|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| กทม.อุ้ม''สเตชั่นวัน''คดีวัดเล่งเน่ยยี่ สั่งห้ามสร้างโรงแรมติดกำแพงที่เหลือทำได้หมด |
|
โปรเจ็กต์พันล้าน "สเตชั่น วัน@ไชน่าทาวน์" ส่อสะดุด กทม.ไม่อนุมัติให้ดัดแปลงอาคารแม้จะได้ใบแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ เผยขัดแย้งกฎหมายเพียบ ทั้งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ห้ามตึกสูงเกิน 16 เมตรรอบวัดมังกรกมลาวาส-ติดล็อกกฎหมายควบคุมอาคารที่ต้องเพิ่มระบบป้องกันอัคคีภัยและที่จอดรถ "ธีระชน มโนมัยพิบูลย์" รองผู้ว่าฯกทม.โผล่ชี้ช่อง ทำได้แค่ซ่อมคืนสู่สภาพเดิม เจ้าของโครงการเตรียมแถลงข่าวสิ้นเดือน พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังบริษัท อิมพีเรียลแลนด์ จำกัด ได้ขอดัดแปลงอาคารเดิมบนถนนเจริญกรุง อยู่ติดกับวัดมังกรกมาลาวาสหรือวัดเล่งเน่ยยี่ โดยได้ยื่นไปที่สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อขอปรับปรุงอาคารดังกล่าวจาก 7 ชั้นเป็น 8 ชั้นพร้อมดาดฟ้า เพื่อทำกิจการโรงแรม ศูนย์การค้าและห้องอาหาร ภายใต้ชื่อโครงการ "สเตชั่น วัน@ไชน่าทาวน์" โดยโครงการนี้ได้รับการคัดค้านจากเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส เนื่องจากเกรงว่าจะผิดจริยธรรมเพราะอยู่ติดกำแพงวัด
อีกทั้งยังถูกกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยธ.) ตรวจสอบ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากทางวัดเล่งเน่ยยี่ว่าไม่ใช่แค่การปรับปรุง แต่เข้าข่ายดัดแปลงอาคาร จึงไม่สามารถยื่นขออนุญาตที่สำนักงานเขตได้ จะต้องไปยื่นแบบที่สำนักการโยธาเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายได้สั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราว จนกว่าแบบจะได้รับอนุมัติจากสำนักการโยธา
ติดล็อก "ห้ามดัดแปลงอาคาร"
ล่าสุดแหล่งข่าวจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัท อิมพีเรียลแลนด์ จำกัด ได้ยื่นขออนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ เพื่อดัดแปลงอาคารเดิมที่มีอายุการใช้งานมา 60 ปี จากเดิมสูง 7 ชั้น ขอดัดแปลงเพิ่มเป็น 8 ชั้นพร้อมดาดฟ้า เพื่อใช้ประโยชน์เป็นอาคารอยู่อาศัยรวม 60 ห้อง สำนักงานและเชิงพาณิชย์ มีพื้นที่ใช้สอย 4,594 ตร.ม. จะใช้เวลาก่อสร้าง 365 วัน ตั้งแต่ 14 พฤษภาคม 2555-14 พฤษภาคม 2556 ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติแบบก่อสร้างเพื่อออกใบรับแจ้ง
"ตามระเบียบข้อกฎหมายการขอตามมาตรา 39 ทวินี้ กทม.จะต้องออกใบรับแจ้งให้ภายใน 24 ชั่วโมง ใช้เวลาตรวจเอกสารอีก 7 วัน พิจารณารูปแบบที่ยื่นขอมาอีก 120 วัน ปัจจุบัน กทม.กำลังอยู่ในขั้นตอนเหล่านี้ เพราะบริษัทยื่นมาตามขั้นตอน หน้าที่ของ กทม.คือจะต้องรับพิจารณา ส่วนจะอนุมัติหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องพบว่า ไม่สามารถอนุมัติแบบได้ เพราะขัดแย้งอยู่หลายจุด 1) ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครปี 2542 ห้ามก่อสร้างอาคารบางชนิดบางประเภท บริเวณโดยรอบวัดมังกรกมลาวาสในระยะ 50 เมตร โดยพบว่าจุดที่ตั้งของอาคารดังกล่าวอยู่ในบริเวณที่ 3 ห้ามดัดแปลงอาคารสูงเกิน 16 เมตร แต่บริษัทขอดัดแปลงมาเป็นอาคาร 8 ชั้นพร้อมดาดฟ้า มีความสูงประมาณ 26 เมตร
2) เข้าข่าย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2533 และ พ.ร.บ.ฉบับปรับปรุงปี 2535 เนื่องจากอาคารที่บริษัทยื่นแบบมานี้เข้าข่ายเป็นอาคารสูง จะต้องปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ระบบความปลอดภัย ระบบป้องกันอัคคีภัย เป็นต้น 3) ขัด พ.ร.บ.ที่จอดรถ ซึ่งในแบบที่ยื่นมาไม่มีที่จอดรถ
"เมื่อพิจารณาด้านกฎหมายแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่แบบของบริษัทจะไม่ผ่านการอนุมัติ แต่บริษัทยังสามารถอุทธรณ์หรือแย้งเข้ามาได้ คาดว่าจะแจ้งผลให้ทราบในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้"
