Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
อสังหาเงินสดล้นไม่สนวิกฤตยุโรป สำรวจ10บริษัทบิ๊กเนมสภาพคล่องทะลัก1.7หมื่นล. |
|
ดีเวลอปเปอร์ประเมินวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปกระทบธุรกิจอสังหาฯน้อย ชี้มีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและภาคสถาบันการเงินมากกว่า "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" ไม่ประมาทออกหุ้นกู้ช่วง 7 เดือนแรก 6,500 ล้าน ถือกระแสเงินสดในมือกว่า 2,800 ล้าน ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน 10 บริษัทพัฒนาที่ดินชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ยังค่อนข้างต่ำตั้งแต่ 0.5-2.2 เท่า
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มต้นจากกรีซ ยังคงลุกลามขยายวงไปยังประเทศอื่น ๆ ถึงแม้ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนส่งออกสินค้าไปยุโรปโดยตรงไม่สูงมากนัก กล่าวคือไม่ถึง 10% ของการส่งออกทั้งหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปรอบนี้คงจะมีผลกระทบกับประเทศไทยในระดับหนึ่ง
บิ๊กเนมสภาพคล่องหายห่วง
ทั้งนี้ จากการสำรวจสภาพคล่องกระแสเงินสดที่มีอยู่ในมือของบริษัทพัฒนาที่ดินชั้นนำทั้งในตลาดและนอกตลาดหลักทรัพย์ 10 ราย พบว่าส่วนใหญ่มีสภาพคล่องอยู่เกณฑ์ดี มีอัตราหนี้สินต่อทุนส่วนใหญ่อยู่ในระดับไม่เกินกว่า 1 เท่า โดยในจำนวน 10 บริษัทอสังหาฯ พบว่า 3 อันดับแรกที่มีกระแสเงินสดสูงสุดคือ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เจ้าตลาดทาวน์เฮาส์มีกระแสเงินสดในมือประมาณ 3,000 ล้านบาท
รองลงมา บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 2,867 ล้านบาท และ บมจ.แสนสิริ ประมาณ 2,765 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนสถานะอัตราหนี้สินต่อทุน ในจำนวน 10 บริษัทอสังหาฯ พบว่า บมจ.ไรมอนแลนด์มีหนี้สินต่อทุนสูงสุดคือ 12:1 เท่า เนื่องจากมีคอนโดฯที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหลายโครงการ ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ หากบริษัทได้รับเงินผ่อนดาวน์จากลูกค้าจะถูกบันทึกเป็นหนี้ อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปีนี้ไรมอนแลนด์ตั้งเป้าลดอัตราหนี้สินต่อทุนลงเหลือ 7:1 เท่า ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำกว่า 1-2 เท่า
วิกฤตยุโรป...กระทบน้อย
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัญหาเศรษฐกิจยุโรปที่เกิดขึ้นขณะนี้อาจจะส่งผลกระทบทางอ้อมกับภาพรวมธุรกิจอสังหาฯได้บ้าง แต่ไม่มากนัก ผลกระทบทางอ้อมที่ว่าคือการส่งออกปีนี้อาจจะหลุดเป้าไปบ้าง ทำให้อัตราเติบโตจีดีพีทั้งปีอาจจะเติบโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น คือไม่ถึงระดับ 6-6% เศษตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ แต่ประเมินว่าจะยังคงเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5%
ขณะที่สถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาถือว่าไปได้ดี โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมถึงแม้มีโครงการเปิดตัวใหม่จำนวนมาก แต่ก็มียอดขายดีเช่นกัน สำหรับคอนโดฯ 4 โครงการใหม่ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่เปิดตัวมาประมาณกว่า 1 เดือน มียอดขายเฉลี่ย 50%
