|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| การเคหะฯชง"ปู"ขอเงินอุดหนุนครึ่งราคา โปรเจ็กต์บ้านผู้มีรายได้น้อยรับผู้บุกรุกคูคลอง6จว. |
|
การ เคหะฯเปิดแผนพัฒนาบ้านผู้มีรายได้น้อยรองรับนโยบายอพยพผู้บุกรุกลำน้ำคูคลอง ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 6 จังหวัด จำนวน 1 แสนหน่วย ตั้งราคาขายหน่วยละ 6 แสนบาท ชงขอเงินอุดหนุนรัฐบาล "ปู 2" 50% ของราคาขาย เพื่อสร้างแรงจูงใจ-ลดแรงต้านจากผู้บุกรุก ควบคู่เดินหน้าประกาศรับซื้อแลนด์แบงก์ในเมืองทำเคหะชุมชนตามแนวรถไฟฟ้าสนอง นโยบายหาเสียงเพื่อไทย เผยเพดานรับซื้อที่ดินขั้นต่ำ 20 ไร่ ราคาไร่ละไม่เกิน 6 ล้านบาท
นายวิฑูรย์ เจียสกุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กคช.มีความพร้อมจัดหาที่อยู่อาศัยรองรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รุกล้ำลำน้ำ คูคลองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 6 จังหวัด โดยจัดทำแผนโครงการพัฒนาห้องชุด บ้านแถว และบ้านแฝด จำนวน 100,000 หน่วย ราคาประมาณหน่วยละ 6 แสนบาท โดยขอรับการอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นเงินงบประมาณหน่วยละ 50% ของราคาขาย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนในพื้นที่รุกล้ำลำน้ำคูคลองสมัครใจย้ายออกมา อยู่ในโครงการที่จะพัฒนาขึ้นใหม่
ผุดแนวราบ-แนวสูง 6 จังหวัด
ทั้ง นี้ เมื่อเทียบกับโครงการปกติ โครงการเคหะชุมชนลอตใหม่มีต้นทุนสูงขึ้น จากเดิมเคยขายหน่วยละ 3.9 แสนบาท ต้นทุนใหม่ทำให้มีราคาขายประมาณหน่วยละ 6 แสนบาท ในจำนวนนี้สำหรับลูกค้าทั่วไปจะขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 20% หรือ 1 แสนบาท ขณะที่โครงการรองรับกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่รุกล้ำลำคลองจะเพิ่มส่วนลดเป็น 50% ดังกล่าว
รายละเอียดแผนโครงการ พื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม จากการศึกษาสภาพปัญหา พบว่าคูคลองหลักในเขตกรุงเทพฯ 43 คลอง และเขตปริมณฑลอีก 3,000 คูคลอง มีประชาชนที่อยู่อาศัยเฉพาะพื้นที่รุกล้ำลงในคูคลองรวมมากกว่า 1.33 แสนคน ประชาชนที่อาศัยในระยะร่น 6 เมตรจากคูคลองมากกว่า 1.85 แสนคน รวมกว่า 3.08 แสนคน จึงได้จัดทำข้อเสนอพัฒนาโครงการรองรับไว้ที่ 1 แสนหน่วย หรือ 1 แสนครัวเรือนดังกล่าว
รูปแบบโครงการ จะมีแนวสูงกับแนวราบ โดยแนวสูงพัฒนาเป็นโครงการห้องชุดสูง 8 ชั้น มีลิฟต์โดยสารทุกอาคาร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 33 ตร.ม. พักอาศัยเป็นครอบครัวละ 4 คน จำนวน 5.5 หมื่นหน่วย ส่วนแนวราบจะมีทั้งบ้านเดี่ยว 2 ชั้นใต้ถุนโล่ง บ้านแฝด บ้านกลุ่ม และบ้านแถว 2 ชั้น บนที่ดินเริ่มต้น 16-24 ตร.ว. จำนวน 4.5 หมื่นหน่วย
"เปรียบเทียบโมเดลในอดีตและปัจจุบันที่เป็นอาคารสูงเพียง 5 ชั้นและไม่ได้ติดตั้งลิฟต์โดยสาร ซึ่งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้นโยบายว่า แนวทางการพัฒนาโครงการต่อไปนี้จะต้องคำนึงคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบายในการ อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย จึงเป็นที่มาของการติดตั้งลิฟต์ทุกโครงการ" นายวิฑูรย์กล่าว
เปิดพิมพ์เขียวรายทำเล
