Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
อสังหาฯโนเนม "บริษัท แอร์พอร์ตลิ้งค์ สแควร์" ลงทุน 900 ล้านผุดมอลล์ "เอ-ลิงค์สแควร์" ย่านรามคำแหง |
|
นายสมคิด ตันทัดวาณิชย์กุล ผู้ก่อตั้งบริษัท ธิงค์เวิร์ค จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาโครงการเอ-ลิ้งค์ สแควร์ เปิดเผยเบื้องต้น เหตุผลหลักในการเลือกลงทุนในทำเลย่านนี้ เพื่อก่อสร้างโครงการว่า รามคำแหง-ทองหล่อ มีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่ สุขุมวิท 71, เอกมัย, ทองหล่อ, คลองตัน, พัฒนาการ, พระราม 9, รามคำแหง และเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นชุมชนกำลังการซื้อสูงที่ตั้งมานานแล้ว และเป็นย่านที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น เป็นทั้งแหล่งที่อยู่อาศัยทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นย่านธุรกิจสำนักบริษัทห้างร้านมากมาย และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต อีกทั้งยังเป็นถนนสายหลัก ที่เชื่อมกับถนนสายต่างๆ ที่มุ่งออกไปสู่ชุมชนที่พักอาศัย และเป็นเส้นทางเชื่อมจากตัวเมืองออกไปยังฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จึงถือว่าเป็นทำเลทองระดับ เกรด A ของกรุงเทพเลย
ยิ่งปัจจุบัน มีระบบขนส่งมวลชนรองรับที่สำคัญคือ แอร์พอร์ต เรลลิงค์ จึงทำให้เชื่อมต่อสู่ใจกลางของกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิอย่างง่ายดาย ถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆของทุกค่ายจำนวนมากเกิดขึ้นในย่านทำเลนี้ และแต่ละค่ายก็สามารถขายทุกโครงการได้หมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน ชีวิตคนกรุงเทพฯต้องเปลี่ยนไปโดยอาศัยการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว มีเวลาให้กับการใช้วิถีชีวิตมากขึ้น
ด้าน นายไชยา เริงเกษตรกรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์พอร์ตลิ้งค์ สแควร์ จำกัด กล่าวต่อว่า เราลงทุนไปร่วม 900 ล้านบาทเพื่อจะพัฒนาธุรกิจย่านนี้ให้รองรับ พร้อมย้ำและมั่นใจว่า จะเป็นฮับที่สำคัญในอนาคตของกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน ซึ่งตามแผนงานก่อสร้างอาคารจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า ประมาณเดือนเมษายน 2556 ครับ ธุรกิจที่บริษัทฯ กำลังลงทุนดำเนินการอยู่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ ในโครงการเดียวกัน คือ การสร้างอาคารช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ใช้ชื่อแบรนด์ว่า A-Link Square (เอ-ลิ้งค์ สแควร์) และสร้างอาคารโรงแรมหรูระดับ 6 ดาวในนาม Niras Bangkok (นิราศ บางกอก) บนพื้นที่อาคารรวม 40,000 ตารางเมตร ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ พื้นที่ A, B, C และ D จำนวน 6 ชั้น พร้อมด้วยชั้นจอดรถใต้ดิน 2 ชั้น ที่รองรับรถได้ถึง 300 คัน พื้นที่ A, B, C จะถูกจัดสรรเป็นช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ หรือ เอ-ลิ้งค์ สแควร์ สามารถรองรับร้านค้าได้ถึง 113 ร้านค้า สัดส่วนต่างๆ ของร้านค้าในโครงการ แบ่งเป็น ร้านอาหาร 38%, แฟชั่น 18%, ไลฟ์สไตล์ 13%, ความงาม, คลินิก และสปา 10%, ธนาคารและบริการ 6%, คาเฟ่และเบเกอร์รี่ 9%, มินิช้อป 3%, ซูปเปอร์มาร์เก็ต 3% ครับ
จากการแบ่งสัดส่วนจะพบว่า ร้านอาหารมีสัดส่วนมากกว่าอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบัน ครอบครัวสมัยใหม่ มักจะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีเฉพาะ พ่อแม่ลูก รวมทั้งพ่อและแม่ต่างทำงาน ไม่มีเวลามากหนักในการทำอาหารเช่นในอดีต ทำให้คนทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น และการทานอาหารนอกบ้านก็ถือเป็นไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่งของคนในเมืองหลวงไปแล้วอีกทั้ง ในธุรกิจปัจจุบัน คนสนใจลงทุนในธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น เพราะไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่เปลี่ยนไป จะเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่จบมา มักจะฝันอยากเปิดร้านอาหาร หรือร้านกาแฟเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจทางด้าน ร้านอาหารเติบโตขึ้นอยากมาก รายเก่าเองก็ขยายธุรกิจ หรือแตกไลน์ไปในสายที่ใกล้เคียงกัน รายใหม่ๆเองก็เข้ามามากขึ้น จึงเป็นทาง เลือกให้ผู้บริโภค ได้มีโอกาสเลือกมากขึ้น