อย่างไรก็ตาม แลนด์ฯไม่ได้ประมาท ช่วงครึ่งปีแรกที่สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างนิ่ง ได้ทยอยออกหุ้นกู้แล้วจำนวน 4,000 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ออกหุ้นกู้อีก 2,500 ล้านบาท รวมทั้งหมด 6,500 ล้านบาท รวมถึงช่วงต้นปีได้นำโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และบ้านพักอาศัยให้เช่า 3 ทำเล คือทองหล่อ พร้อมพงษ์ สาทร จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 3,300 ล้านบาท
ขณะนี้จึงถือว่าสถานะการเงินของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดี มีกระแสเงินสด 2,867 ล้านบาท สามารถใช้ดำเนินการก่อสร้างโครงการเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ประมาณ 3 เดือน และมีหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.8:1 เท่า
นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและการจัดการ บมจ.ไรมอนแลนด์ มองว่าวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปจะมีผลกระทบกับภาคธุรกิจอสังหาฯ น้อยกว่าภาคสถาบันการเงิน เช่น กรณีที่ธนาคารไปซื้อพันธบัตรของชาติต่าง ๆ ในยุโรปไว้ ฯลฯ
สำหรับไรมอนแลนด์ได้เตรียมรับมือด้วยการปรับรูปแบบโครงการและปรับพอร์ตกลุ่มลูกค้าใหม่ จากเมื่อ 2 ปีก่อนเคยจับกลุ่มลูกค้าคนไทย 30% และต่างชาติ 70% ปัจจุบันสัดส่วนสลับกันเป็นคนไทย 70% และต่างชาติอีก 30%
ขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวต่างชาติก็หันมาทำตลาดชาวเอเชียทดแทน เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฯลฯ
ส่วนอัตราหนี้สินต่อทุนตั้งเป้าจะปรับลดลงจาก 12:1 เหลือ 7:1 ภายในสิ้นปีนี้ เพราะตั้งแต่ปลายไตรมาส 2-4 จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการโอนห้องชุดคอนโดฯเดอะริเวอร์ เป้าหมายคือ 7,000 ล้านบาท
�ศุภาลัย-เพอร์เฟค� ตัวเลขเยี่ยม
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไม่ได้กังวลกับปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปมากนัก เพราะถึงแม้มีผลกระทบกับการส่งออกบ้าง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังดี เห็นได้จากตลาดหุ้นก็ไม่ได้ตกลง ในทางกลับกัน ปัญหาเศรษฐกิจยุโรปน่าจะเป็นตัวแปรไม่ให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไปมากนัก
ส่วนสถานะการเงินของบริษัทมีกระแสเงินสดคงเหลือที่ดีมาก ณ สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 1,770 ล้านบาท และมีหนี้สิ้นต่อทุนประมาณ 0.8-0.9 เท่า
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วิกฤตยุโรปรอบนี้คงส่งผลกระทบทางอ้อมมากกว่า เช่น ธนาคารอาจเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อโครงการมากขึ้น ฯลฯ
สำหรับเพอร์เฟคได้เตรียมความพร้อมเรื่องสถานะการเงิน ก่อนหน้านี้ได้ออกหุ้นกู้เพื่อนำมาใช้เพิ่มทุนและดำเนินธุรกิจ โดยมีกระแสเงินสดคงเหลือค่อนข้างสูงประมาณ 1,020 ล้านบาท สามารถใช้ดำเนินการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายองค์กรไปได้ประมาณ 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพบว่าบริษัทพัฒนาที่ดินรายอื่น ๆ พบว่ามีกระแสเงินสดตั้งแต่ 600-1,300 ล้านบาท อาทิ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ มีกระแสเงินสดประมาณ 2,000 ล้านบาท บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ มีกระแสเงินสดประมาณ 1,500 ล้านบาท บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ มีกระแสเงินสด 1,319 ล้านบาท บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น มีกระแสเงินสดประมาณ
1,000 ล้านบาท บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ มีกระแสเงินสดประมาณ 600 ล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-08-2555
|
|
|
|
|