กทม.เลี่ยงบาลี...ได้แค่ซ่อม
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักการโยธา กทม.แจ้งไปยังบริษัทแล้วว่า ไม่สามารถดัดแปลงอาคารดังกล่าวได้ตามที่ยื่นขอมา เพราะเมื่อตรวจสอบแบบที่บริษัทยื่นมาถือว่าเข้าข่ายดัดแปลงอาคาร เช่น ทุบบันไดทำเป็นบันไดเลื่อน ทุบพื้นเป็นบันไดหนีไฟ และขอต่อเติมอาคารสูงเป็น 8 ชั้น เป็นต้น
"บริษัทจะทำได้แค่ซ่อมแซมอาคารให้กลับคืนสู่สภาพเดิม เช่น ทุบผนังภายในอาคารแล้วทำใหม่ เป็นต้น จะต่อเติมอะไรไม่ได้เลย ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญของนักธุรกิจ จะลงทุนอะไรต้องดูให้ละเอียดเรื่องข้อกฎหมายต่าง ๆ ต้องทำให้ถูกต้อง"
ส่วนกรณีที่เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาสออกมาคัดค้านนั้น นายธีระชนกล่าวว่า ได้หารือร่วมกับทางวัดแล้ว และได้ข้อยุติร่วมกันว่า ทางวัดยอมถอยเช่นกันหากบริษัทไม่มีการต่อเติมอาคารสูงขึ้นไปอีก และไม่ทำกิจกรรมอะไรที่ผิดจริยธรรรม
ยกเลิกแผนทำโรงแรม
นายวรพงษ์ บุพศิริ ผู้จัดการฝ่ายขายโครงการสเตชั่น วัน@ไชน่าทาวน์ เปิดเผยว่า บริษัทได้กรรมสิทธิ์เช่าที่ดินจากสำนักงานพระคลังข้างที่อายุสัญญา 34 ปี แยกเป็นก่อสร้าง 4 ปี และบริหารพื้นที่ 30 ปี ทำสัญญาเมื่อ พ.ย. 2554 ที่ผ่านมา และได้รับใบแจ้งตามมาตรา 39 ทวิจาก กทม.แล้วเมื่อกลาง พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยบริษัทยื่นขอดัดแปลงอาคารเก่า 7 ชั้น เป็น 8 ชั้นพร้อมดาดฟ้า ซึ่งบริษัทจะทุบตึกทิ้งก็ไม่ได้เพราะเป็นอาคารเก่าอายุ 60 ปี และเป็นเอกลักษณ์ของถนนเจริญกรุง จึงคงรูปแบบไว้เหมือนเดิม เพียงแต่มีการเพิ่มเติมบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ปัจจุบันที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดบริการ ความเจริญจะตามมาอีกมากมาย
"ยอมรับว่าตอนแรกออกแบบเป็นโรงแรม แต่เมื่อมีการคัดค้านจากวัดเล่งเน่ยยี่ ประกอบกับเจ้าของที่ดินคือสำนักพระคลังข้างที่เองก็ไม่อนุญาตให้ทำเป็นโรงแรม ทางเจ้าของโครงการคือคุณสุวรรณ (เลิศปัญญาโรจน์) ได้ปรับคอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการใหม่"
กางแผนผุดคอนโดฯเซ้ง 30 ปี
นายวรพงษ์กล่าวว่า รูปแบบใหม่คือบริเวณชั้นที่ 1-3 ทำศูนย์การค้า มีร้านค้ากว่า 10 ร้าน ให้เซ้งยาว 30 ปี ราคาเฉลี่ย 3 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้เช่าเต็มพื้นที่แล้วทั้งร้านสะดวกซื้อ กาแฟแบล็คแคนยอน ผู้ค้าเพชรและทอง ร้านก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น
ชั้นที่ 4-7 เป็นที่พักอาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์ มีทั้งเช่ารายเดือนและเซ้งยาว 30 ปี 56 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 30-50 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 3 ล้านบาท/ยูนิต หรือ ตร.ม.ละ 90,000-100,000 บาท ชั้น 8 ที่เป็นดาดฟ้าจะเป็นห้องโถงรับรองและสำนักงาน รวมมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท
โดยบริษัทใช้งบฯปรับปรุงอาคารเดิมประมาณ 200 ล้านบาท ยอดขายมีเข้ามาแล้ว 500-600 ล้านบาท ในส่วนคอนโดฯยังไม่เปิดขาย เนื่องจากต้องการให้มีความชัดเจนก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
"เราเข้ามาพัฒนาตรงนี้ เพราะต้องการรองรับผู้ถูกเวนคืนจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินให้มีพื้นที่ค้าขายและที่อยู่อาศัยสำหรับคนที่บ้านไกล ซึ่งคุณสุวรรณเป็นคนเยาวราชรู้จักที่นี่ดี ลูกค้าที่มาเช่าพื้นที่ค้าขายกับเราก็เป็นคนแถวนี้ทั้งนั้น ทราบมาว่าคุณสุวรรณจะแถลงข่าวด้วยตนเองภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้" นายวรพงษ์กล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-05-2555
|
|
|
|
|