และ จากการทำสำรวจตลาดพบว่าความหลายหลายของร้านอาหารในศูนย์ จะเป็นตัวช่วยดึงลูกค้า ให้สามารถเข้ามาใช้บริการได้บ่อยขึ้น สามารถเลือกร้านที่แตกต่างกันได้ในแต่ละวัน ตลอดสัปดาห์ และสัดส่วน 35-40 % ถือว่ากำลังเหมาะสม อีกทั้งเป็นศูนย์การค้าแห่งแรก และแห่งเดียวบนเส้นทางการคมนาคม ขนส่งมวลชน แอร์พอร์ต เรลลิงค์ โดยที่ผู้คนเดินทางสามารถแวะพักรับประทานอาหาร และช้อปปิ้งก่อนขึ้นเครื่องบิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟฟ้าเพียง 12 นาที เท่านั้น นายสมคิด ตันทัดวาณิชย์กุล กล่าวเสริม
นายไชยา เริงเกษตรกรณ์ เผยต่อว่า และพื้นที่อาคาร D ของโครงการ จะถูกจัดสรรเพื่อสร้างโรงแรม นิราศ บางกอก โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ขนาด 63 ห้อง ตัวอาคารถูกออกแบบตามสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล สไตล์ (Colonial Style) โดยห้องพักเป็นแบบย้อนยุค ผสมผสานความเป็นไทย แบ่งออกเป็น 4 ธีม ได้แก่ Contemporary Classic Style, Victorian Style, Masculine & Dandy Style และ Gorgeous Style นอกจากนี้ ยังได้วางแผนงาน เพิ่มที่จอดรถไว้รองรับลูกค้าอีก 600 คัน รวมเป็นสามารถจอดรถได้ 900 คัน
และกล่าวได้ว่า การออกแบบทั้งหมดภายใต้คอนเซ็ปต์ mixed-use เพื่อให้เราเป็นศูนย์การค้าและโรงแรม ที่เป็นศูนย์รวมโครงข่ายการคมนาคม(เน้นการขนส่งสาธารณะ) แห่งแรกและแห่งเดียวของไทยเลยครับ ที่เชื่อมต่อครบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น แอร์พอร์ท เรลลิงค์ ซึ่งเราคือเจ้าแรกและเจ้าเดียวจริงๆ เพราะตัวโครงการของเราถูกออกแบบให้เชื่อมและเป็นงานโครงสร้างเดียวกันกับสถานี แอร์พอร์ต เรลลิงค์ รวมคำแหง, สถานีรถไฟสายตะวันออก เชื่อมโยงรถบริการสาธารณทางบก, เชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำ ณ คลองแสนแสบ โดยเรากำลังสร้างท่าเรือของเราเองหน้าโครงการ เพื่อสนับสนุน การรถไฟแห่งประเทศไทย ในการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ให้กับผู้ใช้บริการ ระบบมวลขนส่ง แอร์พอร์ต เรลลิงค์ มุ่งสู่ตัวเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อโครงการทั้งสิ้นก่อสร้างแล้วเสร็จ เอ-ลิ้งค์ สแควร์ จะเป็น ฮับแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่เชื่อมต่อการคมนาคมทุกระบบ รองรับธุรกิจการค้า การบริการท่องเที่ยว การเดินทาง การใช้ชีวิต และเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของคนเมืองหลวงต่อไป
แผนการตลาดหลักๆ ของโครงการคือ การใช้กลุยทธ์ The Link to all you Style โดยเน้นการสร้างกิจกรรมการตลาดตอบสนองทุกเพศและทุกวัย ด้วยดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง การทำโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าผู้เช่า การส่งเสริมการตลาดโดยเน้นการเดินทางการท่องเที่ยวร่วมกับสายการบิน บริษัทห้างร้านบริการนักท่องเที่ยว และการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายกับผู้ใช้บริการโดยสาร แอร์พอร์ต เรลลิงค์ อีกด้วย นอกจากนี้เรายังวางแผนรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยสามารถเช็คตารางบินได้ที่นี่เลย ด้วยงบการตลาด 20 ล้านบาทครับ
โครงการฯ คาดว่าจะคืนทุนภายใน 6 ปีหลังเปิดตัว ส่วนแผนรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า คือการสร้างโรงแรมขนาด 2,000 ห้อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดที่เข้ามาติดต่อธุรกิจ หรือสัมมนาในกรุงเทพมหานครครับ นายไชยา เริงเกษตรกรณ์ กล่าวปิดท้าย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 18-09-2555
|
|
|
|
|