| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 89 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 18-07-2555    อ่าน 1988
 พัทยารุ่ง รัสเซียแห่ช็อปทำเลเขาพระตำหนัก-จอมเทียนสาย2 คนไทยหลบมุมมาพัทยาเหนือ-วงศ์อมาตย์

นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและประเมินมูลค่าทรัพย์สิน บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าตลาดคอนโดมิเนียมพัทยายังคงสดใสอยู่แม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะซบเซา เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าดีมานด์จริงในพื้นที่ยังคงมีอยู่นั่นเอง ก่อนหน้านี้ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ แต่หลังจากที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจไปแล้วก็มีผู้ซื้อชาวไทยเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น โดยดีมานด์สำหรับบางโครงการจะเป็นของผู้ซื้อชาวไทยเป็นหลักด้วยซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่อยู่ทางพัทยาเหนือหรือวงศ์อมาตย์ซึ่งมีร้านค้าปลีก ร้านอาหารและบาร์ระดับไฮเอ็นด์จำนวนมากตลอดจนช้อปปิ้งมอลล์อีกแห่งหนึ่งด้วย



สำหรับคอนโดมิเนียมในบริเวณพัทยาใต้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติ ปัจจุบันจอมเทียนเป็นโซนใหม่ที่มีดีมานด์สูง มีชาวรัสเซียเป็นผู้ซื้อกลุ่มสำคัญโดยมีทำเลที่ชอบเป็นพิเศษคือเขาพระตำหนักและจอมเทียนสาย 2 โดยห้องสตูดิโอขนาด 28 ตารางเมตรในโครงการระดับโลว์เอ็นด์ที่เห็นวิวทะเลบ้างขายกันอยู่ที่ราคายูนิตละ 900,000 บาท และหลังจากที่การปรับปรุงถนนในบริเวณจอมเทียนสาย 2 เสร็จสิ้นก็ทำให้ทำเลดังกล่าวดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นและมีคอนโดมิเนียมระดับโลว์เอ็นด์โครงการใหม่ๆเกิดขึ้นแล้วอย่างเช่น ลากูน่า บีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ซื้อชาวรัสเซีย



นางสาวริษิณี กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 มียูนิตคอนโดมิเนียมประมาณ 5,500 ยูนิตจากโครงการใหม่ 12 โครงการ คอนโดมิเนียมส่วนมากที่เปิดตัวปีนี้มีโครงการระดับราคาประหยัดซึ่งมีราคายูนิตในช่วง 0.9 – 1.8 ล้านบาทด้วย

โดยทั่วไปแล้วราคาขายของคอนโดมิเนียมในพัทยาจะขึ้นอยู่กับระยะระหว่างตัวโครงการและชายหาด ยิ่งใกล้หาดเท่าใดก็ยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น โครงการที่มีราคาต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรส่วนมากจะอยู่ค่อนข้างไกลจากชายหาดหรือประมาณสองกิโลเมตร อาทิ De Blue, Unicca และ เดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ โครงการที่มีราคาสูงกว่า 60,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตรจะอยู่ในเขตเมืองอย่างเช่นพัทยาใต้ซึ่งมีร้านอาหารระดับโลก แหล่งช้อปปิ้งเกิดใหม่ และเป็นย่านกลางคืนชื่อดังอย่างเช่นวอล์คกิ้งสตรีท โครงการที่อยู่ในข่ายนี้ ได้แก่ ซิกตี้ ซิก คอนโดมิเนียม, Centara Avenue Residence and Suites, Grand Carribean และ ซิตี้การ์เด้น คอนโดมิเนียม สำหรับโครงการที่มีราคาเกินกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรจะเป็นโครงการประเภทเห็นวิวทะเลตั้งแต่พัทยาเหนือ พัทยาใต้ไปจนถึงจอมเทียน



สำหรับโซนพระตำหนักนั้นเป็นที่น่าสังเกตว่าห้องซีวิวมีราคาต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร เพราะว่าแม้จะได้วิวทะเลก็จริงแต่ระยะทางที่จะต้องเดินทางไปชายหาดนั้นไกลมากเนื่องจากบริเวณพระตำหนักไม่มีชายหาดเป็นของตนเอง



ในปีนี้มีคอนโดมิเนียมในกลุ่มซีวิวเปิดใหม่เพียงสามโครงการ ได้แก่ Waterfront, Centara Grand Residence Pattaya และ Movenpick White Sand Beach Pattaya โดยโครงการสุดท้ายนี้เป็นโครงการในบริเวณนาจอมเทียนที่เปิดตัวใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งสามโครงการจัดอยู่ในกลุ่มคอนโดมิเนียมแบรนด์โรงแรมซึ่งไม่มีการรับประกันว่าเมื่อซื้อไปแล้วจะมีผู้มาเช่า แต่ก็มีการเสริมมูลค่าในทางอื่นแทนผ่านทางการเชื่อมโยงกับแบรนด์ของโรงแรม



โครงการลักษะนี้ไม่เหมือนกับบ้านพักตากอากาศแบรนด์โรงแรมที่ให้บริการในการบริหารเพื่อให้เกิดผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง พัทยายังไม่มีโครงการใดที่จัดว่าเป็นบ้านพักตากอากาศแบรนด์โรงแรมอย่างแท้จริง โครงการลักษณะนั้นในประเทศไทยมักจะอยู่ในจังหวัดภูเก็ตอย่างเช่น Amanpuri ของเอเดรียน เซชานักพัฒนาโรงแรมชื่อดังหรือของบูติคแบรนด์ระดับลักชัวรี่ชั้นนำอย่าง Banyan Tree ทั้งสองโครงการนี้เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นเจ้าของยูนิทในโรงแรมระดับหรูทั้งคู่ อีกหนึ่งโครงการเด่นก็คือ Laguna Phuket ของ Laguna Resorts & Hotels ซึ่งประกอบด้วยหลายโครงการในพื้นที่เดียวกัน โครงการลักษณะนี้จะมีการบริหารโดยแบรนด์ระดับอินเตอร์อย่างเช่น Sheraton, Allamanda, Banyan Tree, Dusit และ Outrigger



บ้านพักตากอากาศแบรนด์โรงแรมมีการรับประกันผู้เช่าโดยมีผลตอบแทน 5-7% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ เจ้าของยูนิตสามารถจองวันที่จะเข้าพักเองได้ตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละปีแล้วทางโครงการจะกันยูนิตในวันอื่นๆที่เหลือไว้เพื่อให้เช่าตามเรทรายวันจนเกิดผลตอบแทนดังกล่าวในที่สุด
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 18-07-2555 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.