลงทุนมาโดยตลอดนั้น ถึงจุดนี้มองว่าน่าจะหมดความจำเป็นแล้ว เห็นได้จากมีผู้ประกอบการลงทุนจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณซัพพลายที่ออกมามีจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดฯ แม้ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นจะเกิดปัญหาฟองสบู่ แต่ชี้ให้เห็นว่าแม้รัฐไม่ส่งเสริมการลงทุนก็มีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาทำตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมามีโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯได้รับการส่งเสริมการลงทุนจำนวนมาก ในจำนวนนี้ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตลาดบ้านระดับล่าง และในอดีตเป็นผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินที่มีโครงการบ้านและคอนโดฯที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด ก่อนขยายไลน์ธุรกิจเจาะกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ในปัจจุบัน ขณะที่ผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนรายอื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นรายกลางและรายเล็ก

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า เดิมบริษัทเคยขอบีโอไอพัฒนาโครงการบ้านและคอนโดฯขายผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากจริง แต่หลายปีที่ผ่านมาได้ปรับนโยบายกระจายพอร์ตสินค้าและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสู่ระดับกลางและบนมากขึ้น คิดเป็น 90% ของพอร์ตปัจจุบัน หากบีโอไอจะยกเลิกการส่งเสริมจริง ๆ ถือว่าบริษัทกระทบน้อยมาก ประมาณ 10% ของพอร์ต หรือคิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท และไม่มีผลต่อการดำเนินงานโดยรวมของบริษัท

"โดยส่วนตัวเห็นว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองมากกว่า"

ขณะที่นางยุพา เตชะไกรศรี กรรมการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทไม่เคยขอบีโอไอ เพราะไม่ตอบโจทย์ในเรื่องต้นทุนที่แท้จริงทั้งมูลค่าที่ดินและค่างานการก่อสร้างได้ เช่นเดียวกับนโยบายของรัฐบาลก็ไม่มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มประชาชนเป้าหมาย ฉะนั้นในความเห็นส่วนตัว รัฐควรดำเนินการนโยบายอย่างเท่าเทียม คือการแบ่งโซนเขต 1, 2 และ 3 จะดีกว่าการกำหนดเงื่อนไขทั้งขนาดพื้นที่และราคาขาย

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา จำกัด และนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ในความเข้าใจ ตลาดบ้านบีโอไอจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทำเลกรุงเทพฯ แต่จะเติบโตอยู่ในเขตปริมณฑลและต่างจังหวัด เพราะเป้าหมายรัฐต้องการสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตัวเอง

"ถ้ารัฐยกเลิกจริง เท่ากับว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากราคาบ้านจะแพงขึ้น เพราะต้นทุนเพิ่มจากการถูกยกเลิกยกเว้นภาษี ส่วนสมาชิกของสมาคมจะมีความเห็นอย่างไรคงต้องไปหารือกัน ซึ่งผมจะนำเสนอประเด็นนี้เข้าที่ประชุมของสมาคมในครั้งหน้า เร็ว ๆ นี้"

มีรายงานข่าวจากบีโอไอระบุว่า ที่ผ่านมาสถิติอนุมัติส่งเสริมการลงทุนบ้านและคอนโดฯบีโอไอ มีดังนี้ ปี 2549 จำนวน 62,134 หน่วย ปี 2550 จำนวน 13,736 หน่วย ปี 2551 จำนวน 6,573 หน่วย ปี 2552 จำนวน 12,465 หน่วย ปี 2553 จำนวน 17,860 หน่วย ปี 2554 จำนวน 13,037 หน่วย

ส่วนปี 2555 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม มีโครงการบ้านและคอนโดฯที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และอยู่ระหว่างยื่นขอส่งเสริมการลงทุน อาทิ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท โครงการบ้านพฤกษา 76 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บ้านพฤกษา 65/2 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บ้านพฤกษา 73 และ 74 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ฯลฯ บริษัท เอ.บี.เดคคอร์เรท เขตบางเขน กทม. บริษัท พนาลี เอสเตท อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ บริษัท เอส.เอ็น.แอสเซ็ท ดีเวลลอปเม้นท์ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บริษัท เอพลัส เรียลเอสเตท อ.เมือง จ.นนทบุรี บริษัท คอนเน็กซ์ชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี บริษัท รีเจ้นท์ กรีนเพาเวอร์ เขตพระโขนง กทม. เป็นต้น

โดยเงื่อนไขในการส่งเสริมการลงทุนบ้านและคอนโดฯบีโอไอ มีดังนี้ 1.ตั้งในเขต 1 และเขต 2 ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี 2.ตั้งในเขต 3 ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ทั้งนี้เขตส่งเสริมการลงทุนแบ่งเป็น 3 เขต เขต 1 มี 6 จังหวัดในส่วนกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เขต 2 มี 12 จังหวัด เขต 3 มี 58 จังหวัด
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 30-12-2555 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.