Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
''จิตวิทยาผู้บริโภค'' หลังน้ำลด รอราคาอสังหาฯตก...แค่ภาพลวงตา |
|
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้จัดสัมมนา "วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2555 กรุงเทพฯ-ปริมณฑล" เพื่อฉายภาพตลาดที่อยู่อาศัย
"ดร.ธีรธร ธาราไชย" ผู้อำนวยการสายงานวิจัยและพัฒนาธุรกิจ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ร่วมกับ "ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)" กางข้อมูลวิจัยความต้องการที่อยู่อาศัยหลังวิกฤตน้ำท่วมใน กทม.และปริมณฑล (รอบแรก) ที่จัดทำเมื่อมกราคม-กุมภาพันธ์ 2555 จากกลุ่มตัวอย่างประมาณ 450 ราย ในพื้นที่ 4 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม (เฉพาะ อ.พุทธมณฑล)
ราคาบ้าน-ที่ดินแค่ภาพลวงตา
ที่ถามกันมากคือ "ราคาที่ดิน" และ "ราคาที่อยู่อาศัย" ในอีก 6 เดือนข้างหน้า (นับจากทำวิจัย) จะตกหรือไม่ ! "ดร.ธีรธร" ตอบคำถามนี้ด้วยผลวิจัย ปรากฏว่ามี 7 ทำเลคือ 1)บางบัวทอง 2)เมืองปทุมธานี 3)ลำลูกกา-คลองหลวง 4)พุทธมณฑล-สามพราน 5)เมืองนนทบุรี 6)บางแค และ 7)บางเขน-สายไหม ที่กลุ่มตัวอย่างลงความเห็นว่า "ราคาที่ดิน" และ "ราคาที่อยู่อาศัย" จะปรับลดลงมากกว่า 5% คิดเป็นสัดส่วนสูงที่สุด และมี 4 ทำเลที่กลุ่มตัวอย่างคาดว่าราคาไม่เปลี่ยนแปลงคือ เมืองสมุทรสาคร บางกะปิ-บึงกุ่ม รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว และมีนบุรี
แต่ "ดร.ธีรธร" ย้ำว่า ความเป็นจริงต่างจากสิ่งที่คาดการณ์ เพราะราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยในพื้นที่น้ำท่วมไม่ได้ปรับลดลง !
เมื่อถามข้ามไปถึงแนวโน้มราคาในอนาคตอีก 1 ปีข้างหน้า ข้อมูลเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นชัดเจน จาก 7 ทำเลที่มีกลุ่มตัวอย่าง คาดว่าราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยจะปรับลดลงมากกว่า 5% สูงที่สุด ลดลงเหลือเพียง 3 ทำเลคือ บางบัวทอง ลำลูกกา-คลองหลวง และเมืองปทุมธานี
งานวิจัยได้ตั้งคำถามว่า...หากจะซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลน้ำท่วม สิ่งที่ต้องการให้ผู้ประกอบการดำเนินการคืออะไร ?
คำตอบคือมีระบบระบายน้ำที่ดี 23% เพิ่มความสูงโครงการ (ถมดิน) 18% มีแผนดูแลโครงการและลูกบ้านในภาวะน้ำท่วม 17% ออกแบบบ้านป้องกันน้ำท่วม 16% มีประกันภัยน้ำท่วม 14%
ส่วนคำถามว่า...ประเภทที่อยู่อาศัยที่ต้องการหลังน้ำท่วม ปรากฏว่า "คอนโดฯ" มีสัดส่วนสูงสุดคือ 44% "บ้านเดี่ยว" 35% "ทาวน์เฮาส์" 15% "อาคารพาณิชย์" และ "อื่น ๆ" อีก 6%
อีกประเด็นคือ การเลือกซื้อบ้านที่อยู่ในทำเลน้ำไม่ท่วมมีเพียง 10% เท่านั้น
ที่ซื้อเพราะเป็นทำเลน้ำไม่ท่วม สาเหตุหลักยังซื้อเพราะ "ใกล้รถไฟฟ้า" 22% และ "ใกล้ที่ทำงาน" 21%
บ้านจัดสรรเปิดตัวลดฮวบ
ด้าน "ผอ.สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. เผยผลสำรวจที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วง 4 เดือนแรกปี"55 (ม.ค.-เม.ย. 55) แยกเป็น "บ้านจัดสรร" เปิดตัวใหม่ 56 โครงการ จำนวน 6,939 ยูนิต ถือว่าน้อยมาก และลดลง 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีโครงการเปิดตัวประมาณ 20,000 ยูนิต สาเหตุจากความเชื่อมั่นลดลง ส่วน "อาคารชุด" 4 เดือนแรกเปิดตัว 50 โครงการ จำนวน 24,255 ยูนิต เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เปิดตัวประมาณ 19,000 ยูนิต เนื่องจากมีโครงการเลื่อนเปิดตัวมาจากปลายปีก่อน
ซีบีฯชี้ทำเลน้ำไม่ท่วมเริ่มฟื้น
ขณะที่ "ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย" บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ จัดทำรายงาน "ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2555" สำหรับตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ พบว่าโครงการในทำเลที่เคยถูกน้ำท่วม เริ่มมียอดขายใหม่เกิดขึ้น
"อลิวัสสา พัฒนถาบุตร" เอ็มดี "ซีบีริชาร์ดฯ" ระบุว่า ความต้องการบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ใกล้ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) แถบชานเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตยังมีมากอยู่ เนื่องจากผู้ซื้อคลายความกังวลเรื่องน้ำท่วมซ้ำ
สำหรับครอบครัวที่มีงบฯจำกัดจะซื้อทาวน์เฮาส์ในทำเลดีห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรจากระบบขนส่งมวลชน มากกว่าจะเลือกซื้อคอนโดฯขนาด 1 ห้องนอน ในย่านใจกลางเมืองที่มีราคาใกล้เคียงกัน ส่วนตลาดคอนโดฯระดับลักเซอรี่หลายแห่งปิดการขายด้วยราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตารางเมตรละ 160,000-200,000 บาท อาทิ โครงการคิว หลังสวน (คิวเฮ้าส์), ศาลาแดง เรสซิเดนเซส (บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น) ฯลฯ
ข้อมูลทั้งหมดเป็นการส่งสัญญาณว่า กำลังซื้อบ้านเริ่มฟื้นตัวจากน้ำท่วมแล้ว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-05-2555
|
|
|
|
|