| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 78 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 21-08-2555    อ่าน 1836
 ส่อง AEC จับตา "อินโดนีเซีย" สวรรค์ลงทุนดินแดนใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร AREA (ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส) ระบุว่า อินโดนีเซียจะเป็นดาวจรัสแสงใสอนาคต และจะเป็นบ้านหลังที่สองของนักพัฒนาที่ดินไทยที่จะ Go Inter หรือส่งออก Know How ไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดน



ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก มีขนาดที่ดิน 3.5 เท่า และขนาดประชากร 3.6 เท่าเมื่อเทียบกับประเทศไทย และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าไทย 1.8 เท่า เป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน อย่างไรก็ตามโดยที่อินโดนีเซียมีประชากรมาก จึงทำให้รายได้ประชาชาติต่อหัวของเขาน้อยกว่าไทยถึงครึ่งหนึ่ง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคนไทยรวยกว่าคนอินโดนีเซียประมาณ 1 เท่าตัว



เศรษฐกิจของอินโดนีเซียกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน ทั้งนี้เป็นเพราะประเทศนี้ที่เป็นเกาะแก่งแยกกันถึง 17,000 เกาะนั้น กลับกลายเป็นประเทศที่หลอมรวมกันจนไม่มีพรมแดน เพราะความมั่นคงทางการเมือง ผิดกับไทยที่เป็นผืนแผ่นดินติดต่อกันโดยไม่แบ่งแยก แต่กำลังมีความแตกแยกทางการเมือง จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง สงครามแบ่งแยกดินแดน (ทางภาคใต้) หรือจลาจล เป็นต้น



อินโดนีเซียจะเป็นบ้านหลังที่สองของนักพัฒนาที่ดินไทยก็เพราะ ประเทศนี้มีนครที่มีประชากรเกิน 1 ล้านคนอยู่มากมายนับสิบนคร สำหรับประเทศไทย นอกจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีประชากรราว 10 ล้านคนแล้ว นครอันดับสอง เช่น พัทยา เชียงใหม่ นครราชสีมา หาดใหญ่ ล้วนแต่มีประชากรราว ๆ 500,00 คน (รวมประชากรแฝงแล้ว ดังนั้น โอกาสที่จะไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคจึงมีจำกัด ด้วยจำนวนประชากรผู้ซื้อบ้านที่จำกัดนั่นเอง



ถ้าเทียบนครที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คนขึ้นไป อินโดนีเซียจะมีถึง 25 นครเลยทีเดียว ดังนั้นโอกาสที่จะไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ของอินโดนีเซียนอกเหนือจากนครหลวงคือกรุงจาการ์ตาแล้ว จึงมีอยู่มาก



ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ประชากรของอินโดนีเซียถึงครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเขตเมือง และจะมีจำนวนขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ประชากรเมืองของไทยมีเพียงหนึ่งในสาม เพราะคนไทยหนีเข้าป่า (ไปบุกรุกถากถางป่าสร้างหมู่บ้านชนบทกันเป็นจำนวนมาก) การที่อินโดนีเซียจนกว่าไทย และมีจำนวนประชากรเมืองมากกว่าไทย ก็เพราะประเทศนี้เป็นประเทศเกาะ ประชากรจึงจำเป็นต้องอยู่ตามนครท่าต่าง ๆ เป็นหลัก ดังนั้นโอกาสในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในนครต่าง ๆ ของอินโดนีเซีย จึงมีอีกมากมายมหาศาล

หากพิจารณาถึงสถานการณ์แต่ละนครจะพบว่า กรุงจาการ์ตาขณะนี้กำลังบูมเป็นอย่างมาก รถไฟฟ้าก็กำลังก่อสร้างกันอย่างขนานใหญ่ นครบันดุง นครสุราบายา ที่ต่างเป็นนครใหญ่ก็มีการพัฒนากันขนานใหญ่ โดยเฉพาะบันดุงต่อไปคงเชื่อมต่อเป็นอภิมหานครกับกรุงจาการ์ตา ขณะนี้นคร Bekasi นคร Bogor นคร Depok และนคร Tangarang ซึ่งล้วนแต่มีประชากรเกิน 1 ล้านคน และอยู่ติดกับกรุงจาการ์ตาก็ถือว่าถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของกรุงจาการ์ตาไปแล้ว



นคร Medan ซึ่งอยู่บนเกาะสุมาตรา และตั้งอยู่เยื้อง ๆ กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียก็มีประชากรเกิน 2 ล้านคน และเป็นนครที่มีอนาคตที่ดีในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง อีกนครหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือ นครบาตัม ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศสิงคโปร์เพียงข้ามเรือเฟอรี่โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาทีนั้น นครแห่งนี้เป็นเสมือนฐานทัพทางอุตสาหกรรมและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกที่ผู้ที่เดินทางไปสิงคโปร์จะสามารถไปเยี่ยมเยียนได้



นคร Makassar บนเกาะสุลาเวสี ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีประชากรมาก มีทรัพยากรมาก และมีโอกาสเติบโตอีกมาก ยังมีนครขนาดใหญ่นอกเกาะสุมาตราและเกาะชวาอีกหลายแห่งที่นักพัฒนาที่ดินไทยสามารถไปพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องชุดในระบบบ้านกึ่งสำเร็จรูปได้เป็นอันมาก ถ้าเศรษฐกิจประเทศนี้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประชากรก็จะสามารถหาซื้อที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 21-08-2555 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.