Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ประมูลพัฒนาที่ริมเจ้าพระยาแข่ง"เอเชียทีค"ชูแลนด์มาร์กใหม่20ไร่ผุดโรงแรม-แหล่งช็อปปิ้ง2พันล้าน |
|
กทพ.เตรียม ประมูลที่ดินใต้ทางด่วนแปลงไฮไลต์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานแขวน เนื้อที่กว่า 20 ไร่ ดึงเอกชนร่วมลงทุนมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ทั้งโรงแรม 3-5 ดาว คอมมิวนิตี้มอลล์ จุดชมวิวเลียนแบบโมเดล "ฮ่องกง-ออสเตรเลีย" ดีเดย์ ธ.ค.นี้ออกประกาศทีโออาร์ กำหนดยื่นข้อเสนอ ม.ค.-ก.พ.ปี"56 คิวต่อไปเล็งที่ดิน 50 ไร่ย่านอโศกนำมาเปิดประมูล
แหล่งข่าวจาก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่ใต้เขตทางด่วน อยู่ระหว่างร่างกรอบข้อกำหนด (TOR) โครงการพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนบริเวณสะพานแขวน ติดแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่กว่า 20 ไร่ เพื่อประกาศหาเอกชนที่สนใจร่วมลงทุนระยะยาว 30 ปี โดยจะพิจารณาตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ คาดว่าจะออกประกาศได้ในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นเปิดประมูลให้เอกชนยื่นข้อเสนอพัฒนาโครงการเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2556
ที่สวย 20 ไร่ริมเจ้าพระยา
"โครงการนี้เรามีแนว คิดจะพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แนวคิดจะคล้ายกับโครงการเอเชียทีคที่คุณเจริญ (สิริวัฒนภักดี) พัฒนาจนกลายเป็นจุดท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงจะเป็นโมเดลเดียวกับในประเทศฮ่องกงและออสเตรเลีย"
แหล่ง ข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับแนวคิดการพัฒนาโครงการจะเป็นรูปแบบมิกซ์ยูสหรือผสมผสานการพัฒนารูปแบบ ที่หลากหลาย เช่น ที่อยู่อาศัยในลักษณะโรงแรมระดับ 3-5 ดาว พื้นที่เชิงพาณิชย์ เป็นแหล่งช็อปปิ้งในรูปแบบคอมมิวนิตี้มอลล์ จุดชมวิวริมแม่น้ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เป็นต้น
ส่วนเงินลงทุน โครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับแนวคิดการพัฒนาโครงการของเอกชนที่จะเสนอประมูลสัมปทานเข้ามาด้วย เช่นกัน รวมถึงรายได้การพัฒนาพื้นที่ ซึ่ง กทพ.จะได้รับตลอด 30 ปีด้วย
"นอก จากแปลงตรงสะพานแขวนจะเป็นไฮไลต์แล้ว กทพ.ยังมีอีกแปลงที่กำลังอยู่ระหว่างศึกษาและจัดทำรายละเอียดโครงการคือ บริเวณทำเลอโศกติดสำนักงานใหญ่ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีซีแอล มีพื้นที่ 50 ไร่ เตรียมมาประมูลหาเอกชนมาพัฒนาเช่นเดียวกัน คาดว่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างปี 2556"
พื้นที่ใต้เขตทางรัฐตีตราจอง
แหล่ง ข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับแปลงอื่น ๆ ที่ก่อนหน้านี้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ศึกษาแผนแม่บทพัฒนาพื้นที่ใต้ทาง ด่วนให้ กทพ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเสนอให้จัดทำโครงการนำร่อง 5 แห่ง ขณะนี้มีกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยทำหนังสือขอใช้พื้นที่เพื่อพัฒนา โครงการตามนโยบายของรัฐบาล โดยใช้เป็นสถานที่จัดทำโครงการส่งเสริมสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) และเสริมสร้างสุขภาพพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็ก
ทั้ง นี้ ทั้ง 2 กระทรวงขอใช้พื้นที่ได้แก่ 1.บริเวณสุขุมวิทช่วงเพลินจิต ประมาณ 7,245 ตารางวา โดยกระทรวงสาธารณสุขขอใช้พื้นที่ 5 ปี พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็ก เช่น ลานกีฬา สนามเด็กเล่น ลานออกกำลังกาย ห้องสมุด ศูนย์เรียนรู้ การฝึกอาชีพ
2.บริเวณถนนสีลม พื้นที่ 1,606 ตารางวา ตั้งแต่ถนนสีลมถึงสุรวงศ์ ทางกระทรวงมหาดไทยขอใช้พื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์แสดงสินค้าโอท็อป โดยจะยกระดับเป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยม
3.บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม พื้นที่ 108,946 ตารางวา เริ่มต้นจากซอยศูนย์วิจัยจนถึงถนนรามอินทรา ล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุขจะขอใช้พื้นที่นำมาพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ พื้นที่แสดงสินค้าโอท็อป เหมือนกับที่ดินบริเวณเพลินจิต
อีก 2 แห่ง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ซอยศาสนา และบริเวณทางเข้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษจตุโชติของทางพิเศษฉลองรัช (อาจณรงค์-รามอินทรา-วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานไหนขอใช้พื้นที่ แต่มีแนวโน้มว่า กทพ.จะนำที่ดินบริเวณดังกล่าวมาประมูลหาเอกชนมาพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดหาราย ได้เพิ่มต่อไป ปัจจุบัน กทพ.มีรายได้จากค่าเช่าการพัฒนาพื้นที่ใต้เขตทางเฉลี่ยประมาณ 140 ล้านบาท/ปี
เปิดแผน 5 แปลงนำร่อง
อนึ่ง แผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้ทางด่วน ตามที่ กทพ.ได้ว่าจ้างให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่ปรึกษาและจัดทำแผนแม่บท นำร่อง 5 แห่ง มีข้อเสนอกรอบแนวทางการพัฒนาดังนี้ "บริเวณถนนสีลม" รูปแบบพัฒนาเป็นแบบผสมผสาน เช่น ทางเท้า สวนพักผ่อน ลานโล่งสาธารณะ ลานกีฬาชุมชน และเพื่อธุรกิจ เช่น ตลาดชุมชน ตลาดอาหาร ตลาดสินค้า มอลล์เล็ก ๆ ที่จอดรถ ศูนย์บริการรถขนส่ง ที่จอดรถและร้านค้าขนาดเล็ก ลานจอดรถในระยะสั้นและระยะยาว
"บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ซอย ศาสนา" เน้นการขนส่งสาธารณะขนาดเล็ก เพราะเป็นศูนย์รวมคมนาคม เช่น ศูนย์รถตู้ จะมีโถงพักรอผู้โดยสาร ห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องน้ำ ร้านค้าเครื่องดื่ม และพื้นที่สวน พื้นที่พาณิชยกรรม เน้นขายอาหารและสินค้า
"บริเวณ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม" แนวคิดการพัฒนา เช่น ศูนย์กีฬา ลานกิจกรรมและส่วนบริการ ลานจอดรถ ตลาดนัดสวนหย่อม และ "บริเวณทางเข้าด่านจตุโชติ" เสนอให้ทำเป็นจุดพักรถ ภายในจะมีสถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ลานจอดรถ จุดซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ที่ครบครันด้านบริการ รวมถึงเป็นจุดรองรับการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ด้วย เนื่องจากอยู่ในเส้นทางที่เข้าออกเมืองได้สะดวก |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-11-2555
|
|
|
|
|