สำหรับทำเลที่ ตั้งโครงการ ถ้าเป็นโครงการห้องชุดจะอยู่ในรัศมีประมาณ 5 กม.จากพื้นที่คูคลองที่เป็นพื้นที่รุกล้ำในปัจจุบัน ขณะที่ถ้าเป็นโครงการแนวราบจะต้องอยู่ในทำเลเกิน 10 กม.ขึ้นไป เพราะมีปัจจัยเรื่องต้นทุนราคาที่ดินเป็นตัวแปรหลัก
เบื้อง ต้น จากการศึกษาพื้นที่ตั้งโครงการมีดังนี้ จ.สมุทรปราการ สำรวจ 2 บริเวณ อาทิ อ.พระสมุทรเจดีย์ อ.เมือง บางพลี บางบ่อ, จ.นนทบุรี สำรวจไว้ที่ อ.เมือง ไทรน้อย บางบัวทอง บางใหญ่ ปากเกร็ด, จ.ปทุมธานี สำรวจ 2 บริเวณ อาทิ อ.คลองหลวง ธัญบุรี อ.เมือง ลาดหลุมแก้ว ลำลูกกา สามโคก หนองเสือ, จ.นครปฐม สำรวจไว้ที่ อ.สามพราน และ จ.สมุทรสาคร สำรวจไว้ที่ อ.เมือง
รับซื้อที่ดินแนวรถไฟฟ้าทั่วกรุง
นาย วิฑูรย์กล่าวว่า ขณะเดียวกัน โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามแนวรถไฟฟ้าหรืออยู่ใน เมือง ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ก็มีความพร้อมรองรับเช่นกัน โดยอาศัยหลักการเดียวกัน คือขอรับการอุดหนุนจากรัฐบาล แต่จะมีส่วนลด 20% หรือประมาณหน่วยละ 1 แสนบาท โดยจะใช้ชื่อโครงการว่า "โครงการเคหะชุมชน" ทาง กคช.เสนอแผนพัฒนาในกลุ่มนี้อีก 1 แสนหน่วย
โดยประชาชนผู้มีรายได้ น้อยที่จะซื้อโครงการเคหะชุมชน คำนิยามก็คือเป็นกลุ่มที่มีรายได้ครัวเรือนละ 1.5-3 หมื่นบาท/เดือน ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก และกระจายอยู่ทั่วประเทศ
"หลักการ คือถ้าเป็นโครงการที่มีทำเลอยู่ในเมือง พัฒนาเท่าไหร่ก็ขายได้หมด เพราะมีดีมานด์สูง ดังนั้น ถ้าจะต้องซื้อที่ดินเพื่อมาลงทุนโครงการแล้วต้องซื้อในราคาแพงหน่อยก็ไม่ เป็นไร เพราะความเป็นไปได้ทางธุรกิจสูงแน่นอน ที่สำคัญไม่มีความเสี่ยงว่าจะขายไม่ออก"
นโยบายของ กคช.ภายใต้โครงการนี้ นายวิฑูรย์กล่าวว่า ขณะนี้ กคช.กำลังเปิดรับซื้อที่ดินที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูง อย่างน้อยต้องอยู่ในเขตเมือง หรือย่านเศรษฐกิจของแต่ละชุมชน การเดินทางเข้าถึงพื้นที่ทำได้สะดวกสบาย ขนาดที่ดินแปลงละ 20 ไร่ขึ้นไป ในราคาสูงสุด ตร.ว.ละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท หรือไร่ละไม่เกิน 6 ล้านบาท
เจรจาพันธมิตรระดมแหล่งทุน
ขณะ เดียวกัน ในด้านการจัดหาเงินทุนเพื่อนำมาพัฒนาโครงการนั้น กคช.อยู่ระหว่างเจรจาขายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่ กคช.เป็นผู้บริหารเอง ให้กับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) โดยรวบรวมพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่เป็นลูกหนี้ประวัติการชำระดี มีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้
"พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ โครงการของเรามีต้นทุนการเงินประมาณ 3-4% ขณะที่นำมาปล่อยกู้ต่อให้กับลูกค้าโครงการเคหะชุมชนในอัตราดอกเบี้ย 8% กว่า ๆ นโยบายคือจะขายทั้งก้อนโดยไม่มีส่วนลด เพราะเป็นพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพสูง หรือเป็นกลุ่มลูกค้าเกรดเอ วิธีการนี้จะทำให้การเคหะฯมีเงินสดมาลงทุนหมุนเวียนพัฒนาโครงการ ส่วนผู้ซื้อก็จะได้รับประโยชน์จากพอร์ต
สินเชื่อคุณภาพดี" นายวิฑูรย์กล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-06-2555
|
|
|
|
